ราคาทองคำในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลง ทำจุดต่ำสุดราว 1,335.66 เหรียญ หลังสหรัฐฯเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ดีราคาทองคำสามารถรีบาวด์กลับขึ้นมาได้ และปิดปรับตัวสูงขึ้นราว 5 เหรียญ โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลของนักลงทุนต่อ Brexit แม้จะได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ก็ตาม
นักวิเคราะห์จาก UBS ระบุว่า ปฏิกิริยาของตลาดทองคำต่อข้อมูลการจ้างงานนั้นดูจะลดน้อยลงไป โดยยังมีนักลงทุนอีกมากที่ต้องการเพิ่มสถานะ Long ในทองคำของตน
นักวิเคราะห์และนักลงทุนในตลาดยังคงคาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นต่อ โดยจากผลสำรวจของ KITCO ระบุว่า นักวิเคราะห์จำนวน 58% และนักลงทุน 64% คาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ดีสัดส่วนดังกล่าวน้อยลงเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนักวิเคราะห์จำนวน 65% และนักลงทุน 71% คาดการณ์ว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้เหล่านักวิเคราะห์และนักลงทุนได้คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันมาแล้ว 5 สัปดาห์ และทั้งสองกลุ่มก็คาดการณ์ได้ถูกต้องทั้ง 5 สัปดาห์
Bank of America Merrill Lynch คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นถึงระดับ 1,500 เหรียญ เนื่องจากความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลก และความเสี่ยงจากประเด็นต่างๆในสังคม อาทิ ปัญหาการอพยพ, การใช้นโยบายประชานิยม และการกระจายรายได้เป็นต้น ซึ่งปัจจัยต่างๆเหล่านี้จะส่งผลต่อการออกนโยบายเศรษฐกิจ
โดย Bank of America Merrill Lynch คาดการณ์ว่าราคาทองคำในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 1,400 เหรียญ ขณะที่ในจะอยู่ที่ระดับ 1,475 เหรียญ
ในวันศุกร์ที่ผ่านมา กองทุน SPDR เข้าถือครองทองคำเพิ่มเติมอีก 2.97 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ระดับ 981.26 ตัน