MTS Help Center

ดอลลาร์ทรงตัวในวันนี้ เนื่องจากทุกคนกำลังจับาข้อมูลการจ้างานสหรัฐฯ

ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวในวันนี้ เนื่องจากเหล่านักลงทุนรอคอยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐฯอย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณการปรับขันอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้

ข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯเดือนสิงหาคมออกมาดีกว่าคาด โดยอัตราการวางงานปรับตัวลดลง

ข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯประจำเดือนสิงหาคมถูกคาดการณ์ว่าจะออกมาดีขึ้น โดยอัตราการว่างงานมีแนวโน้มจะปรับตัวลดลง ขณะที่การจ้างงานสหรัฐฯมีแนวโน้มจะขยายตัวได้ในระดับปานกลาง หลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วงสองเดือนก่อนหน้า ซึ่งหากข้อมูลดังกล่าวยังแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่เพียงพอ ก็อาจหนุนให้เฟดทำการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ได้

ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์จากสำนักข่าว Reuters ระบุว่า การจ้างงานนอกภาคเกษตรมีแนวโน้มที่จะขยายตัว 180,000 ตำแหน่ง ในเดือนสิงหาคม ขณะที่อัตราการขอรับสวัสดิการคนว่างงานสหรัฐฯลดลง 0.1% ที่ระดับ 4.8%

กระทรวงแรงงานจะประกาศรายงานการจ้างงานในคืนนี้และถ้าข้อมูลออกมาตรงกับที่คาดการณ์ไว้จะหนุนมุมมองที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวหลังจากที่ชะลอตัวในช่วงครึ่งปีแรก

เท่าไหร่คือดี? สำหรับ “การจ้างงานนอกภาคเกษตรฯ

รายงานจาก Wells Fargo ระบุว่า การเติบโตของการจ้างงานนอกภาคเกษตรในปี 2016 นั้นชะลอตัวลงเมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา โดยการชะลอตัวดังกล่าวส่งผลให้นักวิเคราะห์บางส่วนกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะสูญเสียกำลังส่งไป โดยในรายงานดังกล่าวพยายามหาคำตอบว่า“ต้องมีการเติบโตของการจ้างงานนอกภาคเกษตรฯเท่าใด? จึงจะสามารถทำให้อัตราการว่างงานมีเสถียรภาพ”

อุปสงค์แรงงานในขณะนี้นั้นช่วยเพิ่มการจ้างงานในระยะสั้น อย่างไรก็ดีอุปทานแรงงานนั้นเป็นปัจจัยที่ขับเคลื่อนการจ้างงานในระยะยาว ดังนั้น จากการเติบโตของประชากรที่ชะลอตัวลงประกอบกับการปรับตัวลดลงของอัตราการมีส่วนร่วมของกำลังแรงงาน(Labor Force Participation) จะส่งผลให้การจ้างงานชะลอตัวลงในระยะถัดไป

Wells Fargo คาดการณ์ว่า ต้องมีข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรฯ ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 70,000 – 100,000 ตำแหน่ง ในปัจจุบันจนถึงปี 2020 เพื่อรักษาอัตราการว่างงานให้มีเสถียรภาพ ซึ่งระดับดังกล่าวน้อยกว่าในอดีตที่ผ่านมา โดยในช่วงทศวรรษที่ 1990s มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเดือนละ150,000 ตำแหน่ง ขณะที่ทศวรรษที่ 2000s เฉลี่ยเดือนละ 120,000 ตำแหน่ง

ราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้ หดตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค.

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น ในวันนี้หลังจากที่เมื่อวานนี้ปรับตัวลดลงมากกว่า 3% โดยเหล่านักลงทุนกำลังรอคอยข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯในค่ำคืนนี้อย่างใกล้ชิด

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้น 0.25% สู่ระดับ 43.26 เหรียญ/บาร์เรล อย่างไรก็ดีภาพรวมทั้งสัปดาห์นั้นปรับตัวลดลงมาแล้วกว่า 9% มากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากถูกกดดันโดยข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มสูงขึ้นและข้อมูลภาคการผลิตสหรัฐฯที่อ่อนแอ