• ทำไม Deutsche Bank ถึงเป็นความกังวลครั้งใหญ่ต่อภาคการเงินโลกในขณะนี้

    30 กันยายน 2559 | Economic News

อะไรจะเกิดขึ้นกับระบบภาคธนาคาร?

นับตั้งแต่เกิดภาวะวิกฤตในปี 2008 ภาคธนาคารก็มีความพยายามที่จะปรับสภาพแวดล้อมของพวกเขาใหม่ให้เหมาะสมขึ้น ขณะที่อัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ไม่เพียงพอต่อตลาดการเงิน สื่อให้เห็นว่า ภาคธนาคารต่างๆสามารถสร้างผลกำไรได้น้อยลงจากการฝากเงินของพวกเขา, การปล่อยเงินกู้ และการจัดเตรียมตลาดภาคบริการ


ด้านแผนการของรัฐบาล อาทิ กองทุนการกู้ยืมที่หนุนการจัดการของภาคธนาคารบางแห่ง ได้ช่วยสนับสนุนกิจกรรมในภูมิภาคอื่นๆ ขณะที่การใช้โปรแกรมผ่อนคลายขนาดใหญ่ (QE) ที่ช่วยลดความผันผวนของตลาด


อย่างไรก็ดี องค์กรหลายแห่งในยุโรปยอมแพ้ให้กับ “ระบบภาคธนาคารสากล” ที่มีข้อตกลงที่ส่งผลต่อกิจกรรมการลงทุนในภาคธนาคาร แม้ว่าภาคธนาคารต่างๆจะมีความพยายามปรับรูปแบบของพวกเขาเพื่อให้ผลตอบแทนปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม


ทำไมภาคธนาคารของเยอรมนีกำลังก่อให้เกิดความกังวล?

หลังจากช่วงปลายปีที่ผ่านมามีความกังวลเกี่ยวกับภาคธนาคารของสเปน อิตาลี และฝรั่งเศส ในขณะที่เศรษฐกิจของยูโรโซนประสบภาวะชะลอตัวต่อเนื่อง ตลาดการเงินเกิดความกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของ Deutsche Bank และคู่แข่งรายย่อยนับตั้งแต่เริ่มต้นปีนี้ และเป็นปีแรกนับตั้งแต่ปี 2008 ที่ Deutsche Bank ขาดทุนทั้งปี ขณะที่ความหลากหลายของหนี้สินที่เกิดขึ้น ปรกอบไปด้วยกว่า 5.2 พันล้านยูโร ซึ่งเป็นค่าปรับตามกฎหมาย และส่งผลให้เกิดพันธบัตรรูปแบบใหม่


ด้านการล้มละลายของพันธบัตร COCOS ที่มีมูลค่าความเสียหาย 4.6 พันล้านยูโร ถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการเผชิญกับภาวะวิกฤต แต่ก็ยังไม่มีธนาคารไหนกล้าเสี่ยงที่จะเอาเงินทุนไปทดสอบกับสถานการณ์เช่นนี้


ขณะที่ Deutsche Bank ก็ยังไม่แม้แต่จะเอาพันธบัตรไปเสี่ยง แต่กลุ่มบริษัทยังคงกลับมาให้ความสนใจอย่างมาก เพราะว่าค่าปรับจำนวน 1.4 หมื่นล้านเหรียญฯ จากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ Deutsche Bank ไม่สามารถนำหลักทรัพย์จำนองออกมาขายทอดตลาดได้ในช่วงไม่กี่วันก่อนเกิดวิกฤตการเงิ


หุ้นใน Deutsche Bank ลดลงเกินกว่าครึ่งนับตั้งแต่ช่วงปีนี้ ขณะที่ IMF ไม่ได้แสดงความช่วยเหลือใดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจาก IMF ถือเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดและอาจสร้างความเสี่ยงต่อระบบการให้กู้ยืมที่ใหญ่ที่สุดในโลกเช่นเดียวกัน


ด้าน Commerzbank ได้สร้างผลกระทบต่อกลุ่มนักลงทุน หลังจากมีรายงานว่า ภาคธนาคารดังกล่าวมีการปรับลดการจ้างงาน และมีโอกาสเห็นการปรับลดพนักงาน 1 ใน 5 ตำแหน่งอีกครั้ง


Deutsche Bank จัดการปัญหาอย่างไร ?

นาย จอห์น ไครแอน ประธานบริหารของ Deutsche Bank กำหนดแผนการปรับโครงสร้างเป็นระยะเวลา 5 ปี โดยจะตัดลดพนักงานประมาณ 15,000 คนของธนาคาร จากจำนวน 101,000 คน และจะมีการระงับเงินปันผลของภาคธนาคารเป็นเวลา 2 ปี นอกจากนี้ยังคาดว่า จะปิดสาขาในต่างประเทศจำนวนหลายแห่งตั้งแต่ประเทศ อาเจนตินาร์ จนถึงนิวซีแลนด์


อย่างไรก็ดี เขามีการประกาศขายบริษัท Abbey Life ซึ่งเป็นบริษัทขายประกันดั้งเดิมของอังกฤษเป็นจำนวนกว่า 1 พันล้านยูโรในช่วงต้นสัปดาห์นี้


ทั้งนี้ ประธาน Deutsche Bank ยืนกรานว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ รวมทั้งค่าปรับจำนวน 1.4 หมื่นล้านเหรียญฯ จะสามารถแก้ไขได้โดยปราศจากการขอความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ โดย Deutsche Bank น่าจะดำเนินการได้ตามหลายๆธนาคารของสหรัฐฯ รวมทั้งการเจรจาขอลดหนี้สินเพื่อให้สามารถบริหารจัดการต่อไปได้


นักวิเคราะห์บางราย อาทิ JP Morgan แสดงความคิดเห็นว่า ค่าปรับจำนวนกว่า 1.4 หมื่นล้านเหรียญฯ อาจก่อให้เกิดคำถามขึ้นมาเกี่ยวกับสถานะทางการเงินในประเทศ


รัฐบาลเยอรมนีจะให้การช่วยเหลือ Deutsche Bank ไหม?

รัฐมนตรีการคลังของเยอรมนี กล่าวว่า ยังไม่ใช่ตอนนี้ เนื่องจากรัฐบาลไม่ต้องการให้ทุกคนตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงปฏิเสธเสียงแข็งที่จะเตรียมแผนเงินทุนสำรองสำหรับการช่วยเหลือใดๆ หาก Deutsche Bank ยังไม่สามารถจัดการกับค่าปรับของสหรัฐฯได้ ขณะที่ประธานDeutsche Bank ระบุว่า ยังไม่มีความจำเป็นที่จะใช้เงินทุนใดๆในตอนนี้


ทั้งนี้ อาจเป็นเรื่องไม่สมเหตุสมผลหากรัฐบาลเยอรมนีไม่คำนึงถึงการคาดการณ์ความอ่อนแอของ Deutsche Bank ขณะที่กฎที่เข้มงวดในยุโรปอาจส่งผลให้เกิดต่อต้านการช่วยเหลือของสหรัฐฯในสถานการณ์ส่วนใหญ่แต่ก็ไม่ใช่ทุกครั้งไป



Deutsche Bank จะทำอย่างไรกับกระแสคาดการณ์ในอนาคต?

จากข่าวลือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดการควบรวมกิจการระหว่าง Deutsche และ Commerzbank ซึ่งต่างเป็นคู่แข่งรายใหญ่ และแนวความคิดเกี่ยวกับนโยบายเงินจำนวนหลายพันล้านยูโรที่ยังถูกลอยแพอยู่ ได้ส่งผลกระทบเชิงลบต่อภาคธนาคาร


Deutsche Bank มีทางเลือกในการ “ยกเลิก” การให้สิทธิพิเศษกับกลุ่มพันธบัตร COCO เพื่อให้เกิดพื้นที่ในการแก้ปัญหา โดยนักวิเคราะห์ฝ่ายสินเชื่อจาก BNP Paribas กล่าวว่า การจ่ายค่าปรับที่มีมูลค่าสูงกว่า 6 พันล้านเหรียญฯ อาจส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรลดน้อยลง


ขณะที่นักวิเคราะห์จาก Autonomous ให้คำแนะนำว่า ธนาคารควรเก็บเงิน 2.8 พันล้านยูโรเอาไว้ มากกว่าที่จะนำไปใช้จ่ายโบนัสให้กับพนักงาน



สถานการณ์ตอนนี้จะส่งผลเช่นไรต่อภาคการเงินของอังกฤษ?

Deutsche Bank มีพนักงานประมาณ 8,000 คนในอังกฤษ จึงอาจเป็นส่วนแรกที่จะเลือกปรับลดจำนวนพนักงานออฟฟิศในกรุงลอนดอน, เบอมิงแฮม และเบอเนอเมาท์


การทรุดตัวของหุ้น Deutsche กำลังสร้างความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการถือครองหุ้นกลุ่มภาคธนาคารไปทั่วโลก และอาจปล่อยให้ RBS มีความหวังลมๆแล้งๆว่ามูลค่าหุ้นจะแตะ 73.5 จุด ซึ่งระดับนี้อาจทำให้รัฐบาลอังกฤษเข้าเทขายเพื่อทำกำไร ซึ่งหาก Deutsche Bank ตัดสินใจที่จะลดการลงทุนในภาคธนาคารลงก็อาจสร้างผลประโยชน์ให้กับกลุ่มคู่แข่งในนครรัฐของอังกฤษได้ แม้ว่าผลลัพธ์ที่มืดมนเกี่ยวกับเศรษฐกิจของเยอรมนีซึ่งเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป ก็อาจทำให้เกิดการลดลงของกำลังพนักงานเป็นจำนวนมากได้


ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย Lehman Brothers?

Deutsche Bank ยังคงมีเครื่องมือมากมายในการจัดการกับกระทบเชิงลบ ซึ่งจะช่วยเพิ่มระดับเงินทุนในตลาดการเงินได้ แต่การดำเนินการดังกล่าวจะสำเร็จได้ก็ต้องได้รับความเชื่อมั่นที่เพียงพอจากกลุ่มนักลงทุนในอนาคต


นับตั้งแต่ที่ Lehman ประกาศล้มละลายในเดือนกันยายน ปี 2008 เจ้าหน้าที่ระหว่างประเทศต่างๆมีความพยายามจะสร้างโครงสร้างใหม่เพื่ออนุญาตให้แก่ภาคธนาคารที่ประสบความล้มเหลว ขณะเดียวกันก็ไม่ปล่อยให้ระบบธนาคารที่เหลือได้รับผลกระทบใดๆ


และนี่เป็นเหตุผลที่ Deutsche Bank คิดค้นพันธบัตร COCO ขึ้นมา เพื่อให้สามารถขจัดปัญหาได้ และเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมการให้ความช่วยเหลือแก่เยอรมนีอาจต้องมีกฎการช่วยเหลือที่เข้มงวดครั้งใหม่ ซึ่งเกิดขึ้นแล้วในปีนี้ โดยจะเห็นได้จากการที่ Deutsche Bank ไม่ให้ความช่วยเหลือให้กับธนาคารของอิตาลี ได้แก่ Italy’s Monte dei Pasci


หนึ่งในนักการเมืองเชิงอนุรักษ์นิยมในเมืองบาร์วาเรีย กล่าวว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่รัฐบาลจะมีรูปแบบการช่วยเหลือเช่นเดียวกับในปี 2008 แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่เตรียมวางสถานะของ Deutsche Bank ให้เหมือนกับ Lehman แม้ว่าทางธนาคารจะปฎิเสธถึงความเสมอเหมือนดังกล่าว แต่ผู้คนส่วนใหญ่ก็ยังคงทวีความกังวลเพิ่มมากขึ้น


ที่มา: Telegraph

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com