• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564

    16 พฤศจิกายน 2564 | Gold News



ทองคำทำสูงสุด 5 เดือน ท่ามกลางกังวลเงินเฟ้อช่วยชดเชยการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ

·         ราคาทองคำตลาดโลกปิด +0.1% ที่ระดับ 1,866.03 เหรียญ
หลังจากช่วงต้นตลาดเผชิญแรงเทขายทำกำไร

·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิด -0.1% ที่ระดับ 1,866.60 เหรียญ

 

·         นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Kitco กล่าวว่า ราคาทองคำเผชิญแรงเทขายทำกำไรในระยะสั้นๆของเทรดเดอร์ตลาดอนุพันธ์ แต่ทองคำก็ยังมีแนวโน้มขาขึ้นอยู่ในเวลานี้

 

·         ภาพรวมราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาได้ราว 100 เหรียญ ช่วง 8 วันทำการที่ผ่านมา ถือเป็นการปรับตัวสูงขึ้นที่ยาวนานต่อเนื่องที่สุดนับตั้งแต่ พ.ค. ขณะที่ความต้องการสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อก็ดูจะได้รับอานิสงส์จากข้อมูล CPI สหรัฐฯ ประกอบกับทาทีที่บรรดาธนาคารกลางต่างๆยังคงท่าที Dovish เรื่องดอกเบี้ย

 

·         นักวิเคราะห์จาก Saxo Bank กล่าวว่า หากทองคำล้มเหลวในการฝ่า 1,870 เหรียญในวันนี้ ก็มีความเสี่ยงจะเห็นทองคำกลับลงมาบริเวณ 1,830 – 1,835 เหรียญได้ และอาจสร้างความผิดหวังต่อทิศทางให้แก่นักลงทุนบางส่วนได้

 

·         ประธานเฟดสาขามินนีแอโพลิส คาดหวังว่าเงินเฟ้อจะยังอยู่ระดับสูงต่อไปอีก 2-3 เดือน แต่เฟดก็ไม่ควรตอบรับเกินไปเนื่องจากมองว่าแนวโน้มการขึ้นของเงินเฟ้อเป็นเพียง “ชั่วคราว”

 

·         นักวิเคราะห์จาก UBS กล่าวว่า การปรับนโยบายสู่สภาวะปกติของเฟด และการขึ้นดอกเบี้ย ประกอบกับการแข็งค่าของดอลลาร์ รวมไปถึงแนวโน้มเงินเฟ้อที่จะอ่อนตัวลงในปีหน้า ทั้งหมดนี้ดูจะกดดันให้ราคาซิลเวอร์ปรับตัวลดลง

 

·         ซิลเวอร์ปิด -0.8% ที่ระดับ 25.09 เหรียญ

·         แพลทินัมปิด +0.6% ที่ระดับ 1,088.51 เหรียญ

·         พลาเดียมปิด +2.5% ที่ 2,161.07 เหรียญ

 

·         ไบเดน” ลงนามปลดล็อกร่างโครงสร้างพื้นฐาน 1 ล้านล้านเหรียญ

นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามร่างโครงสร้างพื้นฐาน 1 ล้านล้านเหรียญ ให้กลายเป็นตัวบทกฎหมาย ปลดล็อกกองทุนสำหรับการขนส่งบอร์ดแบรนด์ และสาธารณูปโภค


 

·         ทำเนียบขาว ยืนยัน การพบกันของ “ไบเดน - สี” สองผู้นำในการประชุมร่วมกันต่อสู้กับภาวะโลกร้อนเมื่อวานนี้

อย่างไรก็ดี นักลงทุนจับตาและให้ความสำคัญกับการพบกันของ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ยังตึงเครียดในหลายๆประเด็น ขณะดียวกันรายงานจาก Fox ก็ดูเหมือนมีแนวโน้มจะเห็น ไบเดนอาจเรียกร้องจีนในการสร้างความชัดเจนเรื่องไวรัสและต้นกำเนิด

 

·         ไต้หวัน จับตาการพบกันของ “ไบเดน-สี” ท่ามกลางปัญหาเรื่อง “ภาษี” และ “ห่วงโซ่อุปทาน” ที่วิตกกังวลว่าอาจเห็นแรงกดดันด้านความมั่นคงเพิ่มมากขึ้นระหว่าง 2 ผู้นำ

 

·         “โธมัส บาร์กิน” ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ กล่าวว่ เฟดจำเป็นต้องใช้เวลารออีก 2-3 เดือน เพื่อหาความชัดเจนเรื่องเงินเฟ้อและตลาดแรงงาน ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของ Covid-19 ที่มีแนวโน้มอ่อนตัว หรืออาจเห็นผลสะท้อนจากการเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงคลังมากขึ้นที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจ

 

·         “โมฮัมเม็ด อัล-อีเรียน” หัวหน้าที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจประจำ Allianz ชี้ เฟดกำลังสูญเสียความน่าเชื่อถือต่อประเด็นเงินเฟ้อที่มองเป็นภาวะชั่วคราวยาวนานมากขึ้น


·         บรรดานักลงทุนให้ความสนใจข้อมูลค่าปลีกสหรัฐฯ ที่จะประกาศในคืนนี้เวลา 20.30น. โดยคาดว่าจะขยายตัวได้ราว 1.5% ในเดือนต.ค.  ท่ามกลางราคาก๊าซโซลีนพุ่ง ประกอบกับการจับจ่ายช่วงก่อนวันหยุดเทศกาล

 

·         หัวหน้านักกลยุทธ์จาก Principal Global Investors มองเงินเฟ้อสูงขึ้นเพราะเป็นผลจากนโยบายพลังงานสีเขียวครั้งใหม่ ก่อให้เกิดความเสี่ยงในสภาวะ “Greenflation” จึงช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานสะอาดและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง


·         WTO ชี้ การค้าโลกชะลอตัวท่ามกลางอุปสรรคด้านอุปทาน และอุปสงค์ชะลอตัว  กดดันแนวโน้มการนำเข้าลดลง


มาตรวัดการค้าของ
 WTO ปรับตัวลดลงมาที่ระดับ 99.5 จุด จากมาตรฐาน 100 จุด ในเดือนพ.ย. ขณะที่ดือนส.ค. ทำสูงสุดประวัติการณ์บริเวณ 110.4 จุด

ทั้งนี้ อุปสงค์การค้ายังคงอ่อนกำลังลงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงคำสั่งซื้อที่กระทบยอดส่งออกลดลง


น้ำมันดิบ WTI ปิด +8 เซนต์ หรือ +0.1% ที่ระดับ 80.88 เหรียญ/บาร์เรล

 

 

·         COVID-19 UPDATES:

ยอดติดเชื้อสะสมทั่วโลกแตะ 254.51 ล้านราย ขณะที่เสียชีวิตสะสม ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 5.12 ล้านราย

สำหรับการรักษาหายสะสมทั่วโลกอยู่ที่ระดับ 231.25 ล้านราย




 

·         สถานการณ์ในไทย ยังพบว่า ยอดติดเชื้อยังลดต่ำลงต่อเนื่อง โดยพบติดเชื้อใหม่เพิ่ม 5,947 ราย ตาย 62 ราย ATK อีก 2,073 ราย



·         ปลัด สธ.เผย 4 ปัจจัยเสี่ยงโควิดระบาด เดินหน้ามาตรการ VUCA คุมโรค ร่วมมือหลายหน่วยงานลุยฉีดวัคซีนครบ 100 ล้านโดส เพิ่มมาตรการจูงใจชวนคนรับวัคซีน ย้ำมาตรการส่วนบุคคล UP เข้ม COVID Free Setting ตรวจ ATK


·         นักบริหารการเงินระบุว่า เช้านี้ อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ "อ่อนค่า" ที่ระดับ  32.76 บาท/ดอลลาร์

ภาพรวมค่าเงินบาทอาจมีแรงกดดันฝั่ง "อ่อนค่า" จากการ "แข็งค่า" ของเงินดอลลาร์ เหตุจากปัญหาการระบาดหนักของ COVID ในช่วงฤดุหนาว ที่เริ่มเห็นยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นทั้งในยุโรปและจีน 

ด้านสภาพัฒน์เผยเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ติดลบ 0.3% หลังโควิดระบาดรัฐใช้มาตรการดูแลเข้มงวด คาดทั้งปี’64 โต 1.2% ส่วนปีหน้า คาดขยายตัว 4%

คาดกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.70-32.85 บาท/ดอลลาร์

 

·         ต่างชาติเก็งกำไร “บอนด์-หุ้น” ดักทางเงินบาทแข็ง-ฟันด์โฟลว์ทะลักสิ้นปี

นักลงทุนต่างชาติโหมซื้อบอนด์สั้น-เข้าหุ้นไทย เก็งเงินบาทปลายปีแข็งค่าแตะ 32.50 บาท “กรุงไทย” ประเมินฟันด์โฟลว์ทะลักปลายปี คาด 2 เดือนสุดท้ายเข้า “หุ้น-บอนด์” รวม 4 หมื่นล้านบาท จับตาเฟดประชุมรอบเดือนธันวาคม หากขึ้นดอกเบี้ยเร็วอาจมีการเทขายบอนด์ ฟาก ธปท.ระบุยังไม่เห็นสัญญาณทุนเคลื่อนย้ายผิดปกติ ด้าน “ทีทีบี” ชี้ปลายปีเงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้น ช่วยลดปัญหานำเข้าน้ำมันแพง

 


 

·         อ้างอิงจากเดลินิวส์

พิษโควิดฉุดจีดีพีไทยไตรมาส 3 ติดลบ 0.3% คาดทั้งปีโต 1.2%

สศช.เปิดจีดีพีไทยไตรมาสที่ 3 ปรับตัวลดลง 0.3% เทียบกับการขยายตัวได้ 7.6% ในไตรมาสก่อนหน้า สาเหตุจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรงมากขึ้น ทั้งปี สศช. ประเมินเศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 1.2% ส่วนปีหน้า คาดว่าจะขยายตัวในช่วง 3.5 – 4.5%

ขณะที่การส่งออกสินค้า มีมูลค่า 
67,249 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 15.7% ต่อเนื่องจากการขยายตัว 36.2% ในไตรมาสก่อนหน้า โดยปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้น 12.2% และราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 3.1% ทำให้ทั้งปี สศช. ประเมินเศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 1.2% อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะอยู่ที่ 1.2% และบัญชีเดินสะพัดขาดดุล 2.5% ต่อจีดีพี

ส่วนปีหน้า คาดว่าจะขยายตัวในช่วง 3.5 – 4.5% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศและภาคการผลิตตามสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีแนวโน้มคลี่คลายลงและความคืบหน้าของการกระจายวัคซีนการฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ของภาคท่องเที่ยวระหว่างประเทศภายใต้นโยบายการเปิดประเทศของภาครัฐการขยายตัวในเกณฑ์ดีของการส่งออกสินค้าการขับเคลื่อนจากการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ และฐานการขยายตัวที่ยังอยู่ในระดับต่ำ


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com