• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564

    10 พฤศจิกายน 2564 | SET News

​   ·                หุ้นเอเชียร่วง นักลงทุนรับเงินเฟ้อจีนต.ค. ขณะที่หุ้นบริษัทนักพัฒนาจีน "Fantasia" ดิ่งรับการกลับมาซื้อขายรอบใหม่

   

ดัชนี HSI ปรับตัวลดลงไป 0.5%

หุ้นบริษัท Fantasia Holdings ซึ่งเป็นบริษัทนักพัฒนาอสังหาฯจีน หลังถูกตลาดฮ่องกงระงับการซื้อขายไปกว่า 1 เดือน ในวันนี้ก็กลับมาร่วงลงไปกว่า 40% จากความล้มเหลวที่ไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตรมูลค่า 206 ล้านเหรียญได้ในช่วงต้นเดือน


หุ้นจีนปรับตัวลดลง นำโดย

ดัชนี Shanghai Composite ปรับลงไปราว -0.5%

ดัชนี Shenzhen Component ปรับตัวลดลง -0.456%


ข้อมูลเงินเฟ้อจีนเดือนต.ค. อออกมาตามคาด สะท้อนดัชนี CPI จีนเดือนต.ค. รายปีโตได้ 1.5% สูงกว่าคาดการณ์ของ Reuters Poll เล็กน้อยที่คาดว่าจะโตได้ 1.4%

ขณะที่ดัชนี PPI จีน ปรับขึ้นเกินคาดทะยานแตะ 13.5% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบปีที่แล้ว สูงกว่า Reuters Poll ที่คาดไว้ 12.4%


ดัชนี Nikkei 225 ปิด -0.61% ที่ 29,106.78 จุด

ดัชนี Topix ปิด -0.54% ที่ 2,007.96 จุด

หุ้นบริษัท Nissan Motor ปรับขึ้น 7.51% หลังมีการปรับเพิ่มผลประกอบการ

ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ร่วง -1.09%

ดัชนี S&P/ASX200 ปิด -0.14% ที่ 7,423.90 จุด

ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมญี่ปุ่นปิด -0.35%

 

บรรดานักลงทุนสนใจ "ข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ" คืนนี้


·                อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาชาติธุรกิจ

- กนง. มีมติเอกฉันท์คงดอกเบี้ย 0.5% ต่อปี มองเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้วไตรมาสที่ 3 และทยอยฟื้นตัวตามคลายล็อกและเปิดประเทศ


- ธนาคารกรุงไทย เผยสัญญาณนักลงทุนต่างชาติเก็งกำไรค่าบาทตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจ หลังตัดขาดทุน-ปรับสถานะถือครองบอนด์ระยะสั้น กดดันเงินบาทแข็งค่าหลุด 33 บาท/ดอลลาร์ จับตาประชุม กนง.มีมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจ คาดเห็นฟันด์โฟลว์นักลงทุนไหลเข้าตลาดบอนด์ระยะสั้น-หุ้นเพิ่ม มองกรอบเงินบาท 32.60 บาท/ดอลลาร์


OR เผยผลประกอบการ 9 เดือน ปี64 กำไรสุทธิ 3,253 ล้านบาท เพิ่ม 55.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้รายได้จากการขายและบริการในไตรมาสนี้จะลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมาจากโควิดระลอกใหม่ พร้อมออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่เป็นคู่ค้า เพื่อให้ทุกคนผ่านวิกฤตไปด้วยกัน ตอกย้ำวิถีในการดำเนินธุรกิจของ OR ที่มุ่งเติมเต็มโอกาสเพื่อทุกการเติบโตร่วมกัน


·                อ้างอิงจากสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ

- สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ โดยร่างแผนพัฒนาฯ ฉบับนี้ เป็นแผนระดับที่ 2 ซึ่งเป็นกลไกในการถ่ายทอดยุทธศาสตร์ชาติไปสู่การปฏิบัติ โดยระบุทิศทางและเป้าหมายการพัฒนาประเทศที่ควรให้ความสำคัญในระยะ 5 ปี ภายใต้หลักการและแนวคิดสำคัญ 4 ประการ คือ


1)หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

2)แนวคิด ล้มแล้วลุกไว” (Resilience) มุ่งเน้นการลดความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลง และการพลิกวิกฤตเป็นโอกาสเพื่อสร้างการเติบโตที่มีคุณภาพและยั่งยืน

3)เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ

4)โมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว (BCG Model) รวมทั้งคำนึงถึงเงื่อนไขและข้อจำกัดที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วย


สำหรับวัตถุประสงค์ของร่างแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 คือ เพื่อพลิกโฉมประเทศไทยสู่ สังคมก้าวหน้า เศรษฐกิจสร้างมูลค่าอย่างยั่งยื” โดยมีเป้าหมายหลักที่ต้องการบรรลุผล 5 ประการ คือ

1. การปรับโครงการสร้างผลิตสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรม

2. การพัฒนาคนสำหรับโลกยุคใหม่

3. การมุ่งสู่สังคมโอกาสและความเป็นธรรม

4. การเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืน

  5. การเสริมสร้างความสามารถของประเทศในการรับมือกับความเสี่ยงและการเปลี่ยนแปลงภายใต้บริบทโลกใหม่

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com