• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 19 ธันวาคม 2566

    19 ธันวาคม 2565 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ โดยฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ปรับตัวผันผวนและติดลบในรอบสัปดาห์นี้ซึ่งถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 15.11 เหรียญ หรือ 0.85% อยู่ที่ระดับ 1,791.72 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 12.40 เหรียญ หรือ 0.69% ปิดที่ 1,800.20 เหรียญ แต่ลดลง 0.6% ในรอบสัปดาห์นี้
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 2.30 เซนต์ หรือ 0.10% ปิดที่ 23.33 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 13.20 เหรียญ หรือ 1.30% ปิดที่ 1,000.00 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 3.48 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 910.4 ตันภาพรวมเดือนธันวาคม ซื้อสุทธิ 2.31 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 65.26 ตัน


  • นักยุทธศาสตร์การลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์ของ TD Securities ระบุว่า เฟดยังคงส่งสัญญาณนโยบายการเงินเข้มงวดต่อไปในช่วงนี้ ถึงแม้เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มชะลอการเติบโตลง และเฟดก็ไม่ได้คาดการณ์ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในอนาคตอันใกล้ด้วย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ยากมากที่นักเก็งกำไรจะโยกย้ายเงินลงทุนเข้าสู่ทองในช่วงนี้


  • นักวิเคราะห์ของ Kitco Metals กล่าวว่า ราคาทองและโลหะเงินดิ่งลงอย่างรุนแรงในวันก่อน ได้รับแรงกดดันจากการที่เทรดเดอร์ระยะสั้นในสัญญาล่วงหน้าเทขายทำกำไรออกมา หลังจากราคาทองและโลหะเงินเพิ่งพุ่งขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.39 จุด หรือ 0.37% มาอยู่ที่ระดับ 104.84 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 3.506% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 4.207% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.7% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • เจพีมอร์แกนได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยสูงสุดของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) สู่ระดับ 3.25% จากระดับ 2.5% หลังจากอีซีบีประกาศว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นต่อไป นอกจากนี้ ระบุว่า การประชุมของอีซีบีในวันพฤหัสที่ผ่านมานับเป็นการปรับเปลี่ยนทิศทางนโยบายการเงินเข้มงวดมากขึ้นแบบกะทันหัน


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ โดยปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน และยังติดลบเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกันด้วย เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกเพิ่มขึ้นว่า การเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อควบคุมเงินเฟ้อนั้น จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,920.46 จุด ลดลง 281.76 จุด หรือ -0.85%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,852.36 จุด ลดลง 43.39 จุด หรือ -1.11%
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,705.41 จุด ลดลง 105.11 จุด หรือ -0.97%


  • นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารเจพีมอร์แกนกล่าวว่า "เป็นเรื่องยากที่เราจะรู้ได้ในตอนนี้ว่า ตัวเลขยอดค้าปลีกที่อ่อนแอในเดือนพ.ย.แสดงให้เห็นว่า แนวโน้มเปลี่ยนแปลงไปในขั้นพื้นฐาน หรือว่ายอดค้าปลีกเพียงแค่ชะลอตัวลงหลังจากปริมาณการจับจ่ายใช้สอยที่แท้จริงพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนต.ค. หรือว่าความอ่อนแอนี้เกิดจากปัจจัยทั้งสองประการ อย่างไรก็ดี เราไม่ได้กังวลมากนักกับการดิ่งลงของยอดค้าปลีกในเดือนพ.ย."


  • นักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทเอฟเอชเอ็น ไฟแนนเชียลกล่าวว่า "เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของราคาสินค้าปรับลดลงในช่วงนี้ และปริมาณการจับจ่ายใช้สอยก็อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งในเดือนต.ค. ดังนั้นตอนนี้จึงยังเป็นเวลาที่เร็วเกินไปที่จะระบุได้ว่า ตัวเลขยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าอุปสงค์ของผู้บริโภคทรุดตัวลงแล้ว"


  • หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) เผยว่า การเปิดประเทศของจีนจะนำมาทั้งโอกาสและความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจของจีนเอง โดยแม้ว่าการยกเลิกมาตรการเข้มงวดในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 จะช่วยกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจจีนและประเทศอื่น ๆ แต่ก็อาจส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงขึ้นด้วย ทั้งนี้ ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2565 ลงสู่ระดับ 3% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 3.3% และคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวเพียง 4.3% ในปี 2566 ซึ่งลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 4.5%


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันศุกร์ หลังจากธนาคารกลางรายใหญ่ส่งสัญญาณว่าจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีหน้า ซึ่งทำให้เกิดความวิตกว่าเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอยซึ่งอาจทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 1.82 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 74.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลง 2.17 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 79.04 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • นักวิเคราะห์จากธนาคารเจพีมอร์แกน คาดการณ์คลังน้ำมันเชิงกลยุทธ์ของสหรัฐจะเริ่มหมดลงในช่วงไตรมาสแรกของปี 2023 อลัสหรัฐจะเริ่มกลับมาซื้อน้ำมัน ไตรมาสแรกของปี 2023 และจะซื้อกว่า 60 ล้านบาร์เรลในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2023


  • นักวิเคราะห์ตลาดของบริษัท OANDA ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบร่วงลง ในขณะที่มีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้นที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย หลังจากธนาคารกลางหลายแห่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง โดยการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในช่วงนี้ได้หยุดชะงักลง ในขณะที่นักลงทุนหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยง

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ



  • วุฒิสภาสหรัฐมีมติผ่านกฎหมายงบประมาณด้านกลาโหมประจำปี 2566 ซึ่งมีวงเงินสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 8.58 แสนล้านดอลลาร์ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับการสนับสนุนอย่างท่วมท้นจากวุฒิสภาของพรรครีพับลิกันและเดโมแครต นอกจากนี้ มูลค่าของงบประมาณดังกล่าวยังสูงกว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยื่นเสนอไว้อยู่ราว 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์


  • รัฐบาลสหรัฐดำเนินการขึ้นบัญชีดำบริษัทหยางจื่อ เมมโมรี เทคโนโลยีส์ โค, เซี่ยงไฮ้ ไมโคร อิเล็กทรอนิกส์ อีควิปเมนต์ กรุ๊ป โค และบริษัทเทคโนโลยีจีนอื่น ๆ อีกหลายสิบแห่ง รวมทั้งหมดคือ 36 แห่ง ซึ่งถือเป็นการยกระดับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลก 

ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด



  • โควิด-19 ในไทยกลับมาระบาดอีกครั้ง หลังลดระดับเหลือโรคเฝ้าระวังได้แค่ 2 เดือน ล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อ-เสียชีวิตพุ่ง จับตาสายพันธุ์ที่ระบาดในอินเดีย พร้อมเฝ้าระวัง "XBB" จ่อยึดครองไทย เผย "โอมิครอน" 5 สายพันธุ์ย่อยที่ต้องเฝ้าติดตาม


  • เมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของจีน ประกาศปิดโรงเรียนส่วนใหญ่ในวันนี้ เนื่องจากความกังวลว่า การยกเลิกมาตรการเข้มงวดในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 จะส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ  34.87 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 34.97 บาทต่อดอลลาร์  มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 34.50-35.20 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.75-34.95 บาทต่อดอลลาร์


  • ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เผย เศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมระบุ แม้เศรษฐกิจโลกในปีหน้ามีแนวโน้มชะลอลง ซึ่งจะกระทบต่อการส่งออกของไทย แต่ยังมีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยในปี 66 จะขยายตัวได้มากกว่า 3% โดยประมาณการล่าสุดของธปท.อยู่ที่ 3.7% โดยเศรษฐกิจไทยจะมีแรงหนุนสำคัญจากการบริโภคในประเทศและการท่องเที่ยว


  • ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2565 ขึ้นสู่ระดับ 3.2% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมในเดือนก.ย.ที่ระดับ 2.9% และคงคาดการณ์เงินเฟ้อของไทยทั้งในปีนี้และปีหน้า โดยเงินเฟ้อปีนี้มีแนวโน้มอยู่ที่ 6.3% และ 2.7% ในปีหน้า แต่ ADB ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ลงสู่ระดับ 4.0% จากระดับ 4.2%

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com