ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และข้อมูลล่าสุดที่บ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อของสหรัฐชะลอตัวลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 3.1 เหรียญ หรือ 0.16% อยู่ที่ระดับ 1,960.64 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 2.10 เหรียญ หรือ 0.11% ปิดที่ 1,963.80 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 63.90 เซนต์ หรือ 2.63% ปิดที่ 24.949 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 26.80 เหรียญ หรือ 2.80% ปิดที่ 983.40 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 914.66 ตันภาพรวมเดือนกรกฎาคม ขายสุทธิ 7.24 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 2.98 ตัน
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.77 จุด หรือ -0.77% มาอยู่ที่ระดับ 99.75 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.1 % มาอยู่ที่ระดับ 3.767% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.12 % มาอยู่ที่ระดับ 4.637% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.87%
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขตหรือ Beige Book โดยระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐขยายตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และคาดว่าการขยายตัวจะอ่อนแรงลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
- นายโทมัส บาร์กิน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐยังคงสูงเกินไป และยังคงเป็นคำถามเปิดว่า ภาวะอุปสงค์โดยรวมกำลังชะลอตัวลงพอที่จะทำให้อัตราการเพิ่มขึ้นของราคากลับมาสู่เป้าหมาย 2% ของเฟดหรือไม่ นอกจากนี้ยังกล่าวเสริมว่า เราควรที่จะเข้มงวดนโยบายมากกว่านี้ หากข้อมูลเงินเฟ้อที่จะออกมาไม่ได้ยืนยันว่า เงินเฟ้อจะกลับไปสู่เป้าหมาย
- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 92.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 42.2% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 30-31 ม.ค. 2567 โดยให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นจากระดับ 18.0% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี ขณะที่ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นกว่า 1% ติดต่อกันเป็นวันที่ 2 หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,395.14 จุด เพิ่มขึ้น 47.71 จุด เพิ่มขึ้น +0.14%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,510.04 จุด เพิ่มขึ้น 37.88 จุด หรือ +0.85%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,138.57 จุด เพิ่มขึ้น 219.61 จุด หรือ +1.58%
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนพ.ค.ที่มีการขยายตัว 0.9% และเป็นการขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2563
- สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานว่า ยอดส่งออกเดือนมิ.ย.ร่วงลง 12.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งย่ำแย่กว่าในเดือนพ.ค.ที่ปรับตัวลง 7.5% และรุนแรงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 9.5% โดยการส่งออกของจีนได้รับผลกระทบจากภาวะชะลอตัวของอุปสงค์ทั่วโลก และยิ่งทำให้ตลาดวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ส่วนยอดนำเข้าเดือนมิ.ย.ลดลง 6.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งย่ำแย่กว่าในเดือนพ.ค.ที่ลดลง 4.5% และรุนแรงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 4%
- นายกรัฐมนตรีจีนได้พบกับผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของประเทศ ซึ่งรวมถึงบริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง และบริษัทไบต์แดนซ์ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลจีนกำลังปรับเปลี่ยนท่าทีจากเดิมที่ใช้มาตรการควบคุมอุตสาหกรรมเทคโนโลยี มาเป็นการสนับสนุนแทน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจจีนอ่อนแอลง
- สหประชาชาติ (UN) เปิดเผยรายงานระบุว่า หนี้สาธารณะทั่วโลกพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 92 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2565 เนื่องจากบรรดารัฐบาลได้ทำการกู้ยืมเงินเพื่อรับมือกับวิกฤตต่าง ๆ เช่น การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาต้องแบกรับภาระหนี้อย่างมาก
- สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) ระบุว่า เศรษฐกิจเดือนพ.ค.ของอังกฤษหดตัวน้อยกว่าที่คาดการณ์ แม้มีผลกระทบจากการผละงานประท้วงและวันหยุดพิเศษเนื่องในวันราชาภิเษกสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทำให้อังกฤษมีแนวโน้มที่จะสามารถหลีกเลี่ยงการเกิดภาวะเศรษฐกิจหดตัวติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2 ทั้งนี้ เศรษฐกิจเดือนพ.ค.หดตัว 0.1% จากเดือนเม.ย. โดยในเดือนเม.ย.เศรษฐกิจขยายตัว 0.2%
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันพฤหัสบดี ขานรับสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี นอกจากนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 1.50% ปิดที่ 76.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.25 ดอลลาร์ หรือ 1.56% ปิดที่ 81.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานว่า การนำเข้าน้ำมันดิบของจีนในเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 45.3% เมื่อเทียบรายปี โดยกลุ่มโรงกลั่นได้ทำการเพิ่มปริมาณสต็อกน้ำมันดิบ แม้อุปสงค์ในประเทศยังคงซบเซา ทั้งนี้ GAC ระบุว่า ยอดนำเข้าน้ำมันดิบทั้งหมดในเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 52.06 ล้านตัน หรือ 12.67 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เปิดเผยว่า ได้ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันโลกเป็นครั้งแรกในปีนี้ โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นผลมาจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศร่ำรวยที่เศรษฐกิจย่ำแย่เป็นพิเศษ โดย IEA กล่าวว่า อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2566 แตะระดับเฉลี่ย 102.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยจีนคิดเป็นสัดส่วน 70% ของการเติบโตของอุปสงค์ทั่วโลกในปีนี้ อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงการปรับลดลง 220,000 บาร์เรลต่อวัน จากรายงานคาดการณ์เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่ง IEA คาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันโลกจะเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- นายหวัง อี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดด้านการต่างประเทศของจีน กล่าวว่า จีนและสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน (ASEAN) ควรเร่งการเจรจาด้านการค้าเสรีจีน-อาเซียน รุ่น 3.0 ให้เร็วยิ่งขึ้น
- กลุ่ม G7 เปิดเผยกรอบการทำงานด้านความมั่นคงระยะยาวสำหรับยูเครน โดยระบุว่า กลุ่ม G7 จะพยายามดำเนินการตามวาระด้านการปฏิรูปเพื่อช่วยให้ยูเครนมีธรรมาภิบาลที่จำเป็นต่อการพัฒนาไปสู่ความเป็นสมาชิกนาโตในยุโรป (Euro-Atlantic aspirations)
- รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียได้ออกมาเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทำงานร่วมกันเพื่อฟื้นฟูการค้ากับรัสเซียที่ซบเซาลง โดยใช้การประชุมในครั้งนี้นำเสนอการพึ่งพาสกุลเงินของแต่ละประเทศแทนดอลลาร์ เพื่อหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ที่ระดับ 34.58 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.57 บาทต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทยังได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าบ้าง ทั้งจากดอลลาร์อ่อนค่าลง โฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรการรีบาวด์ของราคาทองคำ และโฟลว์เงินเยน ในช่วงนี้อาจเห็นแรงขายสินทรัพย์ไทยต่อ เหตุผู้เล่นลดพอร์ตการลงทุน เพื่อรอความชัดเจนการเมืองไทย
- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนมิ.ย. 66 อยู่ที่ระดับ 56.7 ปรับตัวดีขึ้นจากในเดือนพ.ค. ที่ 55.7 ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 40 เดือนนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 63 เป็นต้นมา
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง