• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 9 ตุลาคม 2566

    9 ตุลาคม 2566 | Gold News

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

  • ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งขึ้นเกือบ 1% ยืนที่เหนือระดับ 1,860 ดอลลาร์ในช่วงเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์ 

  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 11.7 เหรียญ หรือ 0.64% อยู่ที่ระดับ 1,832.0 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 1.73 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 865.85 ตันภาพรวมเดือนตุลาคม ขายสุทธิ 7.79 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 51.79 ตัน


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.26 จุด หรือ -0.24% มาอยู่ที่ระดับ 106.1 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.719% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.03 % มาอยู่ที่ระดับ 5.025% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.31% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • แมรี ดาลี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ สาขาซานฟรานซิสโกกล่าวว่า เนื่องจากนโยบายการเงินของสหรัฐอยู่ในขอบเขตเชิงเข้มงวดมากมีโอกาสที่จะบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ 2% และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เฟดจึงอาจจะไม่จำเป็นต้องปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีกแล้ว


  • หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเจพีมอร์แกน กล่าวว่ารายงานการจ้างงานที่ร้อนแรงเกินคาดไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ย. แต่ข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างมากนั้นอาจเป็นสิ่งที่ผลักดันให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก


  • ผู้จัดการพันธบัตร JP Morgan มองว่า ธนาคารกลางสหรัฐอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยอีกครั้ง และคงอัตราดอกเบี้ยไว้นานถึง 18 เดือนเพื่อชะลอเศรษฐกิจและลดอัตราเงินเฟ้อ ด้วยเหตุนี้ เขากล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 ปีที่เกือบ 4.9% อาจสูงเพิ่มขึนถึง 6% ซึ่งเป็นระดับเดียวกันกับในปี 2543


  • สมาชิกสภาบริหารธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ชี้ไม่จำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยอีกหลังบอนด์ยิลด์ระยะยาวพุ่ง โดย อีซีบี ขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4% ในเดือนที่แล้ว หลังจากที่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยมา 10 ครั้งติดต่อกันเพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับลงมาสู่เป้าหมาย 2% ภายในปี 2025


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 200 จุดในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวอิสราเอลถูกโจมตีจากกลุ่มฮามาสซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์ โดยสถานการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะทำให้ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสาตร์มีความรุนแรงมากขึ้น และส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นซึ่งเผชิญกับแรงกดดันอยู่แล้วจากภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยสูง


  • ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ปรับตัวเลขคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐประจำไตรมาส 3 ให้สูงขึ้นจากเดิม 0.3% สู่ 3.7% เมื่อเทียบเป็นตัวเลขเต็มปี หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐเติบโต 2.1% ในไตรมาสที่ 2


  • นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ระบุว่า "รอยร้าว" กำลังปรากฏขึ้น เนื่องจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ในตลาดเกิดใหม่เผชิญกับแรงกดดัน เนื่องจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ดึงเม็ดเงินออกจากการลงทุนอื่นๆ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น


  • นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารซิตี้กรุ๊ปกล่าวว่า "การที่ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐหดตัวลงน่าจะส่งผลบวกต่อจีดีพี ในขณะที่ผู้บริโภคในต่างประเทศซื้อสินค้าสหรัฐมากยิ่งขึ้น และภาคการผลิตฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำสุด"


  • กรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า อุปสงค์ด้านการบริการที่แข็งแกร่งและความคืบหน้าในการปรับลดเงินเฟ้อได้ช่วยเพิ่มโอกาสที่เศรษฐกิจโลกจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้ แต่ความเสี่ยงด้านการเงินและการคลังยังคงมีอยู่


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • ราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นกว่า 4% ในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าการสู้รบอันดุเดือดระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส จะทำให้สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงมากขึ้น และอาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 3.55 ดอลลาร์ หรือ 4.29% แตะที่ระดับ 86.34 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของอิหร่านให้การสนับสนุนกลุ่มฮามาสในการวางแผนโจมตีอิสราเอลในครั้งนี้ โดยหากมีการยืนยันว่าอิหร่านเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริง ก็อาจจะทำให้สหรัฐเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน รวมถึงการห้ามไม่ให้อิหร่านส่งออกน้ำมัน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ


  • วอชิงตันโพสต์ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ทำเนียบขาวเริ่มวางแผนจัดการประชุมแบบพบหน้ากันระหว่างนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ที่เมืองซานฟรานซิสโกในเดือนหน้า

  • นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศภาวะสงคราม หลังกลุ่มฮามาสในดินแดนปาเลสไตน์ เปิดฉากโจมตีอิสราเอล ยิงขีปนาวุธจากกาซาประมาณ 5,000 ลูก ซึ่งนับเป็นความรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี โดยอิสราเอลเน้นย้ำการแก้แค้นครั้งใหญ่ต่อเหตุการณ์ครั้งนี้

  • ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวกับนายกฯ อิสราเอลว่าความช่วยเหลือเพิ่มเติมต่อกองทัพอิสราเอลกำลังเดินทางไปในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยระบุว่าได้ส่งเรือและเครื่องบินรบเข้าไปประชิดใกล้อิสราเอลเพื่อแสดงการสนับสนุนอิสราเอล โดยรัฐบาลวอชิงตันเชื่อว่าการโจมตีล่าสุดของกลุ่มฮามาสอาจมีแรงจูงใจที่จะขัดขวางการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและซาอุดีอาระเบียให้เป็นปกติ

 


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 36.99 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ระดับ 37.03 บาท/ดอลลาร์ นักวิเคราะห์คาดเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 36.90 - 37.20 บาท/ดอลลาร์


  • บล.ยูโอบี คาดว่าค่าเงินบาทจะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับ 36-36.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในสิ้นปีนี้ หรือเฉลี่ยทั้งปี 35.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยมีปัจจัยกดดันมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น และธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง เพื่อสกัดเงินเฟ้อ


  • ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้า (9-13 ต.ค.) ไว้ที่ระดับ 36.60-37.20 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ (Flow) สถานการณ์สกุลเงินในภูมิภาค และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด


  • อดีตกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย  กล่าวว่า รูปแบบการเคลื่อนไหวของเงินบาทปี 66 คล้ายปี 65 แข็งค่าต้นปี อ่อนค่าลงครึ่งหลังของปี แต่ปี 66 ปลายปีเงินบาทอาจกลับมาแข็งค่ามากกว่าปี 65 เพราะมีปัจจัยที่ทำให้เงินบาทแข็งค่ามากกว่า ปัจจัยที่มีผลกดดันในเงินบาทอ่อนค่าในช่วงนี้เป็นเรื่องระยะสั้น ชั่วคราว โดยเฉพาะเงินไหลออกจากตลาดการเงินไทย ภาคส่งออกไม่สามารถขยายตัวฟื้นตัวเป็นบวกได้



ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com