• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 7 มีนาคม 2559

    7 มีนาคม 2559 | SET News

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน โดยยังปรับตัวขึ้นต่อจากสัปดาห์ที่แล้วจากการฟื้นตัวของข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯ และการรีบาวน์ของราคาน้ำมันดิบ รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์

โดยดัชนี MSCI's broadest index of Asia-Pacific shares ex japan ปรับตัวขึ้น 0.6% จึงช่วยชะลอภาพรวมภาพรวมนับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2016 ที่ปรับตัวลงไปประมาณ 80%

ด้านดัชนีนิกเกอิปรับตัวลดลงจากแรงเทขายทำกำไร โดยเหล่าเทรดเดอร์กังวลต่อการแข็งค่าของค่าเงินเยน รวมถึงการปรับทบทวนจีดีพีไตรมาสที่ 4/2015 ของญี่ปุ่นที่จะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ซึ่งคาดว่าจะยังคงแสดงให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจหดตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ประมาณการณ์ขั้นต้น

สำหรับตลาดหุ้นจีนมีการปรับตัวขึ้นหลังจากที่นายกรัฐมนตรีจีนเผยแผนเศรษฐกิจใหม่ในรอบ 5 ปี ซึ่งประกอบไปด้วยเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ระดับ 6.5-7% รวมทั้งเพิ่มสัดส่วนการขาดดุลต่อตัวเลขจีดีพีขึ้นเป็น 3%

รายงานจาก Bloomberg ระบุว่า แม้วันนี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นจะปรับตัวลดลง แต่นักลงทุนในตลาดมองว่ามีเหตุผลอีกมากที่ให้เชื่อว่าตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้

ปัจจัยบวก คือการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น, ค่าเงินเยนอ่อนค่าลง, นักลงทุนของรัฐบาล อาทิ กองทุนบำเหน็จบำนาญ กลับเข้ามาซื้อหุ้น รวมถึงการทำ short covering และ bargain hunting ของนักลงทุน หลังจากที่เทขายหุ้นออกมาในปีที่ผ่านมา


ภาพ : ชี้ให้เห็นว่าความผันผวนของดัชนีนิเคอิกำลังลดลง

หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนจาก AMP Capital Investors Ltd. ระบุว่า ตลาดกระทิงของญี่ปุ่นดูมีเสถียรภาพ เนื่องจากความกังวลของนักลงทุนต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกได้ลดน้อยลงไป ค่าเงินเยนจึงน่าจะเริ่มอ่อนค่าลงและจะช่วยให้นักลงทุนในตลาดมองว่าบริษัทญี่ปุ่นจะทำกำไรได้มากขึ้น

หัวหน้านักกลยุทธ์หุ้นจาก Merrill Lynch ระบุว่า กองทุนบำเหน็จบำนาญของญี่ปุ่น ซึ่งมีมูลค่ารวม 1.2 ล้านล้านเหรียญ อาจเข้าซื้อหุ้นญี่ปุ่นจำนวน 35,000 ล้านเหรียญ หรือ 4 ล้านล้านเยน โดย Trust banks ซึ่งเป็นตัวแทนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ได้เข้าซื้อสุทธิติดต่อกัน 14 สัปดาห์

ดัชนี Nikkei 225 ในวันนี้ปรับตัวลดลง 0.6% สู่ระดับ 16,911.32 จุด หลังจากที่สามารถปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันได้ 4 วันทำการ โดยนักวิเคราะห์จากรอยเตอร์ส ระบุว่า เกิดจากการเทขายทำกำไรของนักลงทุนหลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้นมากในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ตลาดหุ้นฮ่องกงทรงตัวในวันนี้ แม้ว่าตลาดหุ้นจีนจะปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม โดยนักวิเคราะห์จากรอยเตอร์สระบุว่า ตลาดหุ้นฮ่องกงได้รับแรงกดดันจากการเทขายทำกำไรเนื่องจากในรอบ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้นไปแล้วกว่า 10%

โดยดัชนี Hang Seng ปรับตัวลดลง 0.1% สู่ระดับ 20,159.72 จุด

กรรมการผู้จัดการฝ่ายวิจัย ประจำ BOCOM International ระบุว่า ตลาดหุ้นฮ่องกงอาจสามารถปรับตัวสูงขึ้นต่อไปได้ หากนักลงทุนกลับเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง อีกทั้งตลาดหุ้นฮ่องกงได้รับปัจจัยและข่าวสารด้านลบไปมากแล้ว อีกทั้งปัจจุบันยังถูกประเมินมูลค่าไว้ต่ำ ดังนั้นตลาดหุ้นฮ่องกงน่าจะสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้ต่อ

ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกัน 5 วันทำการ นำโดยหุ้นกลุ่มทรัพยากรธรรมชาติและหุ้นขนาดเล็ก หลังจากที่กลุ่มผู้นำจีนได้ออกมาประกาศถึงความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจจีนว่ายังคงแข็งแกร่งแม้จะต้องเกิดการปฏิรูปเศรษฐกิจครั้งใหญ่ก็ตาม

ดัชนี Shanghai Composite Index ปรับตัวสูงขึ้น 0.8% สู่ระดับ 2,897.34 จุด

รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงความคืบหน้าในเรื่องการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific partnership: TPP) นั้น โดยระบุว่า นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไทยคงจะเข้าร่วมเจรจากในการเข้าเป็นสมาชิกTPP แต่ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาเตรียมการรองรับประเด็นต่าง ๆ

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) คาดว่าปีนี้ต่างชาติจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น โดยเชื่อว่าทั้งปีจะมีตัวเลขเป็นซื้อสุทธิ จากปีก่อนต่างชาติขายสุทธิไปราว 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันมียอดซื้อสุทธิเข้ามาแล้ว 5.8 พันล้านบาท

โดยมองว่าเป็นผลมาจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนออกมาค่อนข้างดี โดยกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนในปี 2558 ที่ผ่านมาติดลบเพียง 1.3% แต่อย่างไรก็ตามหากตัดผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจด้านน้ำมัน ปิโตรเคมี จะส่งผลให้บริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิเติบโต 5.95% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ดีที่สุดในอาเซียน

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com