MTS Help Center

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นกว่า 3% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -12.2 เหรียญ หรือ -0.63% อยู่ที่ระดับ 1,920.17 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 7.20 เหรียญ หรือ 0.37% ปิดที่ 1,934.30 เหรียญ
• สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 13 เซนต์ หรือ 0.57% ปิดที่ 22.765 เหรียญ
• สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 15.20 เหรียญ หรือ 1.72% ปิดที่ 899.40 เหรียญ
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 6.92 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 855.45 ตันภาพรวมเดือนตุลาคม ขายสุทธิ 18.19 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 62.19 ตัน

• นักลงทุนขายทำกำไร หลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นกว่า 3% เมื่อวันศุกร์ (13 ต.ค.) และปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งถึง 5.2% ในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังถูกกดดันหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.702% เมื่อคืนนี้

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.32 จุด หรือ -0.3% มาอยู่ที่ระดับ 106.26 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.05 % มาอยู่ที่ระดับ 4.708% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.03 % มาอยู่ที่ระดับ 5.101% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.39% อยู่ในภาวะ inverted yield curve

• แพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานธนาคารเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย กล่าวว่า ระดับอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันเกือบจะปิดการเข้าถึงตลาดที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ที่ต้องการเข้ามาเป็นครั้งแรก และอัตราดอกเบี้ยที่สูงเป็นการเพิ่มต้นทุน ส่งผลกระทบต่อภาคที่อยู่อาศัย

• หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ระดับโลกของ The Economic Outlook Group ประเมินว่า หากความขัดแย้งขยายวงกว้างออกไป ก็มีแนวโน้มจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ซึ่งจะกระตุ้นให้ธนาคารกลางเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมราคาที่พุ่งสูงขึ้น พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าในขณะที่ประเทศอื่นๆ มีแนวโน้มที่จะเห็นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นในสถานการณ์ดังกล่าว แต่ทางสหรัฐฯ อาจเป็นข้อยกเว้นหากนักลงทุนแห่เทเงินทุนลงในพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลงและเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีน ที่ระดับ 2.50% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

• นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส รวมทั้งจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์ก (Economic Club of New York) ในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ทั้งนี้ การกล่าวสุนทรพจน์ดังกล่าว ถือเป็นการแสดงความเห็นของนายพาวเวลเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เจ้าหน้าที่เฟดทุกคนจะเริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ในวันเสาร์นี้ ก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันจันทร์ โดยได้แรงหนุนจากมุมมองบวกเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,984.54 จุด เพิ่มขึ้น 314.25 จุด หรือ +0.93%
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,373.63 จุด เพิ่มขึ้น 45.85 จุด หรือ +1.06%
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,567.98 จุด เพิ่มขึ้น 160.75 จุด หรือ +1.20%

• สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นักเศรษฐศาสตร์ได้แสดงความกังวลว่าประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียจะเผชิญกับผลกระทบจากสงครามระหว่างอิสราเอลและปาเสลไตน์ ขณะที่เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของประเทศกลุ่มนี้กำลังประเมินผลกระทบของอุปทานน้ำมันและเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ราคาน้ำมันเบรนท์พุ่งขึ้นเกือบ 20% ในช่วงเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ต่างคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันเบรนท์อาจพุ่งขึ้นแตะระดับ 150 ดอลลาร์/บาร์เรล หากสงครามตะวันออกกลางขยายตัวเป็นวงกว้างและมีอิหร่านเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่ง“หากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเป็นเวลานาน เราก็จะเห็น อินเดีย ไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และอีกหลายประเทศเผชิญกับภาวะเปราะบางด้านการค้า นอกจากนี้ การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดและการขาดดุลการค้า จะยิ่งส่งผลให้เม็ดเงินไหลออกจากประเทศเหล่านี้มากขึ้นด้วย”

• ในรายงาน ของสถาบันการเงินระหว่างประเทศ ประเมินว่าความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับดอกเบี้ยสูงขึ้นและนานขึ้น ความผันผวนของตลาดหุ้น และการเพิ่มขึ้นของ Bond Yield รัฐบาลทั่วโลก ทำให้เงินทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ กว่า 5 แสนล้านบาทในเดือนกันยายนเพียงเดือนเดียว สถาบันการเงินระหว่างประเทศ เตือนหาก Fed ส่งสัญญาณแข็งกร้าวขึ้น สถานการณ์อาจแย่ลง

• ซีอีโอของ JPMorgan  ธนาคารที่ใหญ่สุดของอเมริกา กล่าวว่า สงครามที่กำลังดำเนินอยู่ในยูเครนตลอดจนการโจมตีของกลุ่มฮามาสที่โจมตีอิสราเอลเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา “อาจส่งผลกระทบในวงกว้างต่อตลาดพลังงานและอาหาร การค้าโลก และความสัมพันธ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดเท่าที่โลกเคยเห็นมาในรอบหลายทศวรรษ” นี่เป็นคำเตือนที่ออกมาจากปากของ

• นักวิเคราะห์หลายฝ่าย ต่างจับตามองทิศทางความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นทั่วโลก หลังความตึงเครียดในตะวันออกกลางทำให้ตลาดโลกเตรียมพร้อมรับผลกระทบ โดยเหล่านักลงทุนต่างจับตาดูความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจดันราคาน้ำมันให้พุ่งสูงขึ้น หากสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มก่อการร้ายฮามาสขยายวงกว้างดึงประเทศอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ หลังจากสื่อรายงานว่าสหรัฐเตรียมผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรต่ออุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนซุเอลา นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุนมองว่า ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสอาจจะไม่ส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในระยะสั้น

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 1.03 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 86.66 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.24 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 89.65 ดอลลาร์/บาร์เรล

• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง หลังจากรัฐบาลสหรัฐและเวเนซุเอลาเตรียมประกาศข้อตกลงในวันนี้เกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐที่มีต่ออุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนซุเอลา

• นอกจากนี้ ราคาน้ำมันปรับตัวลงจากการคาดการณ์ที่ว่า สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะไม่ลุกลามออกไป ท่ามกลางความพยายามทางการทูตจากหลายฝ่ายในการผ่อนคลายความขัดแย้งดังกล่าว

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ

• สำนักข่าววาฟาระบุว่า ในระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซุเอลา ปธน.อับบาสกล่าวว่า องค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ หรือ PLO เป็นตัวแทนที่ถูกต้องตามกฎหมายแต่เพียงผู้เดียวของชาวปาเลสไตน์ โดยปธน.อับบาสแสดงท่าทีคัดค้านการสังหารพลเรือนทั้งสองฝ่าย และเรียกร้องให้ปล่อยตัวพลเรือน นักโทษ และผู้ถูกคุมขังทั้งสองฝ่ายด้วยเช่นกัน

• ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐระบุว่า เขาเชื่อว่ากลุ่มติดอาวุธฮามาสชาวปาเลสไตนส์นั้นจำเป็นต้องถูกกำจัดจนสิ้นซากและมีความจำเป็นที่จะต้องสถาปนารัฐปาเลสไตน์

• Tech War ระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาเข้มข้นขึ้น โดยล่าสุดรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังจะออกกฎที่จะจำกัดบริษัทผู้ผลิตชิปในสหรัฐฯ จากการส่งออก ‘ชิปด้าน AI’ (Artificial Intelligence) ให้จีนมากยิ่งขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล โจ ไบเดน เพื่อสกัดจีนไม่ให้เข้าถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่อาจไปส่งเสริมอำนาจทางการทหารในอนาคต

• สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เตรียมเดินทางพบประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ที่ประเทศจีนในสัปดาห์นี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองดินแดนปูตินจะเข้าร่วมการประชุม Belt and Road Forum ณ กรุงปักกิ่ง ในระหว่างวันที่ 17-18 ตุลาคม ซึ่งถือเป็นทริปเดินทางเยือนประเทศนอกอดีตสหภาพโซเวียตครั้งแรก

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้เปิดเช้านี้ ที่ระดับ36.29 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  36.28 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ 36.10-36.50 บาทต่อดอลลาร์

• ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่าค่าเงินบาทมีความไม่แน่นอนสูงและเป็นตัวแปรสำคัญที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จับตา โดยทางการเห็นว่ามีความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อในบางไตรมาสของปี 67 จะสูงกว่า 3% ทั้งนี้ ธปท. เน้นย้ำว่าดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบันที่ 2.50% ถือเป็นระดับที่สมดุล ซึ่งไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของเศรษฐกิจและเป็นระดับที่เหมาะสมในการรองรับทั้งปัจจัยบวกและลบในระยะข้างหน้า 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง