• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 19 มกราคม 2566

    19 มกราคม 2566 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลหลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -4.39 เหรียญ หรือ -0.23% อยู่ที่ระดับ 1,904.14 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 2.9 เหรียญ หรือ 0.15% ปิดที่ระดับ 1,907 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 42.1 เซนต์ หรือ 1.75% ปิดที่ 23.647 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 3.2 เหรียญ หรือ 0.31% ปิดที่ 1,043.7 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 1.74 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 910.98 ตันภาพรวมเดือนมกราคม ขายสุทธิ 6.66 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 6.66 ตัน


  • นักวิเคราะห์โลหะมีค่าของ Marex กล่าวว่า ในระยะสั้นราคาทองคำยังคงทรงตัวแถวระดับ 1,900 เหรียญ และไม่น่าจะเห็นราคาทองคำเคลื่อนตัวครั้งยิ่งใหญ่ไปมากกว่านี้ โดยตลาดยังคงให้ความสำคัญไปที่ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งหากข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ถึงภาวะเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง เฟดจะลดความร้อนแรงในการปรับขึ้นดอกเบี้ยตามไปด้วย ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ 


  • ตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐร่วงลงในวันพุธ หลังเจ้าหน้าที่หลายคนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก โดยเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายสนับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับสูงกว่า 5% แม้มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วและกิจกรรมทางเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวลงก็ตาม


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.08 จุด หรือ -0.08% มาอยู่ที่ระดับ 102.38 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.18 % มาอยู่ที่ระดับ 3.375% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.13 % มาอยู่ที่ระดับ 4.087% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.71% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • คณะกรรมการ BOJ มีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมวันพุธที่ผ่านมา โดยคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลญี่ปุ่นในช่วง -0.5% ถึง +0.5% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากการประชุมครั้งก่อนเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ นายคุโรดะย้ำว่า BOJ จะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของค่าจ้างและเป็นปัจจัยหนุนให้อัตราเงินเฟ้อมีเสถียรภาพและยั่งยืนตามเป้าหมายของ BOJ


  • ซีอีโอของซิตี้กรุ๊ป อิงค์ คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยประมาณเดือนมี.ค.-พ.ค. หรือประมาณเดือนมิ.ย.-ส.ค  อย่างไรก็ตาม นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้ออกมาเตือนว่าไม่ควรมองโลกในแง่ดีเกินไปนัก และชี้ว่าเฟดจำเป็นต้องควบคุมเงินเฟ้อให้ดีกว่าเดิม


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพุธ โดยดาวโจนส์ และ S&P500 ต่างก็ดิ่งลงเกือบ 2% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่า 1 เดือน เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันการที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไป


  • ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 33,296.96 จุด ร่วงลง 613.89 จุด หรือ -1.81%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,928.86 จุด ลดลง 62.11 จุด หรือ -1.56%
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,957.01 จุด ร่วงลง 138.10 จุด หรือ -1.24%


  • ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแบงก์ ออฟ อเมริกา ระบุว่า ผู้บริโภคสหรัฐยังคงอยู่ในสถานะที่ค่อนข้างดีและค่าแรงของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงถอนสภาพคล่องส่วนเกินออกจากระบบก็ตาม


  • โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนสำหรับปี 2566 โดยปรับขึ้นสู่ระดับ 5.5% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าอาจขยายตัว 5.2% หลังจากรัฐบาลจีนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินความคาดหมาย และการฟื้นตัวเป็นไปอย่างรวดเร็ว


  • นักลงทุนต่างประเทศเพิ่มสัดส่วนการถือครองพันธบัตรจีนในเดือนธ.ค. หลังจากที่ขายต่อเนื่อง 10 เดือนติดต่อกัน และคาดว่าจะมีเงินทุนไหลเข้าต่อเนื่องในปีนี้ โดยความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น และความเชื่อมั่นของนักลงทุนดีขึ้นหลังจากจีนประกาศยกเลิกมาตรการควบคุมโควิด-19 ไปเกือบหมดในเดือนธ.ค. และได้เปิดประเทศในช่วงต้นเดือนนี้ ซึ่งทำให้มีการคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวแข็งแกร่งในปีนี้


  • รองนายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า ในปีนี้เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัวสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนที่โรคโควิด-19 จะแพร่ระบาด หลังจากการแพร่ระบาดได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว


  • ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไต้หวันหดตัว 0.86% ในไตรมาส 4/2565 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เทียบกับการขยายตัว 4.01% ในไตรมาส 3/2565


  • บลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ (BI) คาดการณ์ว่า ยอดขายโครงการบ้านใหม่ในฮ่องกงอาจดีดตัวขึ้น 50% สู่ระดับ 1.75 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกง ในปี 2566 จากระดับต่ำสุดในรอบ 9 ปีในปี 2565 นอกจากนี้ BI คาดว่า อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของฮ่องกง จะพุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 7% ในปีนี้ 


  • สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อสำคัญของอังกฤษปรับตัวขึ้น 10.5% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่ต่ำกว่าการปรับขึ้น 10.7% ในเดือนพ.ย. และระดับสูงสุดที่ 11.1% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาพลังงานพุ่งทะยานขึ้น อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อยังคงสูงเหนือระดับเป้าหมายที่ 2% ของธนาคารกลางอังกฤษถึง 5 เท่า ซึ่งตอกย้ำความท้าทายที่ BoE กำลังเผชิญในขณะที่พยายามสกัดกั้นเงินเฟ้อโดยไม่ทำให้เศรษฐกิจถดถอย


  • สำนักข่าวบลูมเบิร์กเปิดเผยรายงานของ BCG ซึ่งระบุว่า อัตราการขยายตัวรายปีของการค้าโลกโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 2.3% ไปจนถึงปี 2574 เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ทั่วโลกซึ่งคาดว่าจะขยายตัว 2.5% โดยเฉลี่ยในทุก ๆ ปีไปจนถึงปี 2574


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ ซึ่งบดบังปัจจัยบวกจากความหวังที่ว่าการเปิดประเทศของจีนจะช่วยกระตุ้นความต้องการใช้น้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 70 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 79.48 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 94 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 84.98 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ระบุว่า ความต้องการใช้น้ำมันของจีนจะดีดตัวขึ้นในปีนี้เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ของจีน และจะขับเคลื่อนการขยายตัวทั่วโลก รวมทั้งได้แสดงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกด้วย โดยความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 2.22 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือ 2.2% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากการคาดการณ์ในเดือนที่แล้ว


  • ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ระบุว่า รัสเซียผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 2% ในปี 2565 อยู่ที่ 535 ล้านตัน แม้เผชิญการคว่ำบาตรจากตะวันตก ขณะที่การผลิตก๊าซธรรมชาติลดลง 11.8% ทว่าการดำเนินการของกลุ่มประเทศตะวันตกส่งผลให้ราคาก๊าซทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งทำให้ผู้ผลิตและผู้ส่งออกก๊าซของรัสเซียครองสัดส่วนการสร้างรายได้ในงบประมาณของรัฐบาลกลางเพิ่มขึ้น


  • รัฐมนตรีต่างประเทศของซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มกลับมามีเสถียรภาพอีกครั้ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่านโยบายของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ดำเนินมาถูกทางแล้ว แม้โอเปกพลัสจะเผชิญกับความขัดแย้งกับสหรัฐที่ต้องการให้ปรับเปลี่ยนนโยบายการผลิตก็ตาม


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ



  • อดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า รัสเซียจำเป็นต้องได้รับโอกาสหนึ่งวันในการกลับเข้าสู่ประชาคมโลกอีกครั้ง หลังจากบรรลุข้อตกลงสันติภาพกับยูเครน และการเจรจากับยูเครนจะต้องดำเนินต่อไป


  • รัสเซียเตรียมสร้างกองบัญชาการใหม่ใกล้ยุโรป และเพิ่มขนาดกองทัพเป็น 1.5 ล้านนาย ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นกับสหรัฐและชาติพันธมิตรเกี่ยวกับการรุกรานยูเครนของรัสเซีย

  • รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นและสหรัฐได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อพัฒนาและส่งเสริมเครือข่ายการสื่อสารแบบใหม่ที่ไม่ต้องพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง หลังจีนรุกเข้าสู่อุตสาหกรรมเครือข่ายการสื่อสารมากขึ้น


ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด


  • แอร์ฟินิตี้ (Airfinity) คาดการณ์ว่า จีนมีแนวโน้มจะพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 วันละ 36,000 รายในระหว่างวันหยุดเทศกาลตรุษจีน ซึ่งจะเป็นหนึ่งในช่วงที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดจากโควิด


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 32.86 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.85-33.20 บาทต่อดอลลาร์

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง


 


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com