MTS Help Center

เฟดคงดอกเบี้ยด้วยคะแนน 7 – 3 เสียง

เฟดประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 0.25-0.50% สอดคล้องกับที่ตลาดคาด โดยผลการลงมติออกมาเป็น 7 ต่อ 3 เสียง ขณะที่ภาพรวมของสรุปการประชุมนั้นออกมาในทิศทางที่บ่งชี้ถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งการประเมินภาพรวมเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และการประเมินความเสี่ยงที่ลดลง

เสียงโหวตที่ไม่เห็นด้วย 3 เสียงนั้น นับว่ามากที่สุดนับตั้งแต่การประชุมเดือน ธ.ค. 2014 โดยเสียงที่โหวตไม่เห็นด้วยได้แก่ นางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัส ซึ่งเป็นผู้ที่โหวตขึ้นดอกเบี้ยมาโดยตลอด, นางโลเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ และนายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟดสาขาบอสตัน

ที่ประชุมเฟดยังส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยว่ามีมากขึ้น อย่างไรก็ดี ยังต้องรอหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจกำลังเติบโตสู่เป้าหมายของเฟด สอดคล้องกับเนื้อหาในการแถลงข่าวของประธานเฟดที่เน้นย้ำถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแบบค่อยเป็นค่อยไป

อย่างไรก็ดี สมาชิกเฟดนั้นคาดการณ์ว่าในอนาคตจะขึ้นดอกเบี้ยได้ช้าลงจากประมาณการณ์เดิมในเดือน มิ.ย. โดยการขึ้นดอกเบี้ยในปี 2017 ลงเหลือ 2 ครั้ง จาก 3 ครั้ง รวมถึงลดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะยาวลงเหลือ 2.9% จากระดับ 3% ขณะที่ยังคงคาดการณ์ว่าปีนี้จะสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ 1 ครั้งเช่นเดิม

นางเจเนต เยลเลน ประธานเฟด เน้นย้ำถึงท่าทีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแบบค่อยเป็นค่อยไปในการแถลงข่าว และมองว่าเศรษฐกิจยังสามารถขยายตัวได้อีกและไม่ได้อยู่ในภาวะร้อนแรงเกินไปแต่อย่างใด

นอกจากนี้นางเยลเลนยืนยันว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะไม่มีผลต่อการตัดสินใจของเฟดแต่อย่างใด โดยนางเยลเลน กล่าวว่าการประชุมเฟดครั้งหน้าที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 พ.ย. ซึ่งเป็นการประชุมก่อนวันเลือกตั้ง 6 วัน เฟดยังมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยเหมือนการประชุมในทุกครั้ง

ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า

ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังเฟดคงดอกเบี้ยไว้ตามเดิมและลดคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตลง แม้ว่าเฟดจะส่งสัญญาณถึงการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้และการที่มีสมาชิกเฟดที่ไม่เห็นด้วยกับการคงดอกเบี้ยไว้มากขึ้นก็ตาม

ค่าเงินดอลลาร์เมื่อวานนี้อ่อนค่าลง 0.55% สู่ระดับ 95.49 จุด และอ่อนค่าลงต่อเนื่องในเช้าวันนี้อีก 0.26% สู่ระดับ 95.41 จุด และทำจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา

น้ำมันดิบปรับตัวขึ้น

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ หรือ EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯปรับตัวลดลงอย่างมากในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยออกมาลดลง 6.2 ล้านบาร์เรล รวมถึงได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้น 2.9% ปิดที่ 45.34 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่เช้าวันนี้ปรับตัวสูงขึ้นต่ออีก 0.86% สู่ระดับ 45.73 เหรียญ/บาร์เรล