• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 4 สิงหาคม 2564

    4 สิงหาคม 2564 | Gold News



ทองร่วงจากนักลงทุนระมัดระวังการลงทุนก่อน “จ้างงานสหรัฐฯ” ศุกร์นี้

·         ราคาทองคำตลาดโลกปิด -0.2ที่ 1,809.79 เหรียญ

·         สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ปิด -0.4ที่ระดับ 1,814.10 เหรียญ

 

·         ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลงจาก

เทรดเดอร์ปรับลดสถานะก่อนข้อมูลจ้างงานรัฐบาลสหรัฐฯวันศุกร์นี้ ที่อาจมีผลต่อกรอบการลด QE ของเฟด

กองทุน SPDR เทขายทองคำออก 2 วันต่อเนื่อง รวม 3.49 ตัน

สมาชิกเฟด 2 รายในสัปดาห์นี้ส่งสัญญาณ Hawkish ได้แก่ ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ และหนึ่งในบอร์ดบริหารเฟด

- สมาชิกเฟดหลายราย แสดงความเชื่อมั่นว่า การฟื้นตัวของตลาดแรงงานใกล้สมบูรณ์แล้ว และอาจสะท้อนถึงความชัดเจนในการที่เฟดจะเริ่มต้นลดนโยบายสนับสนุนทางการเงินได้

- ยอดคำสั่งซื้อภาคโรงงานสหรัฐฯ เดือน มิ.ย. แกร่งกว่าคาดแตะ 1.5ขณะที่ยอดคำสั่งซื้อเทียบรายปีทะยานแตะ 18.4% จากอุปสงค์และค่าใช้จ่ายในภาคธุรกิจที่เพิ่มขึ้น ชี้ ภาคการผลิตมีความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืน ขณะที่ค่าใช้จ่ายบางส่วนในภาคบริการลดลง

คืบหน้าร่างโครงสร้างพื้นฐาน 1 ล้านล้านเหรียญของสหรัฐฯล่าช้า แต่ก็ยังเปิดญัติแก้ไขต่อ

วุฒิสภาสหรัฐฯมีความคืบหน้าเล็กน้อยต่อแผนดังกล่าว จากผู้นำพรรคเดโมแครตและรีพับลิ้กันที่ยังคงโต้แย้งกันเรื่องแนวทางการแก้ไขร่างดังกล่าว หลังแผนข้อตกลงระหว่างสองพรรคได้รับเสียงสนับสนุนในสัปดาห์ที่แล้ว

- หุ้นสหรัฐฯรีบาวน์กลับปิดบวก DOW JONES และ S&P500 ทำปิดสูงสุดประวัติการณ์


·         เมื่อวานนี้กองทุนทองคำ SPDR เทขายทองคำออก 1.74 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,027.97 ตัน รวม 2 วันทำการ SPDR มีขายออกแล้ว 3.49 ตัน

ขณะที่ภาพรวมปี 2021 กองทุนทองคำ SPDR ขายทองแล้ว 142.77 ตัน


·         Reuters Survey ชี้ กลุ่มนักลงทุนให้ความสำคัญและจับตาไปยังข้อมูลจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯคืนวันศุกร์นี้ ที่คาดว่าจะเห็นการจ้างงานเดือนก.ค. อาจขยายตัวได้ 880,000 ราย จากเดือนก่อนที่อยู่ที่ 850,000 ราย

 

·         นักวิเคราะห์ฝ่ายการตลาดอาวุโสจาก OANDA กล่าวว่า ตลาดดูจะหาความชัดเจนว่าเฟดจะลด QE หรือไม่จากข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯศุกร์นี้ ซึ่งอาจบ่งชี้โอกาสการดำเนินการดังกล่าวได้เร็วๆนี้หรือไม่

 

ภาพระยะสั้น “ทองคำยังเป็นขาขึ้น” แต่หากข้อมูลจ้างงานวันศุกร์ออกมาแข็งแกร่ง อาจกดดันให้ทองคำปรับตัวลดลงตามมา

 

·         บรรดานักวิเคราะห์จาก TD Securities ระบุว่า ทองคำไม่ได้ตอบรับกับอานิสงส์จากอัตราดอกเบี้ยแท้จริงที่อยู่ในระดับต่ำ และความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของ Delta COVID-19 ขณะที่โอกาสเห็นเฟดลด QE น่าจะเกิดขึ้นช่วงเดือนธ.ค.

 

·         ซิลเวอร์ปิด +0.3ที่ระดับ 25.52 เหรียญ

 

·         แพลทินัมปิด -0.7% ที่ 1,049.28 เหรียญ

 

·         พลาเดียมปิด -0.9% ที่ 2,652.38 เหรียญ

 

·         “นางมิเชล โบว์แมน” สมาชิกบอร์ดบริหารเฟดชี้ว่า ตลาดแรงงานจะต้องใช้เวลาฟื้นฟูจากผลกระทบของ Covid-19 ที่เกิดขึ้น เฟดจึงจำเป็นที่จะต้องสนับสนุนให้เศรษฐกิจสหรัฐฯกลับมาฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่

 

·         ดอลลาร์ทรงตัว – ตลาดเผชิญความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ – จับตาการเคลื่อนไหวของธนาคารกลาง

ดัชนีดอลลาร์ค่อนข้างทรงตัวแถว 92.046 จุด จากความไม่มั่นใจต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ และสถานการณ์ระบาดของ Delta Covid-19 ที่ดูจะสร้างความท้าทายให้แก่ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น

เยนแข็งค่าหลุด 109 เยน/ดอลลาร์ลงมา ก่อนรีบาวน์กลับมาที่ 109.1 เยน/ดอลลาร์


บรรดานักกลยุทธ์ ไม่คาดว่าจะเห็นดอลลาร์เคลื่อนไหวมากนักก่อนที่จะทราบข้อมูล Non-Farm Payrolls สหรัฐฯ และอาจไม่แกว่งตัวมาก จนกว่าจะทราบมุมมองถ้อยแถลงสมาชิกเฟดจนถึงสิ้นเดือนนี้ ขณะที่ช่วงปลายเดือนส.ค. มีกำหนดการประชุมธนาคารกลางประจำปีที่เมือง Jackson Hole รัฐไวโอมิง


ยูโรอ่อนค่าแตะ 1.1865 ดอลลาร์/ยูโร หลังทำแข็งค่ามากสุดรอบ 1 เดือนที่ 1.1909 ดอลลาร์/ยูโรเมื่อคืนวันศุกร์


ปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.2ที่ 1.3915 ดอลลาร์/ปอนด์  ตลาดรอประชุมบีโออี ที่อาจส่งสัญญาณ Hawkish ต่อการดำเนินนโยบายต่างๆ ท่ามกลางมุมมองเศรษฐกิจเชิงบวก

 

·         นักเศรษฐศาสตร์ เตือน แรงกดดันเงินเฟ้อ กำลังทดสอบความอดทนของบีโออีในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้  พร้อมคาดอาจเห็นบีโออีปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อ

อย่างไรก็ดี บรรดานักลงทุนไม่คิดว่าจะเห็นบีโออีดำเนินมาตรการเข้มงวดหรือเปลี่ยนมาเป็นHawkish

 

·         เจรจานิวเคลียร์อิหร่านชะงักงันหลังมีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก โดยยังมีอีกหลายประเด็นที่มีความซับซ้อนและยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นทางการในการเจรจา

 

·         COVID-19 UPDATES:

 



ติดเชื้อสะสมทั่วโลกทะยานแตะ 200 ล้านราย


วานนี้พบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มสูงกว่า 600,000 ราย ส่งผลให้ยอดติดเชื้อสะสมทั่วโลกแตะ 200.22 ล้านราย และเสียชีวิตสะสมเพิ่มมาที่ 4.25 ล้านราย

สหรัฐฯกลับมาอยู่อันดับที่ 1 ของการพบยอดติดเชื้อใหม่รายวันที่สูงทะลุ 104,000 รายวานนี้ ขณะที่ไทยครองอันดับ 11 ของโลกที่มียอดติดเชื้อใหม่มากที่สุด





ประเทศที่มีการเสียชีวิตสูงสุดอันดับที่ 1 ของโลก คือ อินโดนีเซีย ขณะที่ไทยรั้งอันดับ 16 ของโลก



เอเชียยังคงเป็นภูมิภาคที่มีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นมากที่สุดของโลก โดยยอดติดเชื้อใหม่สูงถึง 269,774 ราย

รองลงมาคือ North America ที่มียอดติดเชื้อใหม่รายวันเพิ่มแตะ 128,091 ราย และอันดับที่ 3 คือยุโรปที่มียอดติดเชื้อในภูมิภาครายวันสูงถึง 119,394 ราย

  

·         CDC สหรัฐฯ เผยบรรลุเป้าฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนในประเทศแล้ว 70%


·         KDCA เกาหลีใต้ ออกโรงเตือนพบการระบาดสายพันธุ์ Delta Plus Covid หลังพบผู้ติดเชื้อใหม่ 2 รายในประเทศ ท่ามกลางเกาหลีใต้ที่กำลังเผชิญ Fourth Wave

Delta Plus เป็นสายพันธุ์ย่อยของเชื้อสายพันธุ์ Delta ที่พบครั้งแรกในประเทศอินเดีย และมีการกลายพันธุ์ของผิวโปรตีนส่วนหนาม (spike protein) ที่เรียกว่า K417N ซึ่งพบได้ในสายพันธุ์ Beta ด้วยเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ดี การแพร่ระบาดยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ และพบเพียงบางประเทศเท่านั้น อาทิ อังกฤษ โปรตุเกส และอินเดีย

นักวิทยาศาสตร์บางคนกล่าวว่า Delta Plus อาจแพร่เชื้อได้มากกว่าเดิม โดยกำลังมีการศึกษาในอินเดียและทั่วโลกเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีนต่อเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ชนิดนี้ เพราะถึงแม้จะมีวัคซีนหลายตัวในปัจจุบันต้านการระบาดของสายพันธุ์ Delta ได้  แต่ก็มีความกังวลว่าสายพันธุ์ใหม่นี้อาจหลบเลี่ยงวัคซีนบางชนิดได้

 

·         สถานการณ์ในไทยน่าตระหนก ติดเชื้อใหม่ทะลุ 20,000 ราย เสียชีวิตสูง 188 ราย
ตรวจ
 ATK พบ 522 ราย




ติดเชื้อสะสมในไทย 672,385 ราย
เสียชีวิตสะสมรวม 
5,503 รายแล้ว


โดยไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นมากที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ของฝั่งเอเชีย




ขณะที่ยอดเสียชีวิตในไทยรายวันแตะอันดับที่ 8 ของภูมิภาค


 

อย่างไรก็ดี หากมีการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ 2 เดือน โดยประเทศไทยจะได้รับผลกระทบมากที่สุดในบรรดาประเทศสมาชิกอาเซียน


การแพร่ระบาดของสายพันธุ์ Delta ส่งผลให้การแพร่ระบาดมีแนวโน้มควบคุมได้ยากขึ้น และทำให้ระบบสาธารณสุขของไทยเผชิญข้อจำกัดมากขึ้น ขณะที่ปริมาณเตียงรองรับผู้ป่วยมีไม่เพียงพอ และปริมาณผู้ป่วยเกินขีดความสามารถที่ระบบสาธารณสุขจะรองรับได้ถึง 5 เท่า


ด้านสภาเภสัชกรรมฯ จี้รัฐมีนโยบายชัดเจน เร่งผลิต "ยาฟาวิพิราเวียร์" ในไทย

 

·         การฉีดวัคซีนในไทยสะสมที่ 18.19 ล้านโดส โดยผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มในไทยมีเพียง 3.9 ล้านราย แต่ฉีดเข็มแรกเพิ่อยู่ที่ 14.20 ล้านราย



 

·         บาทอ่อนค่ามากสุดรอบ 16 เดือนที่ระดับ 33.07 บาท/ดอลลาร์ จากติดเชื้อ-เสียชีวิตใหม่วันนี้ทำ New High นักลงทุนยังคงจับตาดูผลการประชุมกนง. คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50%

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com