MTS Help Center

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปีในวันจันทร์ เนื่องจากแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยลบต่อตลาด นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำด้วย

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -21.45 เหรียญ หรือ -1.31% มาอยู่ที่ระดับ 1,622.19 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 22.2 เหรียญ หรือ 1.34% ปิดที่ 1,633.4 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2563
• สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 43 เซนต์ หรือ 2.27% ปิดที่ 18.48 เหรียญ
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 3.76 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 943.47 ตันภาพรวมเดือนกันยายน ขายสุทธิ 29.9 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 32.19 ตัน

• นักวิเคราะห์จาก City Index ระบุว่า เป็นเรื่องยากมากที่ราคาทองจะกลับเป็นขาขึ้น อย่างน้อยไปจนกว่าจะเห็นจุดกลับตัวของนโยบายการเงินของเฟด และรวมถึงจุดกลับตัวของธนาคารกลางอื่นๆที่ดำเนินนโยบายติดตามเฟด

• นักวิเคราะห์จาก City Index ระบุอีกว่า เมื่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยเกิดขึ้นจริง มีแนวโน้มที่นักลงทุนจะเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จากการที่เฟดจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยไปมากกว่านี้หากเกิดกรณีดังกล่าว

 

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 1.0 จุด หรือ 0.87% มาอยู่ที่ระดับ 114.02 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวขึ้น 0.192% มาอยู่ที่ระดับ 3.931% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี  อยู่ที่ระดับ 4.349% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ -0.418%

• ประธานเฟดสาขาแอตแลตา ราฟาเอล บอสติด กล่าวว่า เขาเชื่อว่าเฟดจะสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้โดยไม่ทำให้การจ้างงานลดหายไปอย่างมากได้ จากเศรษฐกิจยังสามารถคงแนวโน้มที่ดีได้

• ค่าเงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อวานนี้ ที่ระดับ 1.0382 ดอลลาร์ หลังรัฐบาลอังกฤษ เปิดเผยมาตรการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ รวมทั้งมาตรการเยียวยาภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงาน

• ซิตี้กรุ๊ป เตือนว่า อังกฤษมีความเสี่ยงที่จะเผชิญวิกฤตความเชื่อมั่นในสกุลเงินปอนด์ และปอนด์อาจดิ่งลงแตะระดับ 1:1 เทียบกับดอลลาร์ พร้อมระบุว่า "เราคิดว่าอังกฤษจะประสบความยากลำบากในการหาเงินมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่"

• นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กล่าวว่า ญี่ปุ่นไม่มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

• รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่นส่งสัญญาณว่า ญี่ปุ่นพร้อมที่จะเข้าแทรกแซงตลาดอีกครั้ง ถ้าหากเยนแกว่งตัวผันผวนมากเกินไป

• ค่าเงินหยวนดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 28 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและอยู่ใกล้กับระดับต่ำสุดของกรอบความเคลื่อนไหวที่ได้รับอนุญาต ถึงแม้ธนาคารกลางจีน (PBOC) ดำเนินมาตรการจำกัดการอ่อนค่าของหยวน โดย PBOC ได้ประกาศปรับเพิ่มทุนสำรองความเสี่ยงสกุลเงินต่างประเทศสำหรับสถาบันการเงินที่ซื้อสกุลเงินต่างประเทศผ่านทางสัญญาฟอร์เวิร์ด โดยปรับเพิ่มทุนสำรองดังกล่าวขึ้นสู่ 20% จากเดิมที่ 0% และจะมีผลตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.เป็นต้นไป

 

 

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงและเข้าสู่ภาวะตลาดหมี (Bear Market) แล้วในวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญภาวะถดถอย

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,260.81 จุด ร่วงลง 329.60 จุด หรือ -1.11%,
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,655.04 จุด ลดลง 38.19 จุด หรือ -1.03% และ
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,802.92 จุด ลดลง 65.00 จุด หรือ -0.60%

• บริษัทเอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยผลสำรวจ ระบุว่า กิจกรรมทางธุรกิจในยูโรโซนหดตัวลงอย่างรุนแรงยิ่งขึ้นในเดือนก.ย. และเศรษฐกิจยูโรโซนมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอย ในขณะที่ผู้บริโภคจำกัดการใช้จ่ายเงินท่ามกลางวิกฤติค่าครองชีพ ทั้งนี้ เอสแอนด์พี โกลบอลรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) โดยรวมขั้นต้นของยูโรโซนร่วงลงจาก 48.9 ในเดือนสิงหาคม สู่ 48.2 ในเดือนกันยายน ซึ่งตรงกับตัวเลขคาดการณ์ในโพลล์รอยเตอร์ โดยดัชนีที่ระดับต่ำกว่า 50 แสดงให้เห็นว่าธุรกิจหดตัวลง และดัชนีก็อยู่ต่ำกว่า 50 เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน

 

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 9 เดือนในวันจันทร์ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดยตลาดได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งความกังวลว่าการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 2.03 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 76.71 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค. 2565
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 2.09 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 84.06 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่ 14 ม.ค. 2565

• รองประธานฝ่ายวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก Religare Broking ระบุว่า ผลกระทบจากการที่บรรดาธนาคารการหลักของโลกใช้นโยบายการเงินเข้มงวดเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ และค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษ สร้างความกังวลต่อการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย และยังเป็นปัจจัยกดดันหลักต่อราคาน้ำมัน

• นักวิเคราะห์จากบริษัทโอแอนดา (OANDA) ระบุว่า "ราคาน้ำมันดิบดิ่งลง ในขณะที่นักลงทุนกังวลกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกเป็นอย่างมาก เนื่องจากธนาคารกลางหลายแห่งแสดงความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ โดยธนาคารกลางหลายแห่งมีแนวโน้มที่จะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวต่อไป และปัจจัยนี้ก็จะส่งผลลบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และจะส่งผลลบต่อแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันดิบในระยะสั้นด้วย"

• ในส่วนของปัจจัยด้านอุปทานน้ำมัน นักลงทุนคาดว่าอิหร่านอาจจะยังไม่สามารถส่งออกน้ำมันดิบสู่ตลาดโลกได้ในเร็ว ๆ นี้ ในขณะที่ความพยายามในการฟื้นฟูข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านปี 2015 หยุดชะงักลง เนื่องจากรัฐบาลอิหร่านยืนยันให้ยุติการสอบสวนของหน่วยงานด้านนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ (ยูเอ็น)

• สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) บรรลุข้อตกลงความมั่นคงด้านพลังงานกับเยอรมนีเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว UAE จะจัดส่งก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดีเซลให้กับเยอรมนี ในขณะที่เยอรมนีเร่งหาแหล่งทรัพยากรพลังงานใหม่ เพื่อทดแทนพลังงานจากรัสเซีย

 

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ

 

• รัสเซียเดินหน้าทำประชามติผนวก 4 เขตทางตะวันออกและใต้ของยูเครน ตั้งแต่วันที่ 23 – 27 กันยายน พร้อมยืนยันว่า ดินแดนเหล่านั้นจะอยู่ภายใต้ “การปกป้องอย่างสมบูรณ์” หากตกลงผนวกเข้ากับรัสเซีย ซึ่งรวมถึงการปกป้องโดยใช้อาวุธนิวเคลียร์

• การลงประชามติเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียถูกจัดขึ้นอย่างรีบเร่ง หลังจากยูเครนชิงเมืองต่างๆ ทางตะวันออกเฉียงเหนือคืนจากรัสเซียในปฏิบัติการตอบโต้ที่เริ่มต้นในเดือนนี้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวอ้างว่า ประชาชนถูกห้ามเดินทางออกจากพื้นที่ซึ่งถูกรัสเซียยึดครองจนกว่าจะสิ้นสุดการลงประชามติที่จัดขึ้น 4 วัน และมีกลุ่มติดอาวุธเข้าไปข่มขู่ในบ้านเรือนประชาชน นอกจากนั้น พนักงานยังถูกขู่ไล่ออกถ้าไม่ไปลงประชามติ

• นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐจะตอบสนองรัสเซียด้วยวิธีการที่เฉียบขาด หากรัสเซียใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตียูเครน พร้อมกับเตือนว่า รัสเซียอาจเผชิญ “หายนะ” ที่จะตามมา

• หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่า ญี่ปุ่นตัดสินใจสั่งห้ามส่งออกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอาวุธเคมีไปยังรัสเซีย ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมจากกรณีการบุกยูเครน พร้อมกับกล่าวว่า ญี่ปุ่นมความ “กังวลอย่างยิ่ง” ต่อความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะใช้อาวุธนิวเคลียร์

• พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้เสร็จสิ้นการคัดเลือกคณะผู้แทนที่จะเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งสำคัญที่มีกำหนดเปิดฉากขึ้นวันที่ 16 ต.ค.นี้ ซึ่งคาดการณ์ว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิงจะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนต่อเป็นสมัยที่ 3 หลังจากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญจำกัดวาระดำรงตำแหน่ง 2 สมัยไปเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา

 

         

ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด

• สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 351 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมแล้วจนถึงวันนี้ 4,679,022 ราย ยอดผู้ติดเชื้อนอกโรงพยาบาล (ATK) ระหว่างวันที่ 18-24 ก.ย.2565 จำนวน 81,258 ราย สะสม 8,117,241 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 10 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน ม.ค.2565 มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 11,038 ราย ขณะที่ ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 32,736 ราย

• รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารสุขฮ่องกงเปิดเผยว่า ฮ่องกงยังไม่สามารถยกเลิกมาตรการจำกัดการเดินทางทั้งหมดได้ในขณะที่โควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ แม้มีโอกาสที่จะเร่งผ่อนปรนการบังคับใช้กฎเกณฑ์การเว้นระยะห่างทางสังคมในชุมชน

 

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ ที่ระดับ 37.89 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 37.84 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 37.75-38.00 บาทต่อดอลลาร์

• กระทรวงพาณิชย์เผยการส่งออกในเดือนสิงหาคม มีมูลค่า 23,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เทียบกับที่โพลล์รอยเตอร์คาดไว้เพิ่มขึ้น 7.7% สำหรับการนำเข้าในเดือนส.ค. มีมูลค่า 27,800 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 21.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เทียบกับที่โพลล์รอยเตอร์คาดไว้เพิ่มขึ้น 17.9% ส่งผลให้ในเดือนสิงหาคม มียอดขาดดุลการค้า 4,220 ล้านดอลลาร์ ขณะที่โพลล์รอยเตอร์คาดขาดดุล 3,150 ล้านดอลลาร์

 

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews, Manager Online