• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 22 กันยายน 2564

    22 กันยายน 2564 | Gold News


ทองขึ้น ตลาดกังวล Evergrande – นักลงทุนสนใจเฟด

·         ราคาทองคำตลาดโลกปิด +0.7% ที่ 1,776.09 เหรียญ

·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิด +0.8% ที่ 1,778.20 เหรียญ

·         เมื่อคืนนี้ราคาทองคำปิดแดนบวก โดยตลาดได้รับอานิสงส์จาก

- กระแสตลาดเกี่ยวกับการล้มละลายของบริษัท China Evergrande
ความต้องการสินทรัพย์ Safe Haven
- ดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับแข็งค่ามากสุดรอบ 1 เดือน ปิด -0.019
% แถว 93.22 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี ทรงตัวรอเฟด ปิดที่1.318%
ราคาสินค้าในกลุ่ม Precious Metals ปรับขึ้น
แพลทินัมรีบาวน์แรงปิด +4.7
% ที่ 953.48 เหรียญ
พลาเดียมปิด +1.6
% ที่ 1,916.67 เหรียญ
ซิลเวอร์ปิด +1.3
% ที่ 22.54 เหรียญ


อย่างไรก็ดี นักลงทุนก็ยังคงสนใจและรอสัญญาณกรอบเวลาจากการประชุมเฟดในคืนนี้

 

·         ผู้อำนวยการฝ่ายการซื้อขายจาก High Ridge Futures กล่าวว่า ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งสถานการณ์ความกังวลล่าสุดเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งโอกาสที่เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัว ทั้งหมดเพียงพอที่จะ “กดดันตลาดหุ้น” และ “หนุนตลาดทองคำ”

 

·         นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Kitco Metals ระบุว่า ในทางเทคนิคระยะสั้นภาพของทองคำยังเป็น “ขาลง” และอาจเห็นเทรดเดอร์ฝั่งขายในตลาด Futures อาจกลับมาเพิ่มสถานะ หลังจากที่นักลงทุนบางส่วนทำ Short Covering ก่อนประชุมเฟด

ทั้งนี้ การที่ดอลลาร์อ่อนค่า และราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ถือเป็น 2 ปัจจัยที่มีอิทธิพลในการสนับสนุนราคาทองคำครั้งนี้ด้วย

 

·         กองทุนทองคำ SPDR กลับมาขายทองอีกครั้ง 0.87 ตัน ปัจจุบันลดการถือครองทองคำมาที่ 1,000.79 ตัน



แต่ภาพรวมเดือนก.ย. ยังคงอยู่ในสถานะซื้อสุทธิ 0.53 ตัน อยู่ในระดับเข้าซื้อรายเดือนครั้งแรกในรอบ 3 เดือน

 


·         สำหรับการประชุมเฟดในค่ำคืนนี้ถูกคาดว่า

- เฟดจะมีการเปิดเผยผลการประชุม
- เปิดเผยคาดการณ์เศรษฐกิจครั้งใหม่


·         นักวิเคราะห์บางส่วน เชื่อว่า อาจเห็นเฟดประกาศเริ่มทำ Tapering QE ในไตรมาสที่ 4 นี้ได้ และนี่อาจกลายมาเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำได้


·         หัวหน้าฝ่ายการตลาดจาก CMC Markets กล่าวถึงคำถามสำคัญที่เฟดจำเป็นต้องตอบ อาจเป็นส่วนหนึ่งที่มาสร้างความไม่แน่นอนให้กับตลาดในเรื่องการเปลี่ยนแปลงนโยบาย และกรอบเวลาการดำเนินการทำ Tapering QE

 

·         ประเด็น China Evergrande:

บริษัท China Evergrande เข้าใกล้กำหนดเส้นตายผิดนัดชำระหนี้
- นักลงทุนสนใจเรื่องความเสี่ยงที่จะเห็นบริษัทดังกล่าวอาจผิดนัดชำระหนี้จากกำหนดเส้นตายในวันพรุ่งนี้
- นักลงทุนและตลาดต่างๆทั่วโลก กำลังมองว่าปัญหาดังกล่าว อาจกลายเป็นภัยคุกคามเหมือนที่ธนาคาร 
Lehman ปิดฉากลงด้วยการประกาศภาวะ “ล้มละลาย” จากต้นทุนกู้ยืมที่สุงเป็นประวัติการณ์ จึงหวั่น Evergrande จะส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ทางการเงินทั่วโลก
- อ้างอิงจาก
 Refinitive’s IFR ชี้ว่า  หุ้นกู้สหรัฐฯเพิ่มสูงขึ้น หลังตลาดหุ้นเผชิญแรงเทขาย ท่ามกลาง “ความผันผวนในตลาด” ที่ยังคงอยู่

·         บททดสบแรกของ Evergrande ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ คือ
- กำหนดการชำระพันธบัตรอายุ 5 ปี (ซึ่งพันธบัตรมีอายุถึง มี.ค. 2022) วงเงิน 83.5 ล้านเหรียญในวันพรุ่งนี้
- กำหนดการชำระตราสารหนี้อายุ 7 ปี (ตราสารหนี้ที่มีอายุถึง มี.ค. 2024)  วงเงิน 47.5 ล้านเหรียญ ในวันที่ 29 ก.ย. หรือวันพุธหน้า

ดังนั้น ภาพรวมคาดว่า บริษัท Evergrande อาจล้มเหลวในการจ่ายชำระดอกเบี้ยดังกล่าวภายใน 30 วันของกำหนดการ เหมือนที่พลาดจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่สองธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อขนาดใหญ่ 2 แห่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

รายงานจาก  Bloomberg ระบุว่า การพลาดจ่ายชำระหนี้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเป็นไปตามที่รัฐมนตรีกระทรวงการเคหะของจีนคาดการณ์ไว้


ประธานกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์ (SEC) ของสหรัฐฯ เผยว่า บรรดานักลงทุนและกลุ่มผู้กำหนดนโยบายทั่วโลกกำลังประเมินโอกาสที่จะเกิดความเสียหาย โดยในตลาดสหรัฐฯดูจะมีการเคลื่อนไหวได้ดีกว่าหากเกิดผลกระทบจากสภาวะ Shock โลก หรือผลจากการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทใหญ่ๆ เมื่อเทียบช่วงเกิดวิกฤตทางการเงินในปี 2007 - 2009


·         Bank of America (BofA) หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจจีนจากวิกฤต Evergrande
ปี 2021
:
คาดว่าจะขยายตัวได้ 8.0% จากเดิมคาดไว้ที่ 8.3%

ปี 2022:
คาดว่าจะขยายตัวได้ 5.3% จากเดิมคาดไว้ที่ 6.2%


ปี 2023:
คาดจะขยายตัวได้ 5.8% จากเดิมที่คาดไว้ที่ 6.0%

นอกจากนี้ ยังระบุว่าเศรษฐกิจจีนอาจเผชิญความผันผวน และอาจเห็นมูลค่าการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ราว 14.5 ล้าล้านเหรียญ สะท้อนว่าความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับปัญหาของ Evergrande อาจส่งผลเป็นวงกว้าง

 

·         ไอเอ็มเอฟ ชี้ จีนมีเครื่องมือในการหลีกเลี่ยงปัญหาจาก Evergrande ที่อาจกลายมาเป็นระบบวิกฤต

หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากไอเอ็มเอฟ ยังระบุกับ Reuters ว่า China Evergrande ถือเป็นบริษัทภาคอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่มีผลต่อเศรษฐกิจจีน ดังนั้น เมื่อเกิดโอกาสผิดนัดชำระหนี้ก็อาจส่งผลโดยนัยต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีน รวมถึงเสถียรภาพของระบบการเงินจีนด้วย

ดังนั้น ไอเอ้มเอฟจะเฝ้าติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์บริษัทดังกล่าวใกล้ชิด พร้อมย้ำว่า กลุ่มผู้กำหนดนโยบายจีน “จำเป็น” ที่จะต้องปฏิรูปเพื่อจัดการและยกระดับภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างหนัก แต่ก็เชื่อว่า จีนมีเครื่องมือและพื้นที่ด้านนโยบายเพียงพอที่จะป้องกันไม่ให้ปัญหาดังกล่าวกลายเป็นระบบวิกฤตได้

 

·         ไบเดน กล่าวต้อนรับ “ยุคใหม่” ทางการทูตที่เติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง ท่ามกลางทั่วโลกที่กำลังต่อสู้กับ Covid-19 และการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งอิทธิพลจีน

 

·         ส.ส.เดโมแครตร่วมร่างงบประมาณสหรัฐฯ เพื่อยั้งการขยายเพดานหนี้แล้ว

โดยร่างดังกล่าวได้รับการโหวตเมื่อวานนี้สำหรับการจะมีการระดมทุนให้กับรัฐบาลสหรัฐฯดำเนินการต่อไปได้จนถึง 3 ธ.ค. และจะช่วยยับยั้งการจำกัดการกู้ยืมไปจนถึงสิ้นปี 2022  และจะมีการหารือขั้นสุดท้ายและโหวตร่างร่วมกับสภาล่างอีกครั้ง

 

·         นายกรัฐมนตรีบาวาเรีย แนะ อีซีบีจำเป็นต้องยุติแผนการใช้ดอกเบี้ยต่ำระดับศูนย์ ท่ามกลางเงินเฟ้อที่กำลังเป็นตัวท้าทายครั้งใหญ่ต่อเศรษฐกิจเยอรมนี

 

·         ธนาคารกลางสเปนมีการปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2021 – 2023 จากอุปสงค์ในประเทศที่แข็งแกร่งและการผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดสกัด Covid-19

 

·         ตลาดสนใจว่าที่ผู้นำคนใหม่ของเยอรมนี เพราะอาจเป็นผู้ผลักดันเศรษฐกิจหรือยับยั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ 

โดยเฉพาะรัฐบาลชุดต่อไปที่จะมารับช่วงต่อจากนางอังเกลา แมร์เคล นายกฯคนปัจจุบันเวลานี้ เพราะค่อนข้างแน่ชัดว่าจำเป็นต้องมีรัฐบาลร่วม เช่นเดียวกับปัจจุบัน แต่สิ่งที่ไม่แน่นอนคือ ฝ่ายใดจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลในการสนับสนุนหรือครอบงำการดำเนินการของรัฐบาล และจะเห็นได้ชัดถึงแนวทางและผลต่อเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของเยอรมนี ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่และสำคัญที่สุดของยุโรป

 

·         รัฐบาลอังกฤษกำลังพิจารณาหาทางช่วยเหลือและแทรกแซงวิกฤตราคาก๊าซพุ่งกระทบบริษัทพลังงานต่างๆของประเทศ
จึงอาจมีการช่วยเหลือด้านเงินกู้แก่กลุ่มบริษัทและซัพพลายเออร์ด้านพลังงานต่างๆ

 

·         เลขาธิการ OPEC+ เผย ราคาก๊าซที่พุ่งสุงขึ้นถือเป็น “การเปลี่ยนผ่านในการขึ้นค่าพรีเมียม” ชั่วคราว อันเป็นผลจากการเปลี่ยนผ่านในการส่งเสริมการพัมนาพลังงานทดแทน

 

·         ข้อมูลจากออสเตรเลีย แสดงให้เห็นว่า โครงการเรือดำน้ำฝรั่งเศสได้สร้างความเสี่ยงมาเป็นระยะเวลาหลายปี

 

·         อังกฤษเรียกร้อง “จีน” และ “รัสเวีย” เห็นพ้องข้อตกลงด้านยุทธศาสตร์อัฟกานิสถาน เพื่อขวางไม่ให้อัฟกานิสถานกลายเป็นที่หลบภัยสำหรับกลุ่มติดอาวุธต่างๆ

 

·         ตอลิบานทำการแต่งตั้งทูตพิเศษ U.N. และเรียกร้องการเจรจากับบรรดาผู้นำทั่วโลก

 

·         COVID-19 UPDATES:

ยอดติดเชื้อสะสมทั่วโลกพุ่งทะลุ 230 ล้านรายเป็นที่เรียบร้อย ขณะที่เสียชีวิตสะสมทั่วโลกแตะ 4.72 ล้านราย รักษาหายทั่วโลกรวมประมาณ 207 ล้านราย

 

·         WHO กล่าวย้ำเตือนสถานการณ์ Covid-19 สำหรับประชาชนที่มีสุขภาพที่ดี ไม่ให้เพิกเฉยกับการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิเข็ม 3

 

·         Johnson & Johnson ระบุว่า การฉีดบูสเข็ม 3 ให้ประสิทธิภาพดีถึง 94% ในสหรัฐฯ สำหรับผุ้รับเข็มสองที่ห่างจากเข็มแรกราว 2 เดือน

 

·         ติดเชื้อสะสมในไทยทะลุ 1.5 ล้านราย โดยล่าสุดวันนี้พบยอดติดเชื้อใหม่เพิ่ม 11,252 ราย ขณะที่เสียชีวิตล่าสุดเพิ่ม 141 ราย


 

ขณะที่ไทยครองอันดับ 2 อาเซียน ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว 44 ล้านโดส กทม.ฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 97.5%




·         นักบริหารการเงินมอง เงินบาทมีแนวโน้ม “อ่อนค่า” ตามการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ และ การอ่อนค่าลงของเงินหยวน จากความกังวลปัญหาผิดนัดชำระหนี้ของบริษัท Evergrandeทางการจีนจะช่วยเหลืออย่างไร

คาดเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.35 – 33.50 บาท/ดอลลาร์


นอกจากนี้ เงินบาทก็ยังมีโอกาสผันผวนขึ้น ตามเงินดอลลาร์ได้ หากผลการประชุมเฟดในครั้งนี้ มีการส่งสัญญาณว่าเฟดพร้อมใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นและอาจจะมากกว่าที่ตลาดประเมินไว้ อาทิ เจ้าหน้าที่เฟดบางส่วนสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยในปี 2022 และ เฟดส่วนใหญ่สนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยราว 4 ครั้ง ในปี 2024 ซึ่งภาพดังกล่าวอาจทำให้ เงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้นต่อได้ ทั้งนี้ หากเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจน หรือ คาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยไม่ได้ต่างจากมุมมองของตลาด เงินดอลลาร์ก็อาจอ่อนค่าลงได้บ้างเช่นกัน

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com