• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 3 กันยายน 2564

    3 กันยายน 2564 | Gold News


ทองคำเคลื่อนไหวสะสมพลังในกรอบ ตลาดจับตาจ้างงานรัฐบาลสหรัฐฯคืนนี้

ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแม้จะมีการอ่อนตัวลงบ้าง โดยนักลงทุนไม่ได้สนใจต่อการอ่อนค่าของดอลลาร์ ที่ปรับตัวลงต่ออีก -0.303% ที่ระดับ 92.229 จุด และมีการทำต่ำสุดของวันที่ระดับ 92.219 จุด ซึ่งเป็นต่ำสุดตั้งแต่ 5 ส.ค.

ขณะที่ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปีปรับลงหลุด 1.30% ปิดที่ 1.29%

แม้ข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯจะออกมาดีเกินคาด ขณะที่ภาพรวมเทรดเดอร์รอจ้างงานสหรัฐฯ คืนนี้

ทั้งนี้ กลุ่มนักลงทุนกำลังให้ความสนใจกับข้อมูลจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯคืนนี้ ที่อาจมีผลต่อแนวทางการดำเนินนโยบาย Tapering QE ของเฟด

·         ราคาทองคำตลาดโลกปิด -0.2% ที่ 1,809.60 เหรียญ

·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิด -0.3% ที่ 1,811.5 เหรียญ

 



·         กองทุนทองคำ SPDR ยังคงเทขายต่ออีก 1.74 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 998.52 ตัน ซึ่งเป็นระดับใกล้เคียงกับต่ำสุดเดิมเมื่อ 9 เม.ย. ปี 2020  ที่ตอนนั้นถือครองที่ 994.19 ตัน

ภาพรวมปีนี้ กองทุนทองคำ SPDR เทขายทองคำออกมาแล้ว 172.22 ตัน

 

·         ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐฯแตะ 340,000 ราย ทำต่ำสุดตั้งแต่ 14 มี.ค. 2020



·         ข้อมูลคำสั่งซื้อภาคโรงงานสหรัฐฯขยายตัวขึ้นในเดือนก.ค. อีก 0.4% หนุนภาพรายปีขยายตัวได้มากถึง 18% แม้จะเผชิญปัญหาห่วงโซ่อุปทาน ขณะที่ตลาดตอบรับค่าใช้จ่ายที่กลับสู่ภาคบริการและสินค้าต่างๆ

 

·         ยอดขาดดุลการค้าสหรัฐฯหดตัวเพิ่มน้อยกว่าคาด ท่ามกลางอุปสงค์อ่อนแอ และนำเข้าลดลง

 

 

·         หัวหน้านักกลยุทธ์จาก Blue Line Futures กล่าวว่า ตลาดทองคำในเวลานี้ดูจะเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการสะสมพลังจนกว่าจะทราบข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯในคืนนี้ หากออกมาดีเกินคาดก็อาจมีผลต่อดอลลาร์และกระทบทองคำได้

 

·         Reuters Poll ชี้ ตลาดสนใจข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯคืนนี้ เนื่อจากคาดว่าจะเห็นการจ้างงานขยายตัวได้ราว 728,000 ตำแหน่ง

 

·         หัวหน้านักวิเคราะห์จาก CMC Markets กล่าวว่า ราคาทองคำดูจะพยายามปรับตัวขึ้นต่อตั้งแต่เดือนส.ค. แถวระดับ 1,830 เหรีญญ แต่ก็ยังไม่สามารถไปได้ คงต้องรอตัวเลขสำคัญในค่ำคืนนี้

 

·         ราคาซิลเวอร์ปิด -1.2% ที่ 23.88 เหรียญ

·         พลาเดียมปิด -1.8% ที่ 2,398.58 เหรียญ

·         แพลทินัมปิด -0.5% ที่ 996.23 เหรียญ

 

·         ยูโรแข็งค่าต่อ 0.31% ที่ 1.1874 ดอลลาร์/ยูโร รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงบรรดาสมาชิกอีซีบีหนุน Hawkish

 

·         จับตาประชุมอีซีบี 9 ก.ย. นี้


หลังล่าสุดบรรดาสมาชิกอีซีบีที่มีท่าทีสนับสนุนการใช้มาตรการเข้มงวดทางการเงิน 2 ราย กล่าวสนับสนุนการทำ Tapering QE  เร็วๆนี้

ขณะที่นางคริสติน ลาการ์ด ประธานอีซีบี กล่าวว่า การฟื้นตัวจากวิกฤตไวรัสของภูมิภาค เป็นสิ่งเดียวที่จะสนับสนุนการถอนนโยบายผ่อนคลายทางการเงิ

 

·         นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า กล่าวว่า การยุติการคุ้มครองการขับไล่และการให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้เช่า อาจสร้างปัญหาให้แก่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้

 

·         ธนาคารกลางประเทศออสเตรเลียมาเลเซียสิงคโปร์ และแอฟริกาใต้ เปิดตัวโครงการ Digital Currency หรือ สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC)
โดยจะมีกระบวนการทดสอบการชำระเงินข้ามพรมแดนโดยใช้ค่าเงิน CBDC ที่แตกต่างกัน เพื่อประเมินว่าการดำเนินการดังกล่าวสามารถช่วยด้านบริการธุรกรรมชำระเงินได้ถูกกว่าหรือมีความง่ายกว่าหรือไม่

 

·         CNBC รายงานว่า พายุเฮอริเคนไอดา ที่สร้างความเสียหายแก่พื้นที่ในสหรัฐฯ ช่วยหนุนการเรียกร้องเร่งดำเนินการแผนโครงสร้างพื้นฐาน

 

 

·         COVID-19 UPDATES:

 


·         ติดเชื้อสะสมทั่วโลกจ่อทะลุ 220 ล้านราย ล่าสุดแตะ 219.91 ล้านราย หลังวานนี้มียอดติดเชื้อใหม่รายวันเพิ่มทั่วโลกรวมกว่า 675,000 ราย ขณะที่เสียชีวิตสะสมแตะ 4.55 ล้านราย

 

·         ดร.แอนโธนี ฟาวซี หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ประจำทำเนียบขาวสหรัฐฯ เผยว่า ไวรัสสายพันธุ์มิว (MU) ยังไม่เป็นภัยคุกคามสหรัฐฯ  และไม่ใช่เรื่องแปลกใจหากจะเห็นการเรียกร้องให้ประชาชนฉีดวัคซีน 3 เข็มเพื่อหนุนภูมิคุ้มกัน Covid-19  สำหรับผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนของบริษัท Pfizer และ Moderna

 

·         การระบาดของ Delta Covid-19 กำลังเป็นอุปสรรคและความไม่แน่นอนต่อการกลับมาเปิดทำการของประเทศออสเตรเลีย

 

·         สถานการณ์ในไทย พบยอดติดเชื้อใหม่ในวันนี้เพิ่มขึ้น 14,653 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 271 ราย


รวมติดเชื้อสะสมในประเทศทั้งหมด 1.249 ล้านราย

รวมเสียชีวิตสะสมของไทย 12,374 ราย

ภาพรวม โควิดไทยเริ่มขาลง หายป่วยเกือบ 18,000 ราย ติดเชื้อเริ่มทรงตัวที่ 1.4หมื่นราย เล็งลุ้นวัคซีนใบยาสัญชาติไทย

 

·         รายงานจาก ‘ไทยร่วมใจ’ เปิดเผยว่า คนไทยฉีดวัคซีนแล้ว 1.4 ล้านโดส หลัง 4 ก.ย.จ่อเปิดลงทะเบียนเพิ่ม

 

·         รายงานจากกระทรวงสาธารณสุขไทย แถลงยืนยัน Covid-19 สายพันธุ์มิว (MU) ยังไม่พบในไทย หลังญี่ปุ่นพบครั้งแรก

 

·         นักบริหารการเงินคาด เงินบาทจะยังเคลื่อนตัวในกรอบ 32.30 – 32.48 บาท/ดอลลาร์ ท่ามกลางดอลลาร์อ่อนค่า บรรดานักลงทุนให้ความสนใจตัวเลขจ้างงานรัฐบาลสหรัฐฯคืนนี้

 

·         อ้างอิงจากกรุงเทพธุรกิจ

'กัญชง-กัญชาโอกาสใหม่ฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย


- วิกฤติโควิด 4 ระลอก ฉุดความเชื่อมั่นรัฐดิ่ง คนไทยกังวลเศรษฐกิจมากสุดในอาเซียน

คนไทย เชื่อมั่นรัฐต่ำ หลังเผชิญวิกฤติโควิดข้ามปี พร้อมกังวลภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่มากสุดในอาเซียน ประชาชน 80% ชะลอใช้จ่าย ไม่มั่นใจในการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดมากขึ้น วอนรัฐเร่งเยียวยาลดเหลื่อมล้ำด้านสาธารณสุข แก้ปัญหาว่างงาน ออกแพ็คเกจช่วยค่าใช้จ่าย


เศรษฐกิจไร้วี่แววฟื้นตัวในเร็ววัน โควิดยังมีผู้ติดเชื้อสูงกลายเป็นแรงกดดันที่กระทบ “ฐานะการเงินส่วนบุคคล” ต่อเนื่อง โดยคนไทยเฉลี่ย 64% ห่วงฐานะเงินในกระเป๋าตัวเอง ซึ่งถือว่ากังวลหนักสุดในอาเซียน เพราะกลัวการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบกระทบการงาน



ส่วนด้านสุขภาพในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา คนไทยราว 50% รู้สึกว่าสุขภาพจิตแย่ลง และยังมีอัตราการฆ่าตัวตายสูงกว่าเมื่อเทียบกับวิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 ด้วย ค่าเฉลี่ยดังกล่าวยังสูงกว่าชาวอาเซียนด้วย ซึ่งมีสุขภาพจิตแย่ลง 39% อย่างไรก็ตาม มีประชาชน 39% รู้สึกว่าช่วงที่ผ่านมามีความสุขขึ้น


อ่านต่อhttps://www.bangkokbiznews.com/news/detail/958052

 

·         อ้างอิงจากประชาชาติ

สถานการณ์ Covid-19 ไม่จบ กระทบธุรกิจท่องเที่ยว แห่ขายโรงแรมทั่วไทย หนี้ท่วม-ถอดใจสู้โควิดไม่ไหว มองไม่เห็นอนาคต

 

- TTB เจาะลึกการปรับตัวธุรกิจไทยในวิกฤตโควิด-19 พร้อมฉายภาพการฟื้นตัวระยะปานกลางแบบ K-Shape

การฟื้นตัวของแต่ธุรกิจในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขึ้นอยู่กับการปรับตัวให้เข้ากับสภาพตลาด




รูปแบบการฟื้นตัวแบบ K-Shape ดังนี้


• K-Shape (ขาขึ้น) ได้แก่ ธุรกิจประเภทไอทีและเทเลคอม บริการซอฟ9Nแวร์ อิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน ยานยนต์และชิ้นส่วน ร้านค้าปลีกที่มีทั้งช่องทางตลาดออนไลน์และออฟไลน์ การบริการขนส่งสินค้าและการจัดการคลังสินค้า ธุรกิจการแพทย์ และอาหารสำเร็จรูป


• K-Shape (ขาลง) ได้แก่ ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร สปา ธุรกิจบันเทิงและสันทนาการ การขนส่งผู้โดยสาร ออฟฟิศให้เช่า ที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม



ด้วยรูปแบบการฟื้นตัวแบบ K-Shape พบว่าธุรกิจ K-Shape ขาขึ้นจะมีปัจจัยการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของประเทศและพฤติกรรมผู้บริโภคสนับสนุนให้ธุรกิจเหล่านี้ฟื้นและเติบโตได้ดีต่อเนื่อง ในขณะที่ธุรกิจใน K-Shape ขาลง ส่วนใหญ่จะอยู่ในธุรกิจบริการซึ่งยังคงได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 จำเป็นต้องช่วยกันประคับประคอง ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการและลูกจ้างให้อยู่รอดใน 1-2 ปีข้างหน้า และจำเป็นต้องได้แรงสนับสนุนช่วยเหลือจากภาครัฐช่วยธุรกิจให้ลุกขึ้น เพื่อจะฟื้นตัวหลังการระบาดบรรเทาต่อไป

อ่านต่อhttps://www.prachachat.net/finance/news-752327




 ·         อ้างอิงจากไทยรัฐ

งาน “Thailand Focus 2021” งานโรดโชว์ โชว์ศักยภาพความแข็งแกร่งของตลาดทุนไทยและนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุนสถาบันจากทั่วโลก ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯและรัฐบาลไทยร่วมเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com