• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 18 มกราคม 2565

    18 มกราคม 2565 | Gold News

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


·         ราคาทองคำทรงตัว ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวเพิ่มขึ้น และค่าเงินดอลลาร์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปิดทรงตัวที่ระดับ 1819.34 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ปิดปรับตัวขึ้น 0.2% มาอยู่ที่ระดับ 1819.70 เหรียญ
  • สัญญาซื้อขายล่วงหน้าโลหะเงิน ปิดปรับตัวขึ้น 6.9 เซนต์หรือ 0.3% มาอยู่ที่ระดับ 23.015 เหรียญ


  • นักกลยุทธ์จากเครดิต สวิส มองราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวลงในปี 2022 โดยปัจจัยการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงและการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ เป็นปัจจัยหลักที่กดดันราคาทองคำ โดยมองระดับราคา 1,759-54 เหรียญเป็นแนวรับแรก ตามด้วยแนวรับจุดต่ำสุดเดิมที่ 1,691-77 เหรียญ และมีแนวรับระยะถัดไปที่ 1620-15 เหรียญและสุดท้ายที่ 1,572-61


  • ความต้องการทองคำในอินเดียได้รับผลกระทบจากการระบาดไวรัสโควิด โดยการระบาดของไวรัสโควิดระลอกที่ 3 ในประเทศอินเดียส่งผลให้ลดขนาดของการจัดงานแต่งงาน โดยล่าสุดมีผู้ติดเชื้อรายวันสูงมากกว่า 2 แสนรายต่อวัน


  • UBS wealth management มีมุมมองเชิงลบต่อทองคำ โดยระบุว่า ในปี 2022 ค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น และนั่นหมายถึง ราคาทองคำจะอ่อนตัวลง 

 

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.06 จุด หรือ 0.06% มาอยู่ที่ระดับ 95.25 จุด


  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวขึ้น 0.046 เบสิสพ้อยท์ มาอยู่ที่ระดับ 1.818 %


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  33.05 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าในรอบกว่า7สัปดาห์ครั้งใหม่และแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  33.08บาทต่อดอลลาร์  มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.95-33.15 บาทต่อดอลลาร์


  • UBS wealth management มีมุมมองเชิงลบต่อค่าเงินยูโร ภาพรวมการจัดพอร์ทโฟลิโอยังมีมุมมองเชิงบวกต่อเงินดอลลาร์และเชิงลบต่อเงินยูโร เนื่องจาก ECB ยังคงใช้นโยบายดอกเบี้ยศูนย์ (ZIRP: Zero Interest-Rate Policy) และยังคงใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายหรือ QE ทั้งนี้คาดว่าคู่สกุลเงินยูโรจะปรับลดลงสู่ระดับ 1.10 ดอลลาร์ต่อยูโร

 

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการเมื่อวานนี้ เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ โดยตลาดจะกลับมาเปิดทำการซื้อขายอีกครั้งในวันนี้


  • Goldman Sachs ปรับลดคาดการณ์การการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐสำหรับปี 2022 จากเติบโต 3.8% เหลือ 3.4% โดยมีสองปัจจัยหลักได้แก่ (1) ประเมินเม็ดเงินจากนโยบายการคลังกระตุ้นเศรษกิจน้อยลง (2) การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ในขณะที่ Goldman sachs คาดการณ์ปี 2021 เศรษฐกิจสหรัฐเติบโตช่วงประมาณ 5 - 6 %


  • ธนาคารกลางจีนประกาศลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.10%  สู่ระดับ 2.85% พร้อมอัดฉีดเงินเข้าระบบราว 2 แสนล้านหยวน หรือกว่า 1 ล้านล้านบาท

 

  • ประธานาธิบดีจัน สี จี้นผิง เรียกร้องให้นานาชาติช่วยกันปกป้องห่วงโซ่อุปทานโลกและเรียกร้องให้ป้องกันเงินเฟ้อ ในการประชุม World Economic Forum ทางวิดีโอออนไลน์


  • ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนเตือนถึงภาวะเงินเฟ้อกำลังก่อให้เกิดความเสี่ยงแพร่ไปทั่วโลก โดยกระตุ้นให้ประเทศต่าง ๆ ใช้นโยบายทางการเงินอย่างแข็งแกร่งเพื่อป้องกันเศรษฐกิจโลกไม่ให้เข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง ทั้งนี้ สี จิ้นผิง ระบุว่า กลุ่มประเทศเศรษฐกิจที่กำลังพัฒนาจะได้รับผลกระทบหากธนาคารกลางของประเทศนำนโยบายการเงินแบบรัดกุมมาใช้ต่อกรกับภาวะเงินเฟ้อ เขาเรียกร้องให้ผู้นำทั่วโลกร่วมมือกันเพื่อเอาชนะโรคระบาด นอกจากนี้ เขายังเตือนว่า หากประเทศเศรษฐกิจหลัก ๆ ใช้นโยบายการเงินอย่างการขึ้นอัตราดอกเบี้ย และสิ้นสุดมาตรการกระตุ้นต่าง ๆ จะยิ่งยับยั้งปัญหายาก


  • อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีน (GDP Growth) เติบโตมากกว่าคาด โดยในไตรมาสที่สี่ของปี 2021 เศรษฐกิจจีนเติบโต 4.0% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า มากกว่าที่คาดการณ์ที่ 3.6% แต่ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 4.9% ทั้งนี้เป็นอัตราการการเติบโตที่ต่ำที่สุดหลังจากการระบาดของโควิดในไตรมาสที่สองของปี 2020 ยังคงมีปัจจัยกดดันจากภาคอสังหาริมทรัพย์และการระบาดของโควิด


  • นายแกเร็ท แบร์รี นักกลยุทธ์ปริวรรตเงินตราของบริษัท Macquarie Group เปิดเผยว่า กรณีที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายแบบไม่คาดหมายในวันนี้ ถือได้ว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่มีแนวโน้มจะสร้างแรงกดดันขาลงให้กับสกุลเงินหยวนเพิ่มมากขึ้น


  • นักวิเคราะห์จากบริษัท Guosheng Securities กล่าวว่า การที่จีนตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในวันนี้ บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มชะลอตัวลง และการดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะฉุดต้นทุนการกู้ยืมให้ลดลงเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ


  • นายกรัฐมนตรีอินเดีย กล่าวในการประชุม World Economic Forum ว่า อินเดียต้องการเป็นศูนย์กลาง Supply Chain ของโลก โดยเขาระบุว่า อินเดียมีความน่าเชื่อถือทั้งทางด้านระบอบประชาธิปไตย ด้านเทคโนโลยี ซึ่งขณะนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะลงทุนในอินเดีย เขาอ้างอิงถึงข้อสัญญาที่อินเดียได้ให้ไว้ในการตั้งมั่นที่จะปฏิรูปเศรษฐกิจ และการนำเงินลงทุนในโครงสร้างการเชื่อมต่อดิจิตอลมูลค่าถึง 1.3 ล้านล้านเหรียญ นอกจากนี้เขายังกล่าวเกี่ยวกับอุตสาหกรรมทางด้านเภสัชกรรมที่ใช้ในการผลิตวัคซีนออกมามากมายเพื่อจัดการโรคระบาด และการเติบโตในธุรกิจสตาร์ทอัพ


  • "คนละครึ่งเฟส 4" เปิดลงทะเบียน 14 ก.พ. เริ่มใช้จ่าย 21 ก.พ. 65


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


·         ราคาน้ำมันปรับขึ้น เนื่องจากตลาดคาดว่าอุปทานยังคงตึงตัวท่ามกลางการผลิตที่จำกัดโดยผู้ผลิตรายใหญ่ โดยอุปสงค์ทั่วโลกเริ่มคลี่คลายความกังวลเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน


  • สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI  ปรับตัวขึ้น 29 เซนต์ หรือที่  0.4% มาอยู่ที่ระดับ 84.11 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ทำสูงสุดที่ระดับ 84.78 เหรียญ/บาร์เรล นับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีทีผ่านมา  


  • สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้น 9 เซนต์ หรือ 0.1% มาอยู่ที่ระดับ 86.15 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ทำสูงสุดที่ระดับ 86.71 เหรียญ/บาร์เรล ในช่วงต.ค.ปี 2018


  • แหล่งข่าวระบุว่า จีนวางแผนปล่อยน้ำมันสำรองออกจากคลังน้ำมันยุทธศาสตร์ช่วงตรุษจีน ระหว่างช่วงวันที่ 31 มกราคมถึง 6 กุมภาพันธ์ ตามแผนความร่วมมือกับสหรัฐและชาติพันธมิตรในการลดระดับราคาน้ำมันของโลก

 

ข่าวเกี่ยวกับเงินเฟ้อ


  • ราคาหมูในประเทศจีนที่ทยอยฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีอาจเพิ่มอัตราเงินเฟ้อในจีนในระยะถัดไป ในช่วงปีที่ผ่านมา อัตราเงินเฟ้อในจีนมีระดับต่ำ เพราะราคาหมูลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่มีราคาสูง อัตราเงินเฟ้อจีนเดือนธันวาคมที่รวมราคาหมูอยู่ที่ 1.5% ต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาหมูที่ 2.3% ซึ่งราคาปรับลดลงถึง 37% อย่างไรก็ตาม ราคาหมูจะเริ่มฟื้นตัวตามปริมาณหมูเลี้ยงที่จะลดลงโดยเฉพาะช่วงตรุษจีนที่มีการบริโภคหมูปรืมาณมากสูงสุดของปี

 

ข่าวเกี่ยวกับ Covid-19


  • สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,397 ราย ผู้ป่วยสะสม 114,376 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) รวมยอดติดเชื้อสะสม 2,337,811 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 18 ราย เสียชีวิตสะสม 21,956 ราย 


  • ยุโรปเผชิญการระบาดไข้หวัดใหญ่ เสี่ยงที่การระบาดจะยืดเยื้อเป็นวิกฤตโรคระบาดคู่ (Twindemic) จากการที่ไข้หวัดใหญ้อินฟลูเอนซา (Influenza) กลับมาระบาดในอัตราที่รวดเร็วในช่วงฤดูหนาวนี้ จากที่ห่างหายไปในปีก่อน สร้างความกังวลว่าการระบากจะยืดเยื้อ เกิดการระบาดซ้อนคู่กับการระบาดของไวรัสโควิด และยังสงสัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนไข้หวัดในกรณีกวิกฤตโรคระบาดคู่ดังกล่าว


  • ประธานบริษัทโมเดิร์นน่าคาดการณ์ว่า การฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ร่วมกับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ อาจมีพร้อมแค่เพียงสำหรับบางประเทศ โดยเป้าหมายของบริษัทคือสามารถมีวัคซีนกระตุ้นให้กับประชาชน 1 เข็มต่อปี อาจจะเป็น เข็มกระตุ้นสำหรับไวรัสโคโรน่า และเข็มกระตุ้นสำหรับไข้หวัดใหญ่ และเข็มกระตุ้นสำหรับไวรัส RSV เพื่อให้มั่นใจว่าประชาชนได้รับวัคซีน ิทั้งนี้ ประเมินว่าประชาชนจะได้ทั้งวัคซีนป้องกันโควิด-19 ร่วมกับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่อย่างเร็วที่สุดคือในปี 2023


  • จีนออกมาตรการคุมเข้มการเดินทางช่วงตรุษจีน ป้องกันการระบาดของไวรัสโควิดโอมิครอน โดยมาตรการดังกล่าวกำหนดให้ประชาชนต้องรายงานจำนวนวันเดินทางก่อนที่จะเริ่มเดินทาง


  • พล.อ. มาร์ค มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วม ตรวจพบผลโควิด-19 เป็นบวก เมื่อวันอาทิตย์ โดยเขาเพิ่งพบปะกับนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวันที่ 12 มกราคม อย่างไรก็ตาม มีการตรวจเชื้อเป็นลบเมื่อไม่กี่วันก่อนเข้าพบกับนายไบเดน จนกระทั่งตรวจผลเมื่อวันอาทิตย์ดังกล่าว

 

 

ที่มาจาก : Infoquest, CNBC , Reuters, FXstreet, kitco

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com