• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 21 กันยายน 2559

    21 กันยายน 2559 | Economic News

สรุปการประชุม บีโอเจ วันนี้

- ประกาศใช้เป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะยาว

- ออกเครื่องมือทางการเงินใหม่ คือ การควบคุมผลตอบแทนพันธบัตร โดยจะควบคุมผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ให้อยู่ระดับใกล้เคียงกับ 0%ผ่านมาตรการ QE

- บีโอเจ ต้องการให้อัตราเงินเฟ้อถึงเป้าหมาย 2% ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

- บีโอเจ ระบุว่า จะขยายฐานเงิน(Monetary Base) ไปจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะถึงเป้าหมาย 2%

- บีโอเจ ระบุว่า บีโอเจสามารถลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น, เป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะยาว และเพิ่มการเข้าซื้อสินทรัพย์

สรุปนโยบายการเงินของบีโอเจในปัจจุบัน

- ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ -0.1%

- คงวงเงินตามมาตรการ QE ที่ 80 ล้านล้านเยน/ปี

- คงวงเงินเข้าซื้อกองทุน ETF ไว้ที่ 6 ล้านล้านเยน/ปี

- คงวงเงินการเข้าซื้อ J-REITs ไว้ที่ 9 หมื่นล้านเยน/ปี

- คงการถือครอง Corporate Paper ที่ 2.2 ล้านล้านเยน

- คงการถือครอง Corporate Bonds ที่ 3.2 ล้านล้านเยน


นักวิเคราะห์จาก Itochu Corp. ระบุว่า การตัดสินใจในวันนี้ของบีโอเจ บ่งชี้ว่า บีโอเจกำลังเผชิญกับขีดจำกัดของนโยบายการเงินที่ใช้อยู่

ทั้งนี้หลังจากที่บีโอเจใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบ ญี่ปุ่นได้เผชิญกับปัจจัยลบหลายประการ อาทิ ค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น, หุ้นกลุ่มธนาคารชะลอตัวลง และความเชื่อมั่นภาคครัวเรือนที่หดตัว

นอกจากนี้สถานการณ์ปัจจุบันของบีโอเจในการเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE นั้นยังเผชิญกับปัญหา เนื่องจากปัจจุบันบีโอเจถือครองพันธบัตรญี่ปุ่นอยู่ถึง 1 ใน 3 ส่งผลให้มีปริมาณพันธบัตรที่เหลืออยู่ในตลาดลดลง และเกิดคำถามว่าบีโอเจเข้าถือเช่นนี้ต่อไปได้อีกนานเพียงใด



เฟดจะหยุดหรือไปต่อ ?

ฝั่งไปต่อ หรือ ขึ้นดอกเบี้ย นำโดยนายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟดสาขาบอสตัน ผู้ซึ่งระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯอาจร้อนแรงเกินไปหากไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย, นางโลเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ ผู้ซึ่งมีความมั่นใจว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง และนางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัส ผู้ซึ่งเป็นเสียงส่วนน้อยที่โหวตให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาแล้ว 3 ครั้งในปีนี้

ฝั่งหยุด หรือ คงดอกเบี้ย นำโดยนางลาเอล เบรนนาร์ด และ นายแดเนียล ทารูลโล สมาชิกคณะผู้ว่าการเฟด ที่ระบุว่า เฟดควรอดทนให้มั่นใจได้ก่อนว่าอัตราเงินเฟ้อนั้นจะปรับตัวสูงขึ้น โดยในปัจจุบันนั้นอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯอยู่ที่ระดับ 1.6% ขณะที่เป้าหมายของเฟดนั้นอยู่ที่ 2%

ส่วนตัวนางเจเนต เยลเลน ประธานเฟด ล่าสุดได้ระบุว่า เฟดมีโอกาสขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น อย่างไรก็ดี ถ้อยแถลงนางเยลเลนนั้นออกมาก่อนที่ข้อมูลภาคการผลิต, ภาคบริการ และยอดค้าปลีก ออกมาแย่กว่าคาด


นักเศรษฐศาสตร์ว่าอย่างไร

ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์จำนวน 48 คนโดย Bloomberg ระบุว่า เฟดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมคืนนี้เพียง 15% อย่างไรก็ดี นักเศรษฐสาสตร์ 65%คาดการณ์ว่าเฟดจะส่งสัญญาณว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

อดีตนักเศรษฐศาสตร์ของเฟดและศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัย Johns Hopkins ระบุว่า การประชุมในครั้งนี้คาดว่าจะมีการโต้เถียงกันมาก อย่างไรก็ดีเฟดจะพยายามให้ผลการประชุมมีความเป็นเอกฉันท์มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ดังนั้นหมายความว่าหากเฟดไม่ขึ้นดอกเบี้ย เฟดก็น่าจะส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ออกมา


น้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ เนื่องจากข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่หดตัวลงและการประท้วงของคนงานในนอร์เวย์ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันดิบ

น้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้น 1.93% ที่ระดับ 44.90 เหรียญ/บาร์เรล


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com