ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ในวันอังคาร โดยได้แรงหนุนจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังเป็นปัจจัยหนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้จะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 22.86 เหรียญ หรือ 1.17% อยู่ที่ระดับ 1,977.6 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 24.40 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 1,980.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย. 2566
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 23.80 เซนต์ หรือ 0.95% ปิดที่ 25.256 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 6.90 ดอลลาร์ หรือ 0.70% ปิดที่ 994.40 ดอลลาร์/ออนซ์
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 0.86 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 912.07 ตันภาพรวมเดือนกรกฎาคม ขายสุทธิ 9.83 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 5.57 ตัน
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.12 จุด หรือ 0.12% มาอยู่ที่ระดับ 99.96 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 3.789% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 4.764% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.98% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
- เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายส่งสัญญาณว่า พวกเขาพร้อมที่จะสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. อย่างไรก็ดี ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาในระยะนี้บ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐได้เริ่มชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น และอย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้น และสิ่งนี้จะส่งผลให้เจ้าหน้าที่เฟดต้องหารือกันอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้นในประเด็นที่ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค.จะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายของวัฏจักรหรือไม่
- บริษัทมูดี้ส์ระบุว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) พร้อมที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมในเดือนนี้ แม้อัตราเงินเฟ้อลดลงก็ตาม
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันอังคาร ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของธนาคารรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงแบงก์ ออฟ อเมริกา นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ต่ำกว่าคาด
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,951.93 จุด เพิ่มขึ้น 366.58 จุด หรือ +1.06%,
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,554.98 จุด เพิ่มขึ้น 32.19 จุด หรือ +0.71%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,353.64 จุด เพิ่มขึ้น 108.69 จุด หรือ +0.76%
- เจเน็ท เยลเลน รมว.คลังสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐกำลังมีความคืบหน้าที่ีดีในการทำให้เงินเฟ้อลดลง และเธอไม่คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจที่ชะลอตัวของจีนอาจส่งผลกระทบไปยังประเทศอื่น แต่เศรษฐกิจสหรัฐก็อยู่ในแนวทางที่ดีในการทำให้เงินเฟ้อลดลง ขณะที่ตลาดแรงงานยังแข็งแกร่งอยู่
- หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์กล่าวว่า ธนาคารลดความเป็นไปได้ที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐจะเริ่มขึ้นในช่วง 12 เดือนข้างหน้าลงสู่ระดับ 20% จาก 25% ที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า
- คณะทำงานของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐมีแผนการจำกัดการลงทุนในจีน โดยมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีล้ำสมัย และการลงทุนใหม่ ๆ เท่านั้น อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าวมีแนวโน้มว่าจะยังไม่มีผลบังคับใช้จนกว่าจะถึงปีหน้า เนื่องจากต้องใช้เวลานานกว่าที่นโยบายจะผ่านกระบวนการพิจารณาของรัฐบาล
- ดอยซ์แบงก์ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนสำหรับปีนี้เหลือ 5.3% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัว 6% เนื่องจากอุปสงค์การบริโภคภายในประเทศที่อ่อนแอและภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ย่ำแย่ลง
- คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) ให้คำมั่นว่า จีนจะเร่งออกนโยบายเพื่อมุ่งฟื้นฟูและขยายการบริโภค เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคยังคงอ่อนแอ ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการฟื้นฟูอุปสงค์ภายในประเทศ
- องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เปิดเผยในรายงานคาดการณ์การจ้างงาน 2566 ว่า แม้ค่าจ้างที่เป็นตัวเงิน (Nominal Wage) เติบโตเพิ่มขึ้น แต่ค่าจ้างที่แท้จริง (Real Wage) กลับปรับตัวลดลงในเกือบทุกประเทศสมาชิกของ OECD เนื่องจากวิกฤตค่าครองชีพมีความยืดเยื้อ
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% ในวันอังคาร (18 ก.ค.) หลังจากทางการจีนให้คำมั่นว่าจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะปรับตัวลดลง
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.60 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 75.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.13 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 79.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ (UN) ได้ตำหนิรัสเซียที่ถอนตัวออกจากข้อตกลงส่งออกธัญพืชจากยูเครนผ่านเส้นทางทะเลดำ โดยกล่าวว่าการกระทำดังกล่าวของรัสเซียถือเป็นการใช้มนุษยชาติเป็นตัวประกัน
- ญี่ปุ่นกำลังพิจารณาการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมแก่รัสเซีย จากการที่รัสเซียส่งกำลังทหารรุกรานยูเครนและล่าสุดรัสเซียได้ตัดสินใจถอนตัวออกจากข้อตกลงส่งออกธัญพืชจากยูเครนผ่านเส้นทางทะเลดำ โดยการคว่ำบาตรรอบใหม่นี้ครอบคลุมถึงการยกระดับการแบนส่งออกยานพาหนะ
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.05 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น”จากระดับปิดวันก่อนหน้า มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.90-34.00 บาทต่อดอลลาร์
- ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เห็นชอบให้ใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลให้อยู่ที่ประมาณ 32 บาทต่อลิตรภายหลังจากมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง 5 บาทต่อลิตรจะสิ้นสุดลงในวันที่ 20 กรกฎาคม 2566
- ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. ตั้งเป้าหมายรายได้ในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ปี 67 อยู่ที่ 3 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากต่างประเทศ 1.92 ล้านล้านบาท ดึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าไทยจำนวน 35 ล้านคน ขณะที่ตลาดในประเทศ สร้างรายได้หมุนเวียน 1.08 ล้านล้านบาท จากการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทย 200 ล้านคน-ครั้ง
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง