ผลสำรวจจากรอยเตอร์ พบว่า เฟดน่าจะเฝ้ารอจนกว่าจะถึงเดือนกันยายน ก่อนจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง เพื่อรอความชัดเจนของสัญญาณการฟื้นตัวของอัตราเงินเฟ้อ
สำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจำนวน 2 ครั้งในปีนี้นั้น นักเศรษฐศาสตร์ได้มีการปรับเลื่อนคาดการณ์ของพวกเขา เนื่องจากพวกเขาไม่มั่นใจว่าเฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ได้หรือไม่ ท่ามกลางการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายของเฟดได้
ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์จากรอยเตอร์ส พบว่า กว่า 3 เท่าของนักเศรษฐศาสตร์ 90 ราย ยังคงมีมุมมองว่าเฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในกรอบ 0.50-0.75% ในเดือน
มิถุนายนนี้ ขณะที่บางส่วนไม่คิดว่าเฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ เนื่องจากมุมมองเศรษฐกิจสหรัฐฯในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมายังคงมีความผันผวน โดยจะเห็นได้ถึงการชะลอตัวของการจ้างงานในเดือนเมษายน และจีดีพีไตรมาสที่ 1 ที่ออกมาแย่กว่าที่คาด
นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก Wells Fargo กล่าวว่า ยังไม่คิดว่ากำหนดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนมิถุนายนจะถูกยกเลิก แต่เป็นอีกครั้งที่พวกเราจำเป็นต้องดูความแข็งแกร่งของข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯระหว่างนี้ และจับตาประชุมเฟดที่จะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้
เมื่ออ้างอิงจากประมาณการณ์ที่ผ่านมาของเฟด พบว่า กรอบของอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะอยู่ที่ 0.50 – 0.75% ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ และ 0.75-1.00% ในช่วงสิ้นปี จากระดับ 0.25-0.50% ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์ยังมีมุมมองว่า เฟดมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงสิ้นเดือนกันยายน ขณะที่โอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคมประมาณ 40%
ที่มา: Reuters