• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 20 ธันวาคม 2566

    20 ธันวาคม 2566 | Gold News

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นข้อมูลเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 13.0 เหรียญ หรือ 0.64% อยู่ที่ระดับ 2,040.24 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 11.60 เหรียญ หรือ 0.57% ปิดที่ 2,052.10 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 21.40 เซนต์ หรือ 0.89% ปิดที่ 24.321 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 11.50 เหรียญ หรือ 1.21% ปิดที่ 965.80 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 2.02 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 877.67 ตันภาพรวมเดือนธันวาคม ซื้อสุทธิ 1.16 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 39.97 ตัน


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.28 จุด หรือ -0.27% มาอยู่ที่ระดับ 102.19 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง 0.0 % มาอยู่ที่ระดับ 3.931% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง 0.0 % มาอยู่ที่ระดับ 4.444% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.51% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • Barkin ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอลด์กล่าว แนะนำว่าธนาคารกลางสหรัฐจะลดอัตราดอกเบี้ย หากความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อยังคงดำเนินต่อไป แต่เขายังคงมองหาความเชื่อมั่นว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังกลับสู่เป้าหมาย 2% ของเฟด


  • แมรี่ ดาลี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโกกล่าว การลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของเฟดอาจจะเหมาะสมในปีหน้า เนื่องจากการปรับตัวดีขึ้นของเงินเฟ้อในปีนี้


  • ฝ่ายวิจัยโลก แบงก์ ออฟ อเมริกา (บีโอเอฟเอ) คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สี่ครั้งในปีหน้า โดยจะเริ่มในเดือนมี.ค.


  • นายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ระบุในภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ ว่า ความเป็นไปได้ที่เงินเฟ้อของญี่ปุ่นจะเคลื่อนตัวสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% อย่างยั่งยืนนั้น กำลังเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็อาจจะต้องใช้เวลามากขึ้น และ BOJ จำเป็นต้องพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจเพื่อประเมินว่าค่าจ้างและการจ่ายค่าตอบแทนยังคงอยู่ในวงจรขาขึ้นหรือไม่


  • นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) จะคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีที่ระดับ 3.45% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีไว้ที่ระดับ 4.20% ในวันนี้


  • นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลกระบุว่า การพุ่งขึ้นมากของอัตราเงินเฟ้อที่ทำให้ธนาคารกลางทั่วโลกต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วที่สุดในรอบหลายทศวรรษนั้นมีแนวโน้มว่าจะลดลงต่อไปในช่วงหลายเดือนข้างหน้า


  • สมาชิกสภาบริหารธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และผู้ว่าการธนาคารกลางกรีซ กล่าวว่า อีซีบีต้องเห็นอัตราเงินเฟ้อต่ำกว่า 3% อย่างมีเสถียรภาพภายในกลางปีหน้าก่อนที่จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 9 ในวันอังคาร ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่เหนือระดับ 15,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2565 โดยตลาดยังคงได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,557.92 จุด เพิ่มขึ้น 251.90 จุด หรือ +0.68%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,768.37 จุด เพิ่มขึ้น 27.81 จุด หรือ +0.59%
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,003.22 จุด เพิ่มขึ้น 98.03 จุด หรือ +0.66%


  • โกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มคาดการณ์เป้าหมายดัชนี S&P500 ในปี 2567 ขึ้น 8% สู่ระดับ 5,100 จุด โดยคาดว่าตลาดหุ้นสหรัฐจะได้แรงหนุนจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด และคาดว่าแรงขับเคลื่อนตลาดในปี 2567 จะมาจากหุ้นวัฏจักร (Cyclical Stocks) 


  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรแห่งชาติของยูเครนระบุว่า ความยากลำบากในการขนส่งและการเดินทางส่งผลให้ยูเครนมียอดการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของยูเครนลดลง 7% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนม.ค.-พ.ย. รวมถึงส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าอาหารเพิ่มขึ้นด้วย


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันอังคาร โดยตลาดยังคงได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกอาจได้รับผลกระทบ หลังจากกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดง ซึ่งทำให้การค้าทางทะเลเผชิญปัญหาติดขัด และส่งผลให้บริษัทเดินเรือหลายแห่งตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือ


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 97 เซนต์ หรือ 1.34% ปิดที่ 73.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.28 ดอลลาร์ หรือ 1.64% ปิดที่ 79.23 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • เอพี โมลเลอร์-เมอส์ก บริษัทขนส่งทางเรือและโลจิสติกส์ของเดนมาร์กเปิดเผยว่า บริษัทจะเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือไปทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในทะเลแดง หลังจากกลุ่มกบฏฮูตีได้โจมตีเรือหลายลำ


  • โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า ผลกระทบที่มีต่อการไหลเวียนของพลังงานในทะเลแดงอันเนื่องมาจากเรือบรรทุกสินค้าถูกโจมตีนั้น จะไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อราคาน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เนื่องจากการเปลี่ยนเส้นทางของเรือบรรทุกสินค้าจะทำให้เรือเหล่านี้ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการโจมตีของกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน


  • ต้นทุนการขนส่งสินค้าทางทะเลไปยังอิสราเอลปรับตัวขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากบริษัทขนส่งตู้คอนเทนเนอร์บางส่วนถอนตัวจากการรับจ้างขนส่ง ขณะที่บางบริษัทเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่ม ซึ่งส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของอิสราเอลท่ามกลางภาวะสงครามในฉนวนกาซา


  • นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ เวลาประมาณ 22.30 น.ตามเวลาไทย


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ


  • เจ้าหน้าที่สหรัฐเปิดเผยว่าได้ขยายกองกำลังนานาชาติทางทะเลในทะเลแดง เพื่อป้องกันการโจมตีที่เพิ่มขึ้นโดยกลุ่มกบฏฮูตีซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน โดยการโจมตีเหล่านี้ได้สร้างปัญหาแก่เส้นทางเดินเรือระหว่างประเทศ


  • สำนักข่าวกลาง (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือได้ขู่ดำเนินมาตรการเชิงรุกที่รุนแรงมากขึ้น เพื่อขับไล่สิ่งที่เขามองว่าเป็นภัยคุกคามทางการทหารที่กำลังเพิ่มมากขึ้นซึ่งนำโดยสหรัฐ หลังจากที่เขาควบคุมการทดสอบขีปนาวุธที่ทันสมัยที่สุดของเกาหลีเหนือเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อโจมตีดินแดนของสหรัฐ


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุนธนาคารกรุงไทยเผยค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 34.86 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.99 บาทต่อดอลลาร์ และมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.75-35.00 บาท/ดอลลาร์ 


  • รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบ พร้อมอนุมัติวงเงินจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 รวม 4,900 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งประกอบด้วย 3 มาตรการ ดังนี้

1. มาตรการช่วยเหลือพักหนี้ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 วงเงินงบประมาณ 400 ล้านบาท

2. มาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือและรองรับลูกหนี้นอกระบบ วงเงิน 4,500 ล้านบาท

3. มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตามโครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีอาชีพอิสระ





ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

 

 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com