• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 6 สิงหาคม 2564

    6 สิงหาคม 2564 | Gold News


เฟดหนุนลด QE กดดันโอกาส “ทอง” – ตลาดยังรอ Non-Farm Payrolls คืนนี้

เมื่อวานนี้ราคาทองคำปิดแดนลบ โดยได้รับแรงกดดันจากสมาชิกเฟดที่กล่าวถ้อยแถลงในเชิงคุมเข้มทางการเงินมากขึ้น (Hawkish) โดยอาจเห็นการดำเนินการที่เร็วกว่าคาด ซึ่งส่วนหนึ่งที่จะเป็นตัวประเมินสำคัญของเฟด ก็คือเรื่องของตลาดแรงงาน

·         ราคาทองคำตลาดโลกปิด -0.4ที่ 1,804.46 เหรียญ

·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิด -0.3% ที่ 1,808.90 เหรียญ

 

·         เมื่อคืนนี้ทองคำปรับตัวลดลงทำต่ำสุดหลุด 1,800 เหรียญ โดยลงมาบริเวณ 1,797 เหรียญอีกครั้งก่อนจะรีบาวน์ปิดเหนือ 1,800 เหรียญ เป็นผลมาจาก

 - ถ้อยแถลงเชิง Hawkish ของบรรดาสมาชิกเฟด โดยล่าสุด

นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในสมาชิกบอร์ดบริหารของเฟดก็ยังหนุนลดนโยบายแบบ Dovish ให้เร็วกว่าคาด!

เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความคืบหน้าด้านการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และตลาดแรงงานมีการฟื้นตัวได้เช่นกัน จึงอาจเป็นไปได้ที่เฟดควรเริ่มต้นถอนการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเร็วกว่าที่คาด


- กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ ทำการเทขายทองคำออก 0.36 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,027.61 ตัน ส่งผลให้เริ่มต้นเดือนส.ค.นี้ ขายแล้ว 3.85 ตัน

 



ขณะที่ภาพรวมปี 2021 กองทุนทองคำ SPDR ขายทองแล้ว 143.13 ตัน



-  ข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการ สะท้อนสัญญาณระยะยาวของกลุ่มผู้ขอสวัสดิการในเชิงบวก




 - ข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯลดลงไป 14,000 รายในสัปดาห์ก่อนสู่ระดับ 385,000 ราย




 - ข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ต่อเนื่องร่วงลงอีกราว 366,000 ราย สู่ระดับ 2.93 ราย เป็นครั้งแรกที่หลุดต่ำกว่า 3 ล้านรายตั้งแต่ 14 มี.ค. ปี 2020  

 

·         นักวิเคราะห์จาก TD Securities กล่าวว่า การซื้อขายทองคำในตลาดดูจะยังสัมพันธ์กับการอ่อนตัวของอัตราผลตอบแทนแท้จริง แต่ทองคำก็อาจผันผวนได้ในสภาวะขาลงได้จากข้อมูลจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯคืนนี้ ที่มีโอกาสขยายตัวได้มากถึง 870,000 ตำแหน่ง

·         นักวิเคราะห์จาก OANDA มองว่า บรรดาถ้อยแถลงของสมาชิกเฟดส่วนใหญ่ดูจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ในการหนุน Hawkish และหากข้อมูลในคืนนี้ออกมาแกร่งอย่างรวดเร็ว ก็ดูจะไม่ผลดีต่อราคาทองคำอย่างยิ่ง

·         แพลทินัมปิด -1.5% ที่ 1,010.08 เหรียญ

·         พลาเดียมปิด +0.2% ที่ 2,650.61 เหรียญ


·         บรรดาผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ปัญหาการขาดแคลนชิปที่ใช้ผลิตดูจะส่งผลต่อการผลิตรถยนต์เป็นเวลานาน จึงอาจมีผลต่ออุปสงค์พลาเดียมและแพลทินัมด้วย

 

·         นักวิเคราะห์จาก TD Securities ประเมินว่า ปัญหาด้านการผลิตรถยนต์อาจกินเวลานานกว่าที่คาดไว้ ดังนั้น จึงอาจสร้างความเสี่ยงขาลงของราคาแพลทินัมกับพลาเดียมได้


·        ราคาซิลเวอร์ปิด -0.6% ที่ 25.21 เหรียญ

 

·         นายนีล คาร์ชคาริ ประธานเฟดสาขามินนีแอโพลิส กล่าวว่า Delta Covid ที่กำลังระบาดในระดับสูงอาจส่งผลต่อการฟื้นตัวในตลาดแรงงาน โดยเฉพาะ “อาจเป็นอุปสรรคต่อแผนการลด QE”

 

·         โจ แมนชิน” ส.ว.สหรัฐฯ เรียกร้องเฟดเริ่มต้นลดการสนับสนุนเศรษฐกิจบางส่วน เพราะการดำเนินนโยบายผ่อนคลายของเฟด อาจเป็นปัจจัยที่หนุน “เงินเฟ้อ” ให้สูงขึ้น

 

·         บรรดาส.ว.สหรัฐฯ ยังคงดำเนินการเพื่อให้แล้วเสร็จกระบวนการร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐาน 1 ล้านล้านเหรียญ

โดยเมื่อวานนี้ทั้งสองฝ่ายยังคงพยายามร่วมกันในการร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐาน ท่ามกลางผู้นำเสียงข้างมากและข้างน้อยในสภาที่มีการเจรจารอบนอกเพื่อหาวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ไขร่างกฎหมายที่เหลือให้สมบูรณ์ เพื่อดำเนินการลงคะแนนเสียงในลำดับต่อไป


อย่างไรก็ดี แม้ทางวุฒิสภาจะมีกำหนดการพักร้อนในช่วงสัปดาห์หน้า แต่เชื่อว่าจะถูกเลื่อนออกไป 2-3 วันเพื่อให้ดำเนินการร่างกฎหมายฉบับนี้เสร็จสิ้นก่อน


ขณะที่หนึ่งในส.ว.สหรัฯฐ เผยว่า อาจเห็นวุฒิสภาเปิดโหวตแก้ไขร่างในช่วงค่ำวันนี้ และอาจเห็นกระบวนการของร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานเสร็จภายในคืนนี้

 

·         สำนักงบประมาณสหรัฐฯ (CBO) คาด แผนโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว อาจเพิ่มยอดขาดดุลกว่า 2.56 แสนล้านเหรียญ ในช่วง 10 ปีข้างหน้า

 

·         มุมมองนักวิเคราะห์ คาด แผนโครงสร้างพื้นฐาน 1 ล้านล้านเหรียญ อาจส่งผลให้เกิดการชะลอการลงทุนในหุ้นภาคเอกชน เนื่องจากอาจไม่สร้างโอกาสแห่งการลงทุนที่เพียงพอได้

 

·         ดอลลาร์ทรงตัวแม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี จะปรับขึ้นก่อนตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯคืนนี้ ที่คาดอาจเห็นจ้างงานก.ค. สูงแตะ 880,000 ตำแหน่งได้

ดัชนีดอลลาร์ปิด -0.03% ที่ระดับ 92.249 จุด

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี ปรับขึ้นมาเคลื่อนไหวแถว 1.215%

ยูโรทรงตัวที่ 1.1835 ดอลลาร์/ยูโร

 

·         อังกฤษคงนโยบายตามคาด แต่เตือนถึงการอาจเพิ่มขึ้นของ “เงินเฟ้อ”

ค่าเงินปอนด์ปิด +0.3ที่ 1.3931 ดอลลาร์/ปอนด์ หลังจากที่บีโออีคงนโยบาย QE และดอกเบี้ยระดับต่ำประวัติการณ์ 0.1%


แต่มีการส่งสัญญาณว่าอาจเริ่มต้นลดการซื้อพันธบัตร เมื่ออัตราดอกเบี้ยถูกปรับมาบริเวณ 0.5%


บีโออีคาดจีดีพีอังกฤษไตรมาสที่ 3 จะโตได้ 3% น้อยกว่าที่เคยประมาณการณ์ไว้ในเดือนพ.ค. อันเนื่องจากยอติดเชื้อ Covid-19 ที่กำลังเพิ่มขึ้น


นอกจากนี้ บีโออีมีการปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อ หลังจากที่ช่วง 2 เดือนมานี้เงินเฟ้ออังกฤษสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยคาดว่าจะเห็นการขึ้นของเงินเฟ้อที่เป็นเพียงชั่วคราว โดยอาจไปแตะ 4ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ สูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนพ.ค. ประมาณ 1.5%

 

·         ETHER ปิดพุ่ง 3% ที่ 2,810 เหรียญ รับข่าวการปรับปรุงเครือข่าย Ethereum Blockchain ในการเปลี่ยนแปลงทางเทคนิคเพื่อให้รองรับการดำเนินการด้านธุรกรรมทางการเงินได้

 

·         ค่าใช้จ่ายภาคครัวเรือนญี่ปุ่นดิ่งเกินคาด จากบริษัทต่างๆ ลดโบนัสพนักงาน

 

·         “อับราฮัม เรซี” ประธานาธิบดีอิหร่านคนใหม่เข้าพิธีสาบานตน ท่ามกลางแรงตึงเครียดและความท้าทายในการเจรจากับชาติตะวันตกเพื่อฟื้นฟูข้อตกลงนิวเคลียร์ ฉบับปี 2015 ขณะที่สถานการ์ณความไม่สงบในประเทศยังคงดำเนินไป

 

·         กลุ่มก่อการร้ายตาลีบัน พุ่งเป้าไปยังจังหวัดต่างๆของอัฟกานิสถาน ตอบโต้การโจมตีของสหรัฐฯ

  

·         COVID-19 UPDATES:


เมื่อวานนี้พบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มสูงขึ้น 674,883 ราย ส่งผลให้ยอดติดเชื้อสะสมทั่วโลกเพิ่มขึ้นที่ 201.61 ล้านราย และเสียชีวิตสะสมเพิ่มมาที่ 4.27 ล้านราย

 

ยอดติดเชื้อใหม่ในสหรัฐฯยังทะลุหลักแสน และทำให้มียอดติดเชื้อใหม่เป็นอันดับที่ 1 ของโลก ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันอยู่ที่ 107,771 ราย  ขณะที่ไทยยังครองอันดับ 11 ของโลกที่มียอดติดเชื้อใหม่มากที่สุด

 

ประเทศที่มีการเสียชีวิตสูงสุดอันดับที่ 1 ของโลกยังคงเป็นอินโดนีเซีย ขณะที่ไทยยังอยู่ที่อันดับ 15 ของโลกเช่นเดิม

 

·         ยอดติดเชื้อใหม่ในสหรัฐฯทำสูงสุดรอบ 6 เดือน นำโดยรัฐฟลอริดาที่ยอดติดเชื้อทะยานขึ้นต่อเนื่อง

 

·         "ดร.แอนโธนี ฟาวซี" ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดระดับสูงสหรัฐฯ เผย สหรัฐฯ กำลังวางแผนที่จะฉีดวัคซีนต่อต้านไวรัสโคโรนาเพิ่มให้กับชาวอเมริกันที่มีความเสี่ยงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

·         Moderna เผยวัคซีน Covid-19 ให้ประสิทธิภาพสูงกว่า 93% ในช่วง 6 เดือนหลังรับวัคซีนเข็มที่ 2

  

·         ไทยยังครองตำแหน่งพบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นมากที่สุดอันดับที่ 5 ของฝั่งเอเชีย ขณะที่ยอดเสียชีวิตในไทยรายวันอยู่อันดับที่ 8 ของภูมิภาค

 

·         รายงานล่าสุดเช้านี้ ยอด 'โควิดไทยวันนี้ ยิ่งหนัก! ทำ New High ทั้งเสียชีวิตและติดเชื้อใหม่

 

โดยพบเสียชีวิต 191 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 21,379 ราย  ตอกย้ำถึงสถานการณ์การระบาดของโควิดโดยรวมของประเทศไทยนั้นยังคงวิกฤติ และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมแล้วจนถึงวันนี้ 714,684 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสมสูงถึง 5,760 รายแล้วการฉีด


การฉีดวัคซีนในประเทศไทย



 

·         โควิดเสี่ยงทุบเศรษฐกิจไทย ฉุด 'เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 2 ปีกว่า - โอกาสเฟดลด QE หนุนดอลลาร์แข็ง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com