MTS Help Center

ค่าเงินดอลลาร์หยุดแข็งค่าขึ้นหลังความน่าจะเป็นที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยลดน้อยลง

ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวในวันนี้ หลังจากที่อ่อนค่าลงเมื่อวานนี้เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาแย่กว่าคาดเมื่อวานนี้ ช่วยลดโอกาสการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ลงต่ำกว่า 50%

ทั้งนี้ภาพรวมของค่าเงินดอลลาร์ในสัปดาห์นี้นั้นได้หดตัวลงหลังจากที่นางลาเอล เบรนนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด ระบุว่า เฟดพิจารณาให้ดีก่อนขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา จากนั้นเมื่อวานนี้ค่าเงินดอลลาร์ก็อ่อนค่าลงต่อ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาแย่กว่าคาด

ดัชนี Bloomberg Dollar Spot Index ทรงตัวในวันนี้ ขณะที่โดยภาพรวมอ่อนค่าลงมาแล้ว 0.2% จากจุดสูงสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ค่าเงินดอลลาร์ทำจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค.

ความน่าจะเป็นที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. นี้ลดลงสู่ระดับ 49.7% ลดลงจากระดับสูงสุดเดิมที่ 64.7% เมื่อวันที่ 26 ส.ค. หลังจากที่นางเจเนต เยลเลน ประธานเฟด มีถ้อยแถลงบ่งชี้ถึงการขึ้นดอกเบี้ย

ขณะที่ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์จากรอยเตอร์สจำนวนมากกว่า 100 คน โดยเฉลี่ยคาดการณ์ว่าเฟดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. นี้ที่ระดับ 70%

นักวิเคราะห์จาก National Australia Bank ระบุว่า ระยะสั้นค่าเงินดอลลาร์ถูกกกดันโดยเฟดที่คาดว่าจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ดี ในปีนี้คาดค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้นเนื่องจากเฟดน่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.

ภาคเอกชนญี่ปุ่น ไม่เชื่อว่านโยบายของบีโอเจจะช่วยให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น

ผลการสำรวจบริษัทญี่ปุ่น 250 รายโดย Reuters ได้ผลว่า บริษัทส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นอย่างมากของบีโอเจจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อได้ นอกจากนี้ยังคาดว่าการใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี โดยมีเพียง 6% เท่านั้นที่เชื่อว่าบีโอเจจะสามารถยุติภาวะเงินฝืดได้ ขณะที่ 40% ระบุว่านโยบายของบีโอเจนั้นทำลายเสถียรภาพของตลาดการเงิน

น้ำมันดิบ

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในวันนี้เนื่องจากความกังวลว่าแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯจะเพิ่มสูงขึ้นและการที่ลิเบียและไนจีเรียเริ่มกลับมาส่งออกน้ำมันดิบได้อีกครั้ง เป็นปัจจัยกดดันตลาด

ราคาน้ำมันดิบ BRENT ปรับตัวลดลง 0.8% สู่ระดับ 46.20 เหรียญ/บาร์เรล