• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566

    1 กุมภาพันธ์ 2566 | Gold News

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยหนุนตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธตามเวลาสหรัฐ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 5.18 เหรียญ หรือ 0.27% อยู่ที่ระดับ 1,928.26 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 6.1 เหรียญ หรือ 0.31% ปิดที่ 1,945.3 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 10.3 เซนต์ หรือ 0.43% ปิดที่ 23.836 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 0.05% ปิดที่ 1,021.1 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 917.05 ตันภาพรวมเดือนมกราคม ขายสุทธิ 0.59 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 0.59 ตัน


  • นักวิเคราะห์ของ Kedia Commodities กล่าวว่า เศรษฐกิจจีนเริ่มมีการฟื้นตัว ส่งผลให้ความต้องการทองคำในจีนดีขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยสนับสนุนโลหะมีค่าอื่นๆ ด้วย


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.1 จุด หรือ -0.1% มาอยู่ที่ระดับ 102.1 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.03 % มาอยู่ที่ระดับ 3.512% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 4.205% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.69% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • นักลงทุนจับตามองการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันพฤหัสบดีที่ ก.พ. โดยคาดว่า อีซีบีจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 0.50% สู่ 2.5% 


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันอังคาร หลังสหรัฐเปิดเผยต้นทุนแรงงานชะลอตัวลงในไตรมาส 4/2565 ซึ่งทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะผ่อนคันเร่งในการปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ และผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงอัลฟาเบทและแอปเปิ้ล


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,086.04 จุด พุ่งขึ้น 368.95 จุด หรือ +1.09%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,076.60 จุด เพิ่มขึ้น 58.83 จุด หรือ +1.46% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,584.55 จุด พุ่งขึ้น 190.74 จุด หรือ +1.67%


  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวที่ 2.9% ในปี2566 ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.2% จากที่เคยคาดการณ์เอาไว้ในเดือนต.ค. อย่างไรก็ตาม ตัวเลขคาดการณ์ล่าสุดนี้ยังคงต่ำกว่าการขยายตัวที่ระดับ 3.4% ในปี 2565 นอกจากนี้ IMF ยังปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกสำหรับปี 2567 ลง 0.1% เหลือ 3.1% และเตือนว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและกรณีรัสเซียรุกรานยูเครนยังมีแนวโน้มที่จะถ่วงกิจกรรมเศรษฐกิจต่อไป


  • สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า กำไรของบริษัทในอุตสาหกรรมจีนปี 2565 ปรับตัวลง 4% เมื่อเทียบรายปี เนื่องจากผลพวงของการดำเนินนโยบายสกัดกั้นโควิด-19 ที่เข้มงวด และตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาลง


  • สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนม.ค.ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 50.1 จากระดับ 47 ในเดือนธ.ค. และแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 49.8


  • ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นลดลง 0.1% ในเดือนธ.ค.จากเดือนพ.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะลดลง 1.2% และเทียบกับที่เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. ส่วนการผลิตสินค้าที่เกี่ยวกับการใช้จ่ายด้านทุน เช่น เครื่องจักรทั่วไป และผลิตภัณฑ์โลหะ ซึ่งร่วงลง 6.0% และ 3.0% ตามลำดับ


  • บลูมเบิร์ก ระบุว่า การที่สหราชอาณาจักรถอนตัวจากสหภาพยุโรป (EU) หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่าเบร็กซิตนั้น สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร ถึง 1 แสนล้านปอนด์ต่อปี (1.24 แสนล้านดอลลาร์) ทำให้เศรษฐกิจมีขนาดเล็กลงกว่าที่ควรจะเป็นถึง 4%


  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้เปิดเผยคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 2566 โดยอังกฤษเป็นชาติเดียวในกลุ่มประเทศ G7 ที่ถูกปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับนายเจเรมี ฮันต์ รัฐมนตรีคลังอังกฤษ ที่ต้องคิดนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้ รายงานระบุว่า เศรษฐกิจอังกฤษมีแนวโน้มหดตัว 0.6% ในปีนี้ ลดลงอย่างมากจากคาดการณ์เมื่อเดือนต.ค. ซึ่ง IMF คาดว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะขยายตัว 0.3%


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ รวมทั้งข้อมูลที่บ่งชี้ว่าความต้องการน้ำมันดิบในสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นในเดือนพ.ย.


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 97 เซนต์ หรือ 1.25% ปิดที่ 78.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 41 เซนต์ หรือ 0.48% ปิดที่ 84.49 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า ความต้องการใช้น้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 178,000 บาร์เรล/วันในเดือนพ.ย. 2565 สู่ระดับ 20.59 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2565


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ


  • ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดเผยว่า เขาจะไม่อนุมัติให้จัดส่งเครื่องบินรบ F-16 ไปยังยูเครน โดยเมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ในการตัดสินใจส่งเครื่องบินรบไปยังยูเครน ปธน.ไบเดนตอบสั้น ๆ ว่าไม่


  • ซีอีโอของติ๊กต๊อกจะเข้าให้การกับคณะกรรมาธิการด้านพลังงานและพาณิชย์ (E&C) ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันที่ 23 มี.ค.เกี่ยวกับนโยบายความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของแอปพลิเคชันติ๊กต๊อก รวมถึงความสัมพันธ์ของติ๊กต๊อกกับรัฐบาลจีนผ่านทางไบต์แดนซ์ซึ่งเป็นบริษัทแม่


  • คณะทำงานของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐกำลังพิจารณาที่จะตัดขาดหัวเว่ย เทคโนโลยี่ออกจากบรรดาซัพพลายเออร์ของสหรัฐทั้งหมด รวมถึงอินเทล คอร์ป และควอลคอมม์ อิงค์ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐยกระดับการกวาดล้างภาคเทคโนโลยีของจีน


ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด


  • คณะบริหารภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐระบุว่า จะยุติการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินโรคโควิด-19 ในวันที่ 11 พ.ค. หลังสหรัฐประกาศใช้มานานเกือบ 3 ปีเพื่อมอบอำนาจให้รัฐบาลสามารถออกมาตรการควบคุมโรคระบาดได้อย่างเต็มที่แบบถูกต้องตามกฎหมาย


  • คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน แถลงว่า จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ของจีนอยู่ในระดับต่ำ โดยจำนวนผู้ป่วยทั่วประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน ระบุว่า แนวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า การพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นของเงินบาทนั้น เห็นได้ชัดว่ามาจากการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ และโฟลว์ขายทำกำไรการรีบาวด์ของราคาทองคำ โดยเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ ที่ระดับ 32.85 บาทต่อดอลลาร์ "แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์


  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนธ.ค. 65 ฟื้นตัวต่อเนื่อง จากภาคบริการที่ขยายตัวดีตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นสำคัญ สนับสนุนให้เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนปรับดีขึ้น ขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้ายังได้รับผลจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจคู่ค้า ส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรม และเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนลดลง


  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผย ดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนธ.ค. เกินดุล 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับที่ขาดดุล 0.4 พันล้านดอลลาร์ ในเดือนพ.ย. ขณะที่มูลค่าการส่งออกในเดือนธ.ค. หดตัว 12.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่มูลค่าการนำเข้า ลดลง 10.5% ส่งผลให้มียอดเกินดุลการค้า 1.0 พันล้านดอลลาร์


  • สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) มองว่า ปี 2566 นี้จะเป็นปีที่ภาคการท่องเที่ยวมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด และกลับมาเป็นเครื่องจักรสำคัญในการฟื้นเศรษฐกิจของประเทศอีกครั้ง โดย สทท. เชื่อมั่นว่า จะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 1 เท่าจากปี 65 โดยตั้งเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทะลุ 30 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 3 ล้านล้านบาท

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง


 


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com