ถ้อยแถลงสมาชิกเฟด
เมื่อวานนี้ นางลาเอล เบรนนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด (มีสิทธิออกเสียง) ได้กล่าวเตือนถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วเกินไป ซึ่งตัวเธอนั้นยังคงกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ อาทิ จีน นอกจากนี้อัตราเงินเฟ้อที่ยังไม่ถึงเป้าหมายและพัฒนาการทางเศรษฐกิจในอนาคตที่ไม่แน่นอน เฟดจึงควรรอบคอบในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเธอยังเชื่อว่ามาตรการที่ใช้อยู่ในปัจจุบันช่วยหนุนเศรษฐกิจสหรัฐฯในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งช่วยหนุนทั้งการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อ
หลังถ้อยแถลงดังกล่าวความน่าจะเป็นที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ได้ลดลงสู่ระดับ 15% จากเดิม 24% ในวันก่อนหน้า
นายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา (ไม่มีสิทธิออกเสียง) ระบุเมื่อวานนี้ว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน ด้วยอัตราเงินเฟ้อระดับ 1.6% และอัตราการว่างงาน 4.9% เฟดนั้นควรพิจารณาอย่างจริงจังว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้หรือไม่ โดยตัวเขานั้นเชื่อมั่นว่าเฟดจะสามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ในระยะถัดไปเนื่องจากการใช้จ่ายผู้บริโภคที่แข็งแกร่งและตลาดแรงงานที่เติบโต
ค่าเงินดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังถ้อยแถลงของนางเบรนนาร์ด ที่ส่งสัญญาณชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้
ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับ 95.35 จุด สู่ระดับ 95.10 จุด เมื่อวานนี้
นักวิเคราะห์จาก Standard Chartered Bank เชื่อว่าเฟดจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. นี้ และกระแสเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้นั้น จะกลายเป็นเพียงสิ่งรบกวนตลาดเท่านั้น
น้ำมันดิบ
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวานนี้หลังจากกลุ่มโอเปค คาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ
ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้น 0.9% ปิดที่ 46.29 เหรียญ/บาร์เรล
กลุ่มโอเปกคาดว่าอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 1.23 ล้านบาร์เรล/วัน ในปีนี้ สู่ระดับเฉลี่ยที่ 94.27 ล้านบาร์เรล/วัน โดยได้รับผลบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาดในช่วงครึ่งปีแรก