• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 25 มกราคม 2566

    25 มกราคม 2566 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในวันอังคาร โดยตลาดยังคงได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดทองคำด้วย

  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 5.87 เหรียญ หรือ 0.3% อยู่ที่ระดับ 1,936.3 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 6.8 เหรียญ หรือ 0.35% ปิดที่ 1,935.4 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 19.5 เซนต์ หรือ 0.83% ปิดที่ 23.749 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 10.5 เหรียญ หรือ 0.99% ปิดที่ 1,066.8 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 0.29 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 917.34 ตันภาพรวมเดือนมกราคม ขายสุทธิ 0.3 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 0.3 ตัน


  • นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ City Index กล่าวว่า ข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่อ่อนแอ เป็นปัจจัยสำคัญที่ให้เฟดลดความตึงเข้มนโยบายการเงินลง ซึ่งช่วยสนับสนุนต่อราคาทองคำ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย


  • หัวหน้านักวิเคราะห์ของ Exinity กล่าวว่า สัญญาณนโยบายการเงินจากการปะชุมของเฟดที่จะมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้ อาจส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น หรืออาจพลิกให้ราคาทองคำกลับทิศทางเป็นขาลงอีกครั้ง

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.02 จุด หรือ 0.02% มาอยู่ที่ระดับ 102.01 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 3.458% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 4.215% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.76% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในวันอังคาร หลังจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาในวันอังคารแสดงให้เห็นว่า กิจกรรมทางธุรกิจในยูโรโซนเติบโตขึ้นเล็กน้อยในเดือนม.ค. แต่กิจกรรมทางธุรกิจในสหรัฐหดตัวลงในเดือนม.ค.เป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน อย่างไรก็ดี รายงานระบุอีกด้วยว่า กิจกรรมทั้งในภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐชะลอการหดตัวพร้อมกันในเดือนม.ค. ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้นับตั้งแต่เดือนก.ย. 2022 เป็นต้นมา


  • ปอนด์ร่วงลง หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาแสดงให้เห็นว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคเอกชนของอังกฤษหดตัวลงในเดือนม.ค.ในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 2 ปี


  • ผู้อำนวยการฝ่ายเทรดดิงของบริษัทโมเน็กซ์ ยูเอสเอ กล่าวว่า ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาในวันอังคารสอดคล้องกับสิ่งที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เคยระบุไว้ เพราะตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐสามารถรักษาระดับความแข็งแกร่งไว้ได้มากพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันอังคาร (24 ม.ค.) ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงบริษัทเจเนอรัล อิเลคทริค (GE) อย่างไรก็ดี ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยดัชนี S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดในแดนลบ หลังจากตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กประกาศระงับซื้อขายหุ้นของหลายสิบบริษัทเนื่องจากปัญหาทางเทคนิค
  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,733.96 จุด เพิ่มขึ้น 104.40 จุด หรือ +0.31%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,016.95 จุด ลดลง 2.86 จุด หรือ -0.07% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,334.27 จุด ลดลง 30.14 จุด หรือ -0.27%


  • ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะเติบโต 1.7% ในปี 2566 และ 2.7% ในปี 2567 โดยเศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตชะลอลงอย่างรุนแรงเป็นวงกว้าง โดยธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2566 สำหรับ 95% ของประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้วและเกือบ 70% ของประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศเศรษฐกิจกำลังพัฒนา โดยเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก (EAP) จะเติบโต 4.3% ในปี 2566 และเติบโตขึ้น 4.9% ในปี 2567 ขณะที่เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตเพียง 3.6% ในปีนี้ ซึ่งสะท้อนการฟื้นตัวที่ล่าช้าในภาคที่ต้องอาศัยการติดต่อใกล้ชิดเป็นหลัก เช่น การท่องเที่ยวและการขนส่ง

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย รวมทั้งรายงานที่บ่งชี้ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 1.49 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 80.13 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ดิ่งลง 2.06 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 86.13 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยว่า การผลิตก๊าซธรรมชาติของจีนเติบโตอย่างต่อเนื่องในเดือนธ.ค. 2565 ทั้งนี้ จีนผลิตก๊าซธรรมชาติได้ 2.04 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตรในเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 6.5% จากปี 2564 แต่อัตราการเติบโตต่ำกว่าในเดือนพ.ย.อยู่ 2.1% ในขณะเดียวกันจีนนำเข้าก๊าซธรรมชาติ 109.25 ล้านตัน ลดลง 9.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี


  • นายโรเบิร์ต มัลลีย์ เจ้าหน้าที่ทูตพิเศษของสหรัฐซึ่งดูแลกิจการเกี่ยวกับอิหร่านเปิดเผยว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะเพิ่มแรงกดดันให้จีนยุติการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน ขณะที่สหรัฐพยายามบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน


  • นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศสมาชิกสภาความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) ในปี 2566 จะขยายตัวเพียงครึ่งหนึ่งของปี 2565 เนื่องจากรายได้จากน้ำมันได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลก


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ


  • สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงลูซากา ตำหนิสหรัฐเรื่องปัญหาหนี้สินที่รุนแรง โดยระบุว่า กระทรวงการคลังสหรัฐได้เริ่มใช้มาตรการพิเศษเพื่อชำระหนี้หลังจากเพดานการกู้ยืมของรัฐบาลสหรัฐเพิ่มขึ้นถึงเพดานจำกัดแล้ว และระบุว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่สหรัฐจะสามารถจัดการกับปัญหาหนี้นอกประเทศได้คือ การดำเนินนโยบายการเงินอย่างมีความรับผิดชอบ, รับมือกับปัญหาหนี้ของตนเอง และยุติการบ่อนทำลายความพยายามของประเทศอื่น ๆ ในการแก้ไขปัญหาหนี้


  • นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐและนายโยชิมาสะ ฮายาชิ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพร่วมกันในการประชุมเมื่อวานนี้ เพื่อสนับสนุนภาคพลังงานของยูเครน


ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด


  • ฮ่องกงกำลังพิจารณาเรื่องการยกเลิกกฎเกณฑ์ที่กำหนดให้นักเดินทางทั้งขาไปและกลับจากจีนแผ่นดินใหญ่ต้องแสดงผลตรวจโรคโควิด-19 แบบ PCR และยกเลิกการกำหนดเพดานการเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่


  • สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี (KDCA) เปิดเผยว่า เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวน 12,262 ราย เมื่อวานนี้ ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 30,021,018 ราย อย่างไรก็ดี จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในเกาหลีใต้ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 20,000 รายติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากมีการตรวจหาเชื้อน้อยลงในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ของเกาหลี

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ ที่ระดับ 32.77 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 32.83 บาทต่อดอลลาร์ อย่างไรก็ดี เงินบาทผันผวนมีธุรกรรมเบาบางกว่าปกติในวันหยุดตรุษจีน ควรระวังความผันผวนช่วงทยอยรับรู้ผลการประชุมของ กนง.วันนี้ อาจกดให้อ่อนค่า -ผู้เล่นในตลาดบางส่วนอาจขายทำกำไรบอนด์ทั้งระยะสั้นและระยะยาว


  • พาณิชย์ เผยส่งออกปี 65 โต 5.5% มูลค่า 2.8 แสนล้านดอลลาร์ แม้เดือนธ.ค.65 ติดลบ 14.6% รับผลกระทบเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เข็นส่งออกปี 66 ขยายตัว 1-2% สรท.เสนอแบงก์ชาติเร่งแก้เงินบาทแข็งค่าเร็วแบงก์กรุงเทพชี้หากกนง.ขึ้นดอกเบี้ย ระวังกระทบลูกหนี้กลุ่มเปราะบาง เอสเอ็มอี


  • คณะกรรมการสรท. ได้พิจารณาข้อเสนอแนะแนวทางบรรเทาปัญหาและช่วยเหลือผู้ประกอบการส่งออกไทย จากผลกระทบเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะผู้ผลิตเพื่อส่งออกกลุ่มสินค้าเกษตร และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ที่มีสัดส่วนการใช้วัตถุดิบในประเทศในสัดส่วนสูง อาทิ กลุ่มสินค้าผักและผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง กระป๋องและแปรรูป ซึ่งสามารถส่งออกเติบโตในปี 2564 แต่มูลค่าส่งออกกลับมาหดตัวในไตรมาส 3-4/65 และต่อเนื่องไตรมาส 1/66 เมื่อค่าเงินบาทเริ่มกลับมาแข็งค่า และส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ

 

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง


 


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com