ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ในเช้าวันนี้ โดยดัชนีดอลลาร์ปรับลงมา 95.324 แต่ยังคงเคลื่อนไหวขาขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนบริเวณ 95.520 ซึ่งขึ้นไปทดสอบวันอังคาร ตอบรับรายงานประชุมเฟดที่อาจขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้
ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยในเช้าวันนี้ที่ระดับ 1.1231 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.1222ด ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินเยนเช้านี้ปรับแข็งค่าลงมา 109.66 เยน/ดอลลาร์ ด้านค่าเงินบาทเช้านี้เคลื่อนไหวบริเวณ 35.63 บาท/ดอลลาร์
ANZ ระบุว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดคาดโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 30% จาก 4% ในสัปดาห์ก่อนหน้า
นาย วิลเลียม ดัดเลย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก กล่าวในคืนวันพฤหัสบดีว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯอาจแข็งแกร่งเพียงพอที่จะสามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคม
ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯในคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา พบว่า ดัชนีภาคการผลิตประจำเขตฟิลาเดเฟียประจำเดือนพฤษภาคมออกมาแย่ลงกว่าที่คาดและติดลบมากขึ้นกว่าเดิมที่ระดับ -1.8 ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานเพิ่มขึ้นจากระดับคาดการณ์เล็กน้อยแต่ลดลงจากเดิม 16,000 ราย สู่ระดับ 278,000 ราย ขณะที่ข้อมูลยอดขายบ้านมือสองในคืนวันศุกร์ออกมาดีขึ้นเกินคาดที่ระดับ 5.45 ล้านยูนิต หรือปรับเพิ่มขึ้นจากเดิม 90,000 ยูนิต
นายจอร์จ ออสบอร์น รัฐมนตรีการคลังของอังกฤษ กล่าวเตือนว่า อังกฤษเสี่ยงจะประสบภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวระยะยาวหากผลประชามติออกมาเป็นโหวตออกจากยูโรโซน
น้ำมันดิบ WTI ปิด -0.9% ที่ระดับ 47.75 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิด -0.2% ที่ระดับ 48.72 เหรียญ/บาร์เรล โดยน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากภาวะอุปทานที่อยู่ในระดับสูงเกินไป ขณะที่รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า ถ้อยแถลงของรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานอิหร่าน แสดงให้เห็นว่า อิหร่านยังไม่มีแผนจะตรึงกำลังการผลิตและส่งออก โดยอิหร่านยังคงพยามที่จะผลิตและส่งออกน้ำมันดิบให้ได้ก่อนช่วงถูกคว่ำบาตร