วันนี้ตลาดหุ้นเอเชียและค่าเงินดอลลาร์ผันผวนเนื่องจากเหล่านักลงทุนรอคอยผลการประชุมเฟดที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยที่ทุกสายตาให้ความสนใจไปยังนโยบายทางการเงินของเฟดหลังจากชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีของนายโดนัล ทรัมป์เมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยดัชนี MSCI's Asia-Pacific ปรับตัวลดลง 0.1%
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงในช่วงต้นตลาดก่อนจะปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 6 วันทำการ เพราะได้รับแรงหนุนจากข่าวบีโอเจ ขณะที่นักลงทุนรีบทำการเข้าซื้อเมื่อระดับราคาถูกจึงเป็นปัจจัยที่หนุนอุปสงค์หุ้นในประเทศ
ตลาดหุ้นจีนรีบาวด์ โดยดัชนี Shanghai Composite ปรับตัวสูงขึ้น 0.1% สู่ระดับ 3,155.04 จุด แม้ว่าจีนได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการที่ดีขึ้นในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับสภาพคล่องที่ลดลง และการปราบปรามการลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทประกันต่างๆ
ตลาดหุ้นฮ่องกงทรงตัวหลังจากปรับตัวลดลง 1.4% ในช่วงก่อนหน้า โดยดัชนี Hang Seng ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย 0.1% สู่ระดับ 22,446.70 จุด แม้ว่าเหล่านักลงทุนบางส่วนยังคงชะลอการลงทุน ก่อนหน้าการประชุมนโยบายทางการเงินของเฟดที่จะเริ่มต้นขึ้นในวันนี้
ธปท.เปิดเผยผลการประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.59 เพื่อติดตามและประเมินเสถียรภาพระบบการเงินของไทย โดยเห็นว่าระบบการเงินไทยโดยรวมมีเสถียรภาพ สถาบันการเงินและธุรกิจประกันภัยมีเงินกองทุนอยู่ในระดับสูง ตลาดทุนไทยมีความทนทาน (resilience) เพียงพอสามารถรองรับเหตุการณ์สำคัญที่ผ่านมาได้ ธุรกิจขนาดใหญ่ยังมีฐานะการเงินดี ขณะที่ภาคการเงินต่างประเทศมีดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลต่อเนื่องและมีฐานะเงินสำรองระหว่างประเทศที่เข้มแข็ง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้ระบบการเงินไทยสามารถรับมือกับความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจการเงินทั้งในและต่างประเทศได้ค่อนข้างดี