• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 10 ตุลาคม 2566

    10 ตุลาคม 2566 | Gold News

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 1,860 ดอลลาร์ในวันจันทร์ โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง

  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 14.64 เหรียญ หรือ 0.79% อยู่ที่ระดับ 1,862.63 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 19.10 ดอลลาร์ หรือ 1.04% ปิดที่ 1,864.30 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 20.10 เซนต์ หรือ 0.93% ปิดที่ 21.924 ดอลลาร์/ออนซ์ 
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 7.30 ดอลลาร์ หรือ 0.83% ปิดที่ 888.80 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 4.04 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 861.81 ตัน ภาพรวมเดือนตุลาคม ขายสุทธิ 11.83 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 55.83 ตัน

  • นักวิเคราะห์จากบริษัท City Index คาดการณ์ว่า การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะทำให้ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์มีความรุนแรงมากขึ้น และคาดว่าอาจจะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับ 1,880 ดอลลาร์/ออนซ์ และหากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลงด้วยคาดว่าจะส่งผลให้ราคาทองคำอาจไต่ขึ้นจนถึงระดับ 1,900 ดอลลาร์/ออนซ์ได้

 

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.26 จุด หรือ -0.24% มาอยู่ที่ระดับ 105.96 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.1 % มาอยู่ที่ระดับ 4.628% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.15 % มาอยู่ที่ระดับ 4.93% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ -0.3% อยู่ในภาวะ inverted yield curve

  • มิเชลล์ โบว์แมน ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ย้ำมุมมองของเธอที่ว่า อัตราเงินเฟ้อยังคงสูงเกินไป แม้มีความคืบหน้าอย่างมากในการทำให้เงินเฟ้อลดลงก็ตาม และเฟดอาจจำเป็นต้องคุมเข้มนโยบายการเงินอีก


  • นักวิเคราะห์คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีนี้ และจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงนานขึ้นในปีหน้า หลังจากรายงานพบว่า การจ้างงานเพิ่มขึ้นมากเกินคาดมากในเดือนที่แล้ว "สิ่งเหล่านี้อาจจะสร้างเงินเฟ้อเพิ่มมากขึ้น และนั่นอาจจะส่งเสริมให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง


  • เคธี บอสท์แยนซิค หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากเนชันไวด์กล่าวว่า "เฟดจะไม่หยุุดมาตรการคิวที นอกจากว่าจะมีประเด็นเรื่องสภาพคล่องเชิงโครงสร้างเกิดขึ้นในตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ขั้นตอนคิวทีมีบทบาทน้อยในการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในตลาด และการปรับตัวขึ้นดังกล่าวก็มีสาเหตุมาจากการที่ตลาดยอมรับการชี้แนะเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นนานขึ้นของเฟด"


  • หน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทเนชันไวด์กล่าวว่า "ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่นอนว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งหรือไม่ เพราะว่าการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยิลด์), การแข็งค่าของดอลลาร์ และความผันผวนที่เพิ่มสูงขึ้นในตลาดหุ้น ส่งผลให้ภาวะการเงินหดตัวลง ซึ่งเท่ากับว่าปัจจัยทั้ง 3 อย่างนี้ได้ช่วยทำงานบางส่วนแทนเฟดไปแล้ว"


  • นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นนานขึ้นของสหรัฐกำลังกลายเป็นความท้าทายใหญ่สำหรับธนาคารกลางจีน และทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับว่า ธนาคารกลางจีนอาจจะปล่อยให้หยวนอ่อนค่าลงอีกมากน้อยเพียงใด


  • คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า เธอมั่นใจว่าอีซีบีจะบรรลุเป้าหมายในการทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลงสู่ระดับ 2% ได้ และค่อนข้างเชื่อมั่นกับสถานการณ์ปริมาณก๊าซสำรองของยุโรป


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ หลังจากนักลงทุนซึมซับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอล และกลุ่มฮามาสซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,604.65 จุด เพิ่มขึ้น 197.07 จุด หรือ +0.59%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,335.66 จุด เพิ่มขึ้น 27.16 จุด หรือ +0.63%
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,484.24 จุด เพิ่มขึ้น 52.90 จุด หรือ +0.39%


  • นักกลยุทธ์อาวุโสจากเอ็มยูเอฟจี แบงก์กล่าวว่า "โดยรวมแล้ว สหรัฐยังดูฟื้นตัวไวกว่าประเทศอื่นๆอย่างมากในขณะนี้ เนื่องจากผลตอบแทนของสหรัฐยังคงสูงขึ้น และการส่งออกของเอเชียก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง นั่นจึงทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอีก และอาจจะทำให้สกุลเงินเอเชียอ่อนค่าลงอีกในระยะใกล้"


  • สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า การเกิดสงครามในตะวันออกกลางอาจจะทำให้นักการธนาคารกลางต่างๆต้องต่อสู้กับแนวโน้มเงินเฟ้อใหม่ รวมทั้งจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ สำหรับธนาคารกลางต่างๆ นั่นจะเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากว่า สถานการณ์นี้อาจจะนำไปสู่แรงกดดันด้านเงินเฟ้อใหม่ เพราะภูมิภาคนี้ไม่ได้เป็นแค่ที่ตั้งของผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อย่างอิหร่านและซาอุดิอาระเบีย แต่ก็ยังเป็นเส้นทางการขนส่งที่สำคัญผ่านคลองสุเอซ หรือจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นที่ว่าเศรษฐกิจจะหยุดชะงัก


  • นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงผลกระทบที่จะมีต่อประเทศไทย จากเหตุสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสว่า เหตุความขัดแย้งดังกล่าวเป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเฉพาะอิสราเอลกับฮามาสเท่านั้น ยังไม่เห็นการเข้าร่วมของประเทศที่ 3 ดังนั้น เชื่อว่าสงครามนี้จะไม่บานปลายไปยังกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และจะไม่ใช่สงครามที่ยืดเยื้อเหมือนกับรัสเซีย-ยูเครน และจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจไทย

 

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน

  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 4% ในวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าการสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์ จะทำให้สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงมากขึ้น และอาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก

  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 3.59 หรือ 4.3% ปิดที่ 86.38 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.ปีนี้
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.57 ดอลลาร์ หรือ 4.2% ปิดที่ 88.15 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • นักวิเคราะห์ของธนาคารคอมมอนเวลธ์ แบงก์ ออฟ ออสเตรเลียกล่าวว่า "ในการที่ตลาดน้ำมันจะได้รับผลกระทบอย่างสำคัญและเป็นเวลานานจากความขัดแย้งในครั้งนี้ได้นั้น ปริมาณการผลิตหรือขนส่งน้ำมันจำเป็นจะต้องปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง" และเขากล่าวเสริมว่า "ถ้าหากชาติตะวันตกประกาศอย่างเป็นทางการว่า หน่วยข่าวกรองของอิหร่านมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีโดยกลุ่มฮามาส ปัจจัยนี้ก็อาจจะส่งผลลบในทันทีต่อปริมาณการผลิตและส่งออกน้ำมันของอิหร่าน


  • นักวิเคราะห์ด้านพลังงานของธนาคารคอมมอนเวลธ์ ระบุว่า เหตุการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันให้พุ่งขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น การที่ราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและอย่างยาวนาน เหตุการณ์ความขัดแย้งนี้จะต้องกระทบต่อการขนส่งน้ำมัน และทำให้ปริมาณน้ำมันลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสยังไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อแหล่งผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ


  • นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า รัสเซียมีความกังวลต่อการทำสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามต่อภูมิภาค โดยเชื่อว่ามีความจำเป็นที่จะต้องทำให้สถานการณ์กลับสู่ความสงบโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะหากปล่อยให้เกิดความรุนแรงต่อไปก็จะทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น

 


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดแข็งค่าขึ้นที่ระดับ  36.90 บาทต่อดอลลาร์ มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ  37.11 บาทต่อดอลลาร์  โดยจะมีกรอบแนวรับที่ 36.80 บาทต่อดอลลาร์ แนวต้านที่ 37.05 บาทต่อดอลลาร์




ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com