• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 18 มกราคม 2566

    18 มกราคม 2567 | Gold News

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันพุธ โดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งเกินคาด


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -22.16 เหรียญ หรือ -1.09% อยู่ที่ระดับ 2,006.35 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 23.70 เหรียญ หรือ 1.17% ปิดที่ 2,006.50  เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 42.40 เซนต์ หรือ 1.84% ปิดที่ 22.669  เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 14.80 ดอลลาร์ หรือ 1.64% ปิดที่ 889.60  เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 2.3 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 862.1 ตันภาพรวมเดือนมกราคม ขายสุทธิ 17.01 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 17.01 ตัน


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ระดับ 103.36 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 4.104% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.14 % มาอยู่ที่ระดับ 4.363% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.26% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 55% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนักกว่า 60% ในช่วงก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีก นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 40.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันดังกล่าว หลังจากที่ให้น้ำหนัก 34.9% ก่อนหน้านี้


  • ประธานาธิบดีคริสติน ลาการ์ดกล่าวให้สัมภาษณ์ที่ Bloomberg House ในเมืองดาวอสว่า ธนาคารกลางยุโรปมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงฤดูร้อน 


  • ปอนด์แข็งค่าหลังอังกฤษเผยอัตราเงินเฟ้อเร่งสูงขึ้น สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) รายงานว่า อัตราเงินเฟ้อของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) อังกฤษเร่งตัวขึ้นสู่ 4.0% ในเดือนธ.ค.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งถือเป็นการเร่งตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน โดยปรับขึ้นจาก 3.9% ในเดือนพ.ย. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี 


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งเกิดคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,266.67 จุด ลดลง 94.45 จุด หรือ -0.25%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,739.21 จุด ลดลง 26.77 จุด หรือ -0.56% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,855.62 จุด ลดลง 88.73 จุด หรือ -0.59%


  • ดัชนี Hang Seng China Enterprises ลดลงต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2022 มาตรฐานเนื่องจากชาวต่างชาติขายหุ้นมูลค่ากว่า 1.8 พันล้านดอลลาร์ เมื่อคำนวณสุทธิ ซึ่งมากที่สุดในรอบ 1 ปี


  • สำนักข่าวรอยเอตร์รายงาน การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนของจีนและยอดขายบ้านที่ตกต่ำครั้งใหม่ ทำให้นักลงทุนมีความมุ่งมั่นในการหลีกเลี่ยงตลาดของประเทศเป็นสองเท่า ส่งผลให้หุ้นร่วงลงเนื่องจากชาวต่างชาติลาออกเนื่องจากขาดการสนับสนุนนโยบายใหม่


  • สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปี 2566 ของจีน ขยายตัว 5.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลจีนกำหนดไว้ที่ราว 5% หลังจากจีนยุติการใช้มาตรการล็อกดาวน์ป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นมาตรการที่ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงสู่ระดับ 3% ในปี 2565


  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% ส่วนเมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 5.6% ในเดือนธ.ค.


  • การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ให้ความสนใจ ขณะที่เธอกำลังพิจารณาถึงความเสี่ยงที่อาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น


  • นางกีตา โกปินาธ รองกรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า นโยบายคุมเข้มด้านการเงินที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ดำเนินการในช่วงที่ผ่านมานั้น มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐแล้วประมาณ 75%


  • การที่กบฏฮูตีในเยเมนโจมตีเรือพาณิชย์ในทะเลแดงแบบต่อเนื่องไม่เพียงทำให้อัตราค่าระวางเรือพุ่งสูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังจะทำให้อัตราค่าระวางการขนส่งทางอากาศปรับตัวขึ้นด้วย เนื่องจากการไหลเวียนของการค้าทั่วโลกเผชิญกับภาวะติดขัดเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ



  • คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนมีแนวโน้มที่จะขึ้นบัญชีดำกลุ่มกบฏฮูตีในฐานะผู้ก่อการร้ายที่เป็นภัยต่อโลกมากที่สุด หลังจากที่เครื่องบินรบ เรือรบ และเรือดำน้ำของสหรัฐและอังกฤษเปิดฉากการโจมตีทางอากาศหลายสิบครั้งทั่วเยเมนในชั่วข้ามคืน อย่างไรก็ตาม กลุ่มฮูตีได้ขู่ว่าจะตอบสนองต่อการกระทำดังกล่าวอย่างรุนแรง


  • นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐกล่าวถึงการโจมตีของสหรัฐในการประชุมเศรษฐกิจโลก ว่าเราไม่ต้องการสร้างความขัดแย้งในภูมิภาค แต่เราขอรักษาสิทธิในการดำเนินการโจมตีต่อไป เนื่องจากกลุ่มฮูตีไม่มีสิทธิ์เข้ามาคุกคามการค้าโลก

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ หลังจากมีรายงานว่าสภาพอากาศที่หนาวเย็นได้ส่งผลให้การผลิตน้ำมันในพื้นที่บางแห่งของสหรัฐปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันลดช่วงบวก หลังจีนเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์พลังงานในจีน


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ หรือ 0.22% ปิดที่ 72.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 41 เซนต์ หรือ 0.52% ปิดที่ 77.88 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • ราคาน้ำมัน WTI ปิดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า รัฐนอร์ท ดาโคตา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันขนาดใหญ่ของสหรัฐ เผชิญกับอุณหภูมิที่ต่ำกว่าศูนย์องศาฟาเรนไฮต์ ส่งผลให้การผลิตน้ำมันในรัฐแห่งนี้ลดลงราว 650,000 – 700,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นเป็นสัดส่วนสูงกว่า 50% ของการผลิตในภาวะปกติ


  • อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันลดช่วงบวก หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า GDP จีนขยายตัว 5.2% ในไตรมาส 4/2566 ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 5.3% และทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจว่าอุปสงค์น้ำมันในจีนจะฟื้นตัวในปีนี้หรือไม่


  • EIA คาดว่า ผลผลิตน้ำมันของสหรัฐจะลดลงเหลือ 9.68 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก.พ. อันเนื่องมาจากผลผลิตที่ลดลงของภูมิภาคอีเกิลฟอร์ดและแบ็คเคน ขณะที่ผลผลิตจากภูมิภาคที่มีการผลิตน้ำมันมากเป็นอันดับต้น ๆ ของสหรัฐอย่างลุ่มน้ำเพอร์เมียนก็ชะลอตัวลง


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • ค่าเงินบาทเช้าวันนี้เปิดตลาด 35.58 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าต่อเนื่องเมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 35.50 บาทต่อดอลลาร์ ประเมินกรอบเคลื่อนไหววันนี้ 35.50- 35.80 บาทต่อดอลลาร์


  • ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ระบุว่า มาตรการแก้หนี้ครัวเรือนที่ผ่านมา และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อาจยังไม่เพียงพอทำให้ระดับหนี้ครัวเรือน ลดลงต่ำกว่าระดับที่ต้องเฝ้าระวัง หรือต่ำกว่าระดับ 80%


  • รมช.คลัง กล่าวถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ว่า ตอนนี้ยอมรับว่าเวลาเริ่มตึง เพราะ พ.ค. 67 ซึ่งเป็นกรอบเวลาที่ถูกวางไว้ก็ใกล้เข้ามาทุกที แต่ไม่ว่าอย่างไรรัฐบาลยังยืนยันตามกรอบเวลาเดิม ส่วนกรณีถ้าไม่ทัน พ.ค. ก็คงต้องขยับไปเป็น มิ.ย. 67 


  • นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ประจำเดือนธ.ค. 66 อยู่ที่ระดับ 88.8 ปรับตัวลดลง จาก 90.9 ในเดือนพ.ย. เมื่อพิจารณาองค์ประกอบของค่าดัชนีฯ พบว่าปรับตัวลดลงเกือบทุกองค์ประกอบ ทั้งดัชนีฯ คำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ ขณะที่ดัชนีฯ ต้นทุนประกอบการปรับเพิ่มขึ้น


  • รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวสูงกว่าที่คาดการณ์ เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ที่ยังคงเดินทางเข้ามาเป็นอันดับที่ 1 หรือเพิ่มขึ้น 27.75% จากสัปดาห์ก่อนหน้า อีกทั้งนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ขยับขึ้นมาเป็นอันดับที่ 3





ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com