• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 07 ธันวาคม 2559

    7 ธันวาคม 2559 | Economic News

ประธานบริษัท SoftBank Group ของประเทศญี่ปุ่น ที่ได้ทำการลงทุนเป็นจำนวนเงิน 1 แสนล้านเหรียญฯ สำหรับภาคเทคโนโลยีของสหรัฐฯ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ได้ประกาศเมื่อวานนี้ว่า เขากำลังมีแนวคิดที่จะทำการลงทุนเพิ่มอีก 5 หมื่นล้านเหรียญฯ ในภาคธุรกิจของสหรัฐฯ โดยการลงทุนในครั้งนี้อาจเพิ่มอัตราการจ้างงานเพิ่มอีกจำนวน 5 หมื่นตำแหน่งในสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดี นายโดนัลด์ ทรัมป์ อ้างว่าเป็นผลพวงจากการชนะการเลือกตั้งของตนเอง

เศรษฐกิจออสเตรเลียหดตัวลงในไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2011 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติประจำประเทศออสเตรเลียประกาศ จีดีพี ไตรมาสที่ 3/2016 ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 0.5% จากระดับ 0.6% ในไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากภาคธุรกิจ ผู้บริโภค และภาครัฐ มีการลดการใช้จ่ายลง ซึ่งผิดกับการคาดการณ์ของกลุ่มผู้กำหนดนโยบายการเงิน และส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง 0.5 เซนต์

โฆษกด้านภัยพิบัติแห่งชาติประจำประเทศอินโดนีเซีย ระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว 6.5 ริกเตอร์ทางตอนเหนือของประเทศอินโดนีเซีย ส่งผลให้มีผู้เสียผู้ชีวิตเพิ่มขึ้นจำนวน 52 ราย และจะมียอดผู้ประสบภัยเพิ่มขึ้นกว่า 70 ราย

ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เปิดเผยว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ (CRE) ฟื้นตัวเล็กน้อย หลังจากชะลอตัวลงอย่างหนักนับตั้งแต่อังกฤษลงมติถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) พร้อมกับเตือนว่า หากภาคธุรกิจดังกล่าวชะลอตัวลงในอนาคต ก็อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ

สำหรับรายงานการประชุมฉบับล่าสุดของ FPC ระบุว่า คณะกรรมการติดตามสถานการณ์ CRE อย่างใกล้ชิด หลังพบเม็ดเงินไหลออกสุทธิเป็นจำนวนมาก นับตั้งแต่ที่อังกฤษลงมติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.

ส่วนการทำธุรกรรมในตลาด CRE ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2559 โดยมูลค่าการทำธุรกรรมในไตรมาส 3 ของปีนี้ ลดลง 10% จากไตรมาสก่อนหน้า และร่วง 27% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่มูลค่ารวมของ CRE ลดลงราว 2.6% นับจากการลงประชามติ สำนักข่าวซินหัวรายงาน


ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงวันนี้ เนื่องจากยังมีความกังวลในข้อตกลงลดปริมานการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกและรัสเซีย ว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาปริมาณน้ำมันเกินความต้องการที่ยืดเยื้อมากว่า 2 ปีได้จริงหรือไม่

ล่าสุดราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลดลง 0.2% ที่ระดับ 53.82 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมัน WTI ปรับลง 0.33% ที่ระดับ 50.76 เหรียญ/บาร์เรล

ซึ่งกลุ่มโอเปกและประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกเตรียมจัดการประชุมช่วงสุดสัปดาห์นี้ ณ เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย เพื่อสรุปรายละเอียดแผนลดการผลิตน้ำมัน โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การลดปริมาณลงรวมทั้งสิ้น 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ท่ามกลางความสงสัยในแผนดังกล่าว โดยนักวิเคราะห์ชี้แจงว่า ตลาดน้ำมันในปี 2017 จะมีเสถียรภาพมากกว่านี้

นักวิจัยสังกัด BMI ระบุว่า “ตลาดน้ำมันในปี 2017 น่าจะมีความตึงตัวมากขึ้น เนื่องจากจะถูกกระตุ้นโดยการลดการผลิตจากประเทศนอกกลุ่มโอเปก และหากแผนดังกล่าวได้ผลจริงก็คาดหวังที่จะเห็นเสถียรภาพในตลาดน้ำมันทั่วโลกภายในไตรมาสแรกของปี 2017”


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com