• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 31 ตุลาคม 2565

    31 ตุลาคม 2565 | Gold News

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

 

  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -18.1 เหรียญ หรือ -1.09% อยู่ที่ระดับ 1,643.9 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ปรับตัวลดลง -20.1 เหรียญ หรือ -1.21% มาอยู่ที่ระดับ 1,646.5 เหรียญ
  • สัญญาซื้อขายล่วงหน้าโลหะเงิน ปรับตัวลดลง -0.35 เหรียญ หรือ -1.79% มาอยู่ที่ระดับ 19.175 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 2.61 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 922.59 ตันภาพรวมเดือนตุลาคม ขายสุทธิ 17.11 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 53.07 ตัน
  • นักวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์ของ SMC Global Securities กล่าวว่า ราคาทองคำอยู่ในสภาวะปรับฐานบางส่วน เนื่องจากการขยับแข็งค่าขึ้นของค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย.นี้ 
  • นักวิเคราะห์อาวุโสของ Reliance Securities กล่าวว่า ภาพรวมราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มเป็นขาลง ท่ามกลางความต้องการการลงทุนในทองคำและความต้องการด้านค้าปลีกที่เบาบางลง 

 

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

 

  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.26 จุด หรือ 0.24% มาอยู่ที่ระดับ 110.81 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.09 % มาอยู่ที่ระดับ 4.019% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.15 % มาอยู่ที่ระดับ 4.443% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.42% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ (Ultraeasy Monetary Policy) ในการประชุมวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด แต่สวนทางกับธนาคารกลางอื่น ๆ ทั่วโลกที่พากันใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
  • นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมสัปดาห์นี้ จากนั้นอีก 0.50% ในการประชุมเดือนธันวาคม ต่อด้วย 0.25% ในการประชุมเดือนกุมภาพันธ์ และ 0.25% ในการประชุมเดือนมีนาคม ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมปีหน้าเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 5%
  • เทรดเดอร์อาวุโสจาก Heraeus Precious Metals ระบุว่า มีความกังวลว่าดัชนีค่าใช้จ่ายผู้บริโภคพื้นฐาน(Core PCE)(ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อสำคัญของเฟด) จะยังคงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 0.5% เมื่อเทียบรายเดือน หรือเท่ากับการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 6% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งจะส่งผลให้เฟดยังคงมีท่าทีการใช้นโยบายการเงินอย่างแข็งกร้าว และการชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะยังคงไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้

 

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

 

  • ดัชนี Dow jones ปรับตัวขึ้น 828.52 จุด หรือ 2.59% มาอยู่ที่ระดับ 32,861.8 จุด
  • ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น 93.76 จุด หรือ 2.46% มาอยู่ที่ระดับ 3,901.06 จุด
  • ดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 309.77 จุด หรือ 2.87% มาอยู่ที่ระดับ 11,102.45 จุด
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของเอเชีย ขณะที่การคุมเข้มนโยบายการเงินทั่วโลก, อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นเนื่องจากสงครามในยูเครน และเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงมากของจีนทำให้แนวโน้มการฟื้นตัวของเอเชียมืดมน และแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อในเอเชียยังคงต่ำเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ แต่ธนาคารกลางส่วนใหญ่ก็ต้องปรับดอกเบี้ยขึ้นต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่า ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อจะไม่เกิดขึ้นในระยะยาว
  • นางเจเน็ท เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ กล่าวว่า ข้อมูลจีดีพีใหม่แสดงให้เห็นความแข็งแกร่งในเศรษฐกิจสหรัฐ พร้อมกล่าวว่า เธอยังคงไม่คาดว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่รัฐบาลสหรัฐมีศักยภาพด้านการคลังที่จะจัดการกับภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ถ้าเหมาะสม
  • ผลสำรวจประจำปีของหอการค้าอเมริกันในเซี่ยงไฮ้และพีดับบลิวซี ไชน่าพบว่า มุมมองเชิงบวกของบริษัทสหรัฐในจีนนั้นได้ลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อันเนื่องมาจากความท้าทายด้านการแข่งขัน เศรษฐกิจ และกฎระเบียบ ประกอบกับความตึงเครียดจากการบังคับใช้มาตรการโควิดเป็นศูนย์ของรัฐบาลจีน
  • กระทรวงพาณิชย์ของจีนรายงานมูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่มีการใช้จริงบนแผ่นดินใหญ่ของจีน ขยายตัว 15.6% เมื่อเทียบปีต่อปี แตะที่ 1.00376 ล้านล้านหยวน ในช่วงเดือนม.ค.-ก.ย.ที่ผ่านมา 
  • นักเศรษฐศาสตร์ คาดว่า จีนมีแนวโน้มที่จะผ่อนปรนการบังคับใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero-Covid Policy) ภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจกำลังมีปัญหา และรัฐบาลจำเป็นต้องใช้เงินอย่างมาก
  • ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เบื้องต้นของไต้หวัน ขยายตัว 4.1% ในไตรมาส 3/2565 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เทียบกับการขยายตัว 3.05% ในไตรมาส 2/2565 โดยตัวเลข GDP ไตรมาส 3/2565 นี้สูงเหนือการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าขยายตัว 3.2% และเป็นการขยายตัวแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่การขยายตัว 5.32% ในไตรมาส 4/2564
  • เศรษฐกิจของฝรั่งเศสขยายตัวเพียงเล็กน้อยในไตรมาสที่ 3/2565 เนื่องจากการใช้จ่ายภาคครัวเรือนซบเซา ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมากในเดือนต.ค. บ่งชี้ถึงอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยเศรษฐกิจของฝรั่งเศสขยายตัว 0.2% ในไตรมาส 3/2565 ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด
  • เศรษฐกิจของเยอรมนีเติบโตแบบไม่คาดหมายในไตรมาส 3/2565 โดยรอดพ้นจากความเสี่ยงของการเข้าสู่ภาวะถดถอยไปได้ แม้เงินเฟ้อเคลื่อนไหวในระดับสูง ท่ามกลางความวิตกกังวลเรื่องอุปทานพลังงาน ทั้งนี้ จีดีพีของเยอรมนีขยายตัว 0.3% ในไตรมาส 3/2565 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า 

 

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน

 

  • สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง -0.15 เหรียญ หรือ -0.17% อยู่ที่ระดับ 88.36 เหรียญ
  • สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลดลง -0.86 เหรียญ หรือ -0.89% มาอยู่ที่ระดับ 96.1 เหรียญ
  • นักวิเคราะห์จากจาก OANDA ระบุว่า ตลาดน้ำมันที่ผ่านมาได้รับประโยชน์จากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์และความหวังว่าเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัว แต่ปัจจุบัน จุดสนใจของตลาดน้ำมันอยู่ที่ความเสี่ยงการถดถอจของเศรษฐกิจที่จะส่งผลลบต่อความต้องการใช้น้ำมัน ในช่วงที่เหลือของปีนี้
  • หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์จาก National Australia Bank ระบุว่า มุมมองต่อตลาดน้ำวัน แม้ว่าอัตราดอกเบี้นจะอยู่ในระดับสูง แต่ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนราคาน้ำมันคือ อุปสงค์น้ำมัน

 

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ

 

  • เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า คณะบริหารภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดนมีแนวโน้มที่จะลงนามข้อตกลงกับพันธมิตรในระยะใกล้ เพื่อให้พันธมิตรเหล่านี้ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ใหม่ที่กำหนดขึ้นเพื่อควบคุมจีนจากการเข้าถึงอุปกรณ์การผลิตชิปที่ล้ำสมัย
  • สหรัฐกำลังเตรียมความช่วยเหลือทางทหารชุดใหม่มูลค่า 275 ล้านดอลลาร์ให้กับยูเครน เพื่อยกระดับการป้องกันการจู่โจมจากกองทัพรัสเซีย
  • ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนกล่าวว่า ยูเครนทำลายโดรนชาเฮดของอิหร่านที่ทัพรัสเซียใช้งานไปได้แล้ว 23 ลำจากทั้งหมดกว่า 30 ลำตลอด 2 วันที่ผ่านมา และในช่วงเดียวกันนี้ กองทัพยูเครนยังยิงสกัดขีปนาวุธร่อน Kh-59 หนึ่งลูก รวมถึงสอยเฮลิคอปเตอร์จู่โจม Ka-52 สองลำ และยิงเครื่องบินขับไล่ Su-25 ไปได้อีกหนึ่งลำ
  • รัสเซียยิงขีปนาวุธครั้งใหม่โจมตีกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน และเมืองซาปอริซเซีย (Zaporizhzhia) ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดของยุโรป โดยมีเสียงเตือนการโจมตีทางอากาศดังทั่วกรุงเคียฟตั้งแต่ช่วงประมาณเที่ยงคืนและต่อเนื่องมาจนถึงเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ประชาชนหาที่หลบภัย
  • เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธทิ้งตัวตกลงในทะเลตะวันออก หรือทะเลญี่ปุ่นในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยการยิงขีปนาวุธดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนที่เกาหลีใต้และสหรัฐจะทำการซ้อมรบร่วมกันในวันนี้และให้หลังเพียง 4 วันหลังจากเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ได้มีการยิงเตือนอีกฝ่ายทางชายฝั่งตะวันตก ท่ามกลางความตึงเครียดทางทหารที่เพิ่มสูงขึ้น

           

ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด

 

  • จีนประกาศมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งสวนทางกับที่นักลงทุนคาดหวังว่า จีนจะผ่อนคลายมาตรการโควิดเป็นศูนย์ หลังจากที่ประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนลงมติให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงครองอำนาจต่อไปเป็นสมัยที่ 3 โดยมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่นี้ครอบคลุมตั้งแต่เมืองอู่ฮั่นไปจนถึงเส้นทางอุตสาหกรรมของจีนบนชายฝั่งตะวันออก นอกจากนี้ การชัตดาวน์ในหลายพื้นที่ของกรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ก็ยังคงดำเนินต่อไป ขณะเดียวกันยังมีการปิดกั้นที่พักอาศัยและสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในที่พักอาศัยหากมีการสัมผัสกับผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19

 

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

 

  • ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ระดับ 37.30-38.20 บาทต่อดอลลาร์สำหรับสัปดาห์นี้ (31 ต.ค.-4 พ.ย.) พร้อมประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด (1-2 พ.ย.) รายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนก.ย. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และสถานการณ์ค่าเงินในภูมิภาค
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ปรับลดคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) ของไทยปี 65 ขยายตัว 3.4% จากเดิมคาดโต 3.5% โดยมีปัจจัยสนุนจากการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศ ขณะที่คาดจีดีพีปี 66 ขยายตัว 3.8%
    • ปรับเพิ่มคาดการณ์การส่งออกในปี 65 ขยายตัว 8.1% จากเดิมคาดโต 7.7% ขณะที่คาดการณ์ส่งออกปี 66 ขยายตัว 2.5%
    • เพิ่มคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 65 เป็น 10.3 ล้านคน คิดเป็นรายได้ 4.9 แสนล้านบาท จากเดิมคาดไว้ 8 ล้านคน และมีรายได้ 4.3 แสนล้านบาท
    • คาดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 66 ที่ 21.5 ล้านคน คิดเป็นรายได้ 1.04 ล้านล้านบาท
    • ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 65 เป็น 6.2% จากเดิมคาดไว้ 6.5% ขณะที่คาดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 66 ที่ 2.9%


ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

 


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com