• ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงต่อเนื่องในตลาดเอเชีย หลังจากที่ คณะบริหารของนายทรัมป์ กล่าวหาว่า การลดค่าเงินของประเทศเยอรมนี และญี่ปุ่นถือเป็นการสร้างความได้เปรียบทางการค้า จึงส่งผลให้นักลงทุนเข้าสู่ภาวะ Risk-off และกดดันตลาดหุ้น
ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลง 2.6% สู่ระดับ 99.43 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 8 ธันวาคม ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 99.65 จุด
ขณะที่ค่าเงินเยนเช้านี้อยู่ที่ระดับ 112.70 เยน/ดอลลาร์ในตลาดเอเชีย หลังจากที่เมื่อวานนี้ปรับแข็งค่าลงมากว่า 1.5% แตะระดับแข็งค่ามากที่สุดบริเวณ 112.08 เยน/ดอลลาร์ และค่าเงินยูโรเช้านี้ทรงตัวแถวระดับ 1.0800 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ปรับแข็งค่ามากที่สุดบริเวณ 1.0812 ดอลลาร์/ยูโรวานนี้
• เมื่อวานนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ และที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจระดับสูง กล่าววิพากษ์วิจารณ์เยอรมณี ญี่ปุ่น และจีน ว่าคู่ค้าสำคัญของสหรัฐฯกำลังพยายามลดคุณค่าของเงินดอลลาร์ลง จึงอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทและผู้บริโภคในสหรัฐฯ
• ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ส่วนใหญ่ออกมาแย่กว่าที่คาดการณ์ โดย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตประจำเขตชิคาโกออกมาแย่ลงสู่ระดับ 50.3 จุดในเดือนมกราคม จากระดับ 54.6 จุดในเดือนก่อนหน้า จึงลดมุมมองสดใสต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ
• คอนเฟอร์เรนซ์ บอร์ด เผย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนมกราคาออกมาแย่ลงแตะระดับ 111.8 จุด จากระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี หลังกลุ่มผู้บริโภคบางส่วนลดการตอบสนองที่หวือหวาต่อประเด็นการเลือกตั้งที่ผ่านมา ขณะที่ข้อมูลในเดือนก่อนหน้ามีการปรับทบทวนลงมาเล็กน้อยสู่ระดับ 113.3 จุด
อย่างไรก็ดี ถึงแม้ข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคล่าสุดจะออกมาแย่กว่าที่คาดการณ์ แต่ภาคครัวเรือนยังคงอยู่ในทิศทางที่ดีจากตลาดแรงงาน จึงยังบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯอาจยังขยายตัวได้ต่อเนื่องในปีนี้
• รายงานจาก Reuters ระบุว่า เฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้ ซึ่งถือเป็นการประชุมครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯอย่างเป็นทางการ โดยเชื่อว่าเฟดน่าจะรอดูความชัดเจนมากกว่านี้เกี่ยวกับนโยบายของนายทรัมป์
• เมื่อวานนี้ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวสูงขึ้น หลังมีข่าวว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลกสามารถปรับลดกำลังการผลิตได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์
น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับตัวขึ้น 18 เซนต์ ที่ระดับ 52.86 เหรียญ/บาร์เรล แต่ภาพรวมในเดือนที่แล้วราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลงประมาณ 1.7% ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับตัวขึ้น 45 เซนต์ ที่ระดับ 55.68 เหรียญ/บาร์เรล ท่ามกลางความกังวลต่อภาวะอุปทานน้ำมันของสหรัฐฯ ที่เป็นปัจจัยสกัดกั้นความพยายามของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อื่นๆในการปรับลดกำลังการผลิต