• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 09 มิถุนายน 2560

    9 มิถุนายน 2560 | Economic News


 



• สำนักข่าว Telegraph รายงานว่า พรรคอนุรักษ์นิยมของ นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษน่าจะได้รับชัยชนะและได้เสียงข้างมากในสภา โดยผล Exit Poll จาก Reuters/BBC/Sky/ITV ชี้เห็นเสียงเดียวกันว่า ณ ขณะนี้พรรคอนุรักษ์นิยมมีเก้าอี้นำอยู่ 314 ที่นั่ง และพรรคแรงงานมี 266 ที่นั่ง โดยเหลืออีกเพียง 12 ที่นั่งก็จะได้ครบ 326 เก้าอี้ที่นางเมย์ต้องการเพื่อให้ได้รับเสียงข้างมากในสภาจากพรรคของตน จากเก้าอี้ในสภาจำนวนทั้งสิ้น 650 ที่นั่ง

• รายงานจาก CNBC ระบุว่า พรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเรซ่า เมย์ อาจจะสูญเสียเสียงข้างมากในสภาตามต้องการ หากผล Exit Poll ที่ออกมาถูกต้องว่า พรรคอนุรักษ์นิยมจะคว้าเก้าอี้ได้ 314 ที่นั่ง ซึ่งหากต้องการเสียงข้างมากจำเป็นต้องมีเก้าอี้ในสภา 326 ที่นั่ง

• ขณะที่ค่าเงินปอนด์ร่วงลงในวันนี้ หลังทราบผล Exit Poll ที่ว่า พรรคของนางเมย์ยังคงขาดคะแนนเสียงอีกเพียงเล็กน้อยที่จะได้รับเสียงข้างมากในสภา โดยหากผลที่ออกมาถูกต้องตาม Exit Poll ก็จะส่งผลให้เกิดความประหลาดใจและสร้างความผันผวน รวมทั้งอาจทำให้การเจรจา Brexit อาจถูกเลื่อนออกไป โดยค่าเงินปอนด์ร่วงลงมาทำต่ำสุดบริเวณ 1.2704 ปอนด์/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ง 18 เม.ย.

• รายงานจาก CNBC ระบุว่า ในการประชุม ECB เมื่อคืนที่ผ่านมาทางธนาคารกลางยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.0% และส่งสัญญาณที่จะขยายระยะเวลาของ QE ออกไปอีกถ้าจำเป็น ขณะที่ปรับคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปี 2017 ที่ระดับ 1.5%ขณะที่ในปี 2018 คาดจะอยู่ที่ 1.3% และปี 2019 คาดจะขยายตัวได้ 1.6%

• ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย โดยดัชนีดอลลาร์ขยับขึ้น 0.3% ที่ระดับ 97.236 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าลงมา 110.010 เยน/ดอลลาร์ในฐาะ Safe-Haven และค่าเงินยูโรร่วงลงต่อมาแถวะรดับ 1.1199 ดอลลาร์/ยูโร

• รายงานจากรอยเตอร์สระบุว่า นายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการ FBI ได้กล่าวว่าการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สั่งปลดเขาแบบกระทันหัน มีวัตถุประสงค์เพื่อขัดขวางการดำเนินการสืบสวนความสัมพันธ์ระหว่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯและรัฐบาลรัสเซีย เป็นความจริง

• พรรครีพับลิกันของรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้ทำการลงมตินโยบายปฏิรูปการเงิน ที่จะมาแทนที่กฎหมายการเงินปี 2010 ดอด-แฟรงก์ ที่ถูกใช้ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจของสหรัฐฯเมื่อปี 2007-2009 ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีรายงานความคืบหน้าแต่อย่างใด

• รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯออกมาดีขึ้นกว่าเดิม 10,000 ราย สู่ระดับ 245,000 ราย ขณะที่สัปดาห์ก่อนหน้าถูกปรับทบทวนขึ้นมาที่ระดับ 255,000 ราย แต่ภาพรวมก็ยังคงชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานแม้ว่าการจ้างงานเมื่อไม่นานมานี้จะมีสัญญาณชะลอตัวก็ตาม

ขณะที่ข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานล่าสุดยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 รายต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 118 และเป็นการอยู่ต่ำกว่า 300,000 รายมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ปี 1970 จึงยังเป็นตัวยืนยันสัญญาณการจ้างงานที่ขยายตัวอย่างสมบูรณ์ ขณะที่อัตราว่างงานร่วงลงสู่ระดับ 4.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปี

• ผู้ว่าการบีโอเจชี้ว่า เงินเฟ้อขยับใกล้เป้าหมาย 2% แต่นโยบายผ่อนคลายทางการเงินยังคงเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนคาดการณ์เงินเฟ้อให้มีเสถียรภาพ

• ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวร่วงลงต่อวานนี้ จากแรงเทขายทำกำไรที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ปรับตัวขึ้นเกินคาดในคืนวันพุธ โดยน้ำมันดิบ Brent ทำระดับราคาปิดต่ำสุดนับตั้งแต่ 29 พ.ย. ที่ระดับ 47.87 เหรียญ ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดลงมาที่ระดับ 45.64 เหรียญ แม้ว่าตลาดจะมีปัจจัยหนุนเป็นข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com