MTS Help Center

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ โดยได้แรงซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับปัญหาในภาคธนาคารของสหรัฐ หลังการสั่งปิดกิจการธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) นอกจากนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลงหลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่ชะลอตัวนั้น ได้ช่วยหนุนแรงซื้อทองคำด้วย

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 35.89 เหรียญ หรือ 1.96% อยู่ที่ระดับ 1,866.74 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 32.60 เหรียญ หรือ 1.78% ปิดที่ 1,867.20 เหรียญ และปรับตัวขึ้น 0.7% ในรอบสัปดาห์นี้
• สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 34.10 เซนต์ หรือ 1.69% ปิดที่ 20.506 เหรียญ
• สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 12.90 เหรียญ หรือ 1.36% ปิดที่ 962.20 เหรียญ
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 903.15 ตันภาพรวมเดือนมีนาคม ขายสุทธิ 12.15 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 14.49 ตัน

• นักกลยุทธ์การตลาดอาวุโสของ RJO Futures กล่าวว่า ราคาทองคำเผชิญกับความยากลำบากในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น ขณะเดียวกันจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานของสหรัฐฯ ได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งช่วยหนุนราคาทองคำให้กลับมาปรับตัวสูงขึ้นได้อีกครั้ง

• ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) เพิ่มปริมาณทองคำสำรองประมาณ 30% ในเดือนม.ค. เช่นเดียวกับธนาคารกลางของประเทศอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงธนาคารกลางจีนและตุรกีที่ต่างพากันเพิ่มทองคำสำรอง ทั้งนี้ ปริมาณทองคำสำรองของธนาคารกลางสิงคโปร์ ณ สิ้นเดือนม.ค.อยู่ที่ 6.4 ล้านออนซ์ หรือ 199 ตัน เพิ่มขึ้นจากปริมาณ 4.9 ล้านยออนซ์ในเดือนธ.ค. 2565 และมูลค่าของทองคำสำรองอยู่ที่ 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นเดือนม.ค.

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.49 จุด หรือ -0.47% มาอยู่ที่ระดับ 104.64 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.19 % มาอยู่ที่ระดับ 3.712% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.4 % มาอยู่ที่ระดับ 4.475% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.76% อยู่ในภาวะ inverted yield curve

• เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ กล่าวว่า การที่นักลงทุนปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยขั้นสุดท้ายของเฟดสู่ 6% ภายในระยะเวลาอันสั้นนี้ ถือเป็นการตอบรับต่ออัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่สูงกว่าระดับเป้าหมายเป็นอย่างมาก ในขณะที่การเติบโตของเศรษฐกิจโลกอ่อนแอลง และภาวะดังกล่าวนี้จะส่งผลลบสุทธิต่อตลาดเกิดใหม่

• นักยุทธศาสตร์การลงทุนของธนาคาร UBS ระบุว่า การที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ 6% อาจจะสร้างความเสียหายต่อสินทรัพย์ในตลาดเกิดใหม่ และเขาคาดว่าถ้าหากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ 6% สกุลเงินรูปีของอินเดีย, หยวนของจีน, เปโซของฟิลิปปินส์ และเปโซของชิลีก็อาจจะดิ่งลงได้ถึง 5%

• นักเศรษฐศาสตร์ของรอยเตอร์คาดว่า ระดับสูงสุดของอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อ 1 เดือนก่อนอย่างมาก และอัตราเงินเฟ้อที่สูงต่อเนื่องจะทำให้อีซีบีดำเนินการเชิงรุกมากขึ้น โดยคาดว่า อัตราดอกเบี้ยเงินฝากของอีซีบีจะเพิ่มขึ้น 0.50% สู่ระดับ 3.00% ในการประชุมในวันพฤหัสบดีที่ 16 มี.ค. และอีซีบีจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมอีก 3 ครั้งต่อไปคือในเดือนพ.ค., มิ.ย. และก.ค. ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุดอยู่ที่ 3.75% สูงกว่าระดับสูงสุดที่ 3.25% ที่เคยคาดไว้ในเดือนก.พ

• ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (yield curve control program) นอกจากนี้ BOJ ยังคงเดินหน้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นประเภทอายุ 10 ปีโดยไม่จำกัดจำนวน เพื่อปกป้องเพดานอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเอาไว้ที่ระดับ 0.5%

• นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) แถลงต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินว่า เขารู้สึกเสียใจที่การดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินตลอดวาระการดำรงตำแหน่ง 10 ปีของเขา ไม่สามารถทำให้ BOJ บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% พร้อมกับกล่าวว่า BOJ ควรจะดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปเพื่อกระตุ้นค่าจ้างในตลาดแรงงานให้เติบโตขึ้นในอนาคต

• รัฐสภาญี่ปุ่นมีมติรับรองนายคาซูโอะ อุเอดะ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) คนใหม่ ต่อจากนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ โดยการรับรองดังกล่าวมีขึ้นไม่นานก่อนที่ BOJ จะแถลงมติการประชุมนโยบายการเงินในศุกร์ที่ผ่านมา

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดในวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับสภาวะของภาคธนาคารสหรัฐ หลังจากมีการสั่งปิดกิจการธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ซึ่งอยู่ในเครือของบริษัทเอสวีบี ไฟแนนเชียล กรุ๊ป หลังจากประสบปัญหาด้านการเงิน

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,909.64 จุด ลดลง 345.22 จุด หรือ -1.07%
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,861.59 จุด ลดลง 56.73 จุด หรือ -1.45%
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,138.89 จุด ลดลง 199.47 จุด หรือ -1.76%

• ซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ธนาคารในเครือเอสวีบี ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (SVB Financial Group) จากรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนด้วยการประกาศในวันพุธที่ผ่านมาว่า ธนาคารมีความจำเป็นที่จะต้องระดมทุนเพิ่ม 2.25 พันล้านดอลลาร์ เพื่อนำมาใช้ในการพยุงงบดุล ทั้งนี้ หน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบสหรัฐสั่งปิด SVB ในวันศุกร์ที่ 10 มี.ค. พร้อมยึดเงินฝากทั้งหมด ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ธนาคารล้มครั้งใหญ่ที่สุดในสหรัฐ นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินเมื่อปี 2551 และเป็นเหตุการณ์ธนาคารล้มครั้งใหญ่ที่สุดอันดับสองของหน้าประวัติศาสตร์สหรัฐ อย่างไรก็ดี สาเหตุที่ทำให้ SVB ล่มสลายนั้นเกิดจากภาวะคลาดเคลื่อน (Dislocation) ที่จุดชนวนจากการที่เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย

• ธนาคารกลางสหรัฐเรียกประชุมฉุกเฉิน ท่ามกลางการล่มสลายของธนาคารแห่งซิลิคอนวัลเลย์ โดยคณะกรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ ประกาศว่าจะมีการจัดประชุมลับฉุกเฉินภายใต้กระบวนการเร่งด่วนในเวลา 11.30 น. ของวันที่ 13 มีนาคม 2023 โดยในรายงานระบุว่า เรื่องที่ต้องพิจารณาในการประชุมฉุกเฉิน ได้แก่ การตรวจสอบและกำหนดอัตราล่วงหน้าและส่วนลดที่จะเรียกเก็บโดยธนาคารกลางสหรัฐ นอกจากนี้ทาง Federal Reserve (Fed) และ Federal Deposit Guarantee Corporation (FDIC) กำลังพิจารณาจัดตั้งกองทุนที่จะช่วยให้หน่วยงานกำกับดูแลเข้ามาสนับสนุนเงินฝากมากขึ้น

• บริษัทแชลเลนเจอร์, เกรย์ แอนด์ คริสต์มาสรายงานในวันพฤหัสบดีว่า ยอดการประกาศปลดพนักงานออกในบริษัทในสหรัฐอยู่ที่ 77,770 ตำแหน่งในเดือนก.พ. โดยดิ่งลง 24% จาก 102,943 ตำแหน่งในเดือนม.ค. แต่พุ่งขึ้น 410% จาก 15,245 ตำแหน่งในเดือนก.พ.ปี 2022 โดยยอดการปลดพนักงานออกที่ 77,770 ตำแหน่งนี้ถือเป็นจุดสูงสุดเมื่อเทียบกับเดือนก.พ.ในแต่ละปีนับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา

• สหรัฐและอินเดียจะลงนามในข้อตกลงเพื่อเพิ่มการประสานงานสำหรับนโยบายกระตุ้นการลงทุนในอุตสาหกรรมชิป และกำลังหารือถึงวิธีที่ดีที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงการให้เงินอุดหนุนที่มากเกินไป ขณะที่อินเดียต้องการเพิ่มบทบาทในห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีระดับโลก

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ รวมถึงจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจมีการขยายตัว และจะทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ หรือ 1.27% ปิดที่ 76.68 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ร่วงลง 3.8% ในรอบสัปดาห์นี้

• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 1.19 ดอลลาร์ หรือ 1.46% ปิดที่ 82.78 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลงเกือบ 3.6% ในรอบสัปดาห์นี้

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ

• ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐได้เสนองบประมาณด้านกลาโหมที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 8.86 แสนล้านดอลลาร์สำหรับปีงบประมาณ 2567 ซึ่งเพิ่มขึ้น 3.3% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐให้ความสำคัญกับจีนในฐานะที่เป็นความท้าทายอันดับหนึ่ง และพยายามเพิ่มมาตรการป้องกันในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

• ธนาคารซิตี้กรุ๊ปออกมาเตือนว่า ก่อนหน้านี้รัสเซียได้จำกัดการส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยังยุโรป พร้อมประกาศว่าจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงในเดือนนี้ เพื่อตอบโต้การคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก ดังนั้นต่อไปภายภาคหน้ารัสเซียอาจใช้การส่งออกโลหะที่สำคัญเช่น อะลูมิเนียมและพัลลาเดียม มาเป็นอาวุธในการต่อสู้

• สมาชิกสภาประชาชนแห่งชาติจีนมีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้นายสี จิ้นผิง ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนต่อเป็นสมัยที่ 3 ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นอันเสร็จสิ้นพิธีการในการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลก

• ติ๊กต๊อก (Tiktok) แพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ของจีน ประกาศมาตรการใหม่ที่มุ่งเสริมสร้างการคุ้มครองข้อมูลผู้ใช้งานในยุโรปด้วยการใช้ระบบรักษาความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต (security gateway) ซึ่งจะกำหนดการเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ติ๊กต๊อกในยุโรปและการถ่ายโอนข้อมูลนอกยุโรป

• นายยาสุโตชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าของญี่ปุ่นกล่าวว่า ทางญี่ปุ่นยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องการจำกัดการส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิป ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำความพยายามของเหล่าพันธมิตรของสหรัฐในการแสวงหาจุดกึ่งกลางระหว่างสหรัฐและจีน

• นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ออกคำสั่งให้กองทัพเตรียมพร้อมสำหรับการสู้รบและให้ฝึกซ้อมรบอย่างเต็มที่ โดยการออกคำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังจากนายคิมตรวจตราการฝึกซ้อมยิงโจมตี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถของเกาหลีเหนือในการตอบโต้สงครามที่เกิดขึ้นจริง

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ  34.62 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นมาก” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 35.02 บาทต่อดอลลาร์   มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 34.25-35.25 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.45-34.70 บาทต่อดอลลาร์

 

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง