• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 29 กรกฎาคม 2564

    29 กรกฎาคม 2564 | Gold News



ทองคำแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ หลังเฟดไม่ส่งสัญญาณลด QE


· ราคาทองคำพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่าสัปดาห์ หลังจากที่เฟดล้มเหลวหากรอบเวลา Tapering และกล่าวว่า "หนทางยาวไกล" ในการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย


· ราคาทองคำตลาดโลก เพิ่มขึ้น 0.5% ที่ระดับ 1,815.56 เหรียญ หลังปรับขึ้นไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมาในช่วงต้นที่บริเวณ 1,817.35 เหรียญ


· สัญญาทองคำปรับตัวสูงขึ้น 0.9% ที่ระดับ 1,815.30 เหรียญ


· เฟดยอมรับว่า แม้เศรษฐกิจมีความคืบหน้าไปยังเป้าหมายที่จะทำให้เฟดเริ่มปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE โดยการจ้างงานมีความแข็งแกร่งขึ้น แต่เฟดก็ยังคงต้องการเวลามากขึ้นในการประเมินความคืบหน้าดังกล่าวในการประชุมครั้งต่อๆไป


· พร้อมทั้ง เตือนว่า แนวโน้มเศรษฐกิจยังคงเผชิญความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ซึ่งเฟดจะใช้เครื่องมือทุกอย่างในการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเพื่อให้มีการจ้างงานเต็มศักยภาพ และรักษาเสถียรภาพของราคา


· ถ้อยแถลงนโยบายของเฟดส่งผลกระทบต่อดัชนีค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์เมื่อวานนี้


· ขณะศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) กล่าวเมื่อวันพุธว่า 66.6% ของมณฑลต่างๆ ของสหรัฐฯ มียอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาอยู่ในระดับสูงพอที่จะทำให้ต้องกลับมาใช้นโยบายใส่หน้ากากอนามัยในที่พักอาศัย และอาจรวมถึงการกลับมาใช้นโยบายต่างๆ


· ทองคำกับด่านทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย DMA ราย 200 วัน - ตลาดรอจีดีพีสหรัฐฯคืนนี้

- ทองคำวันนี้ขยับขึ้นได้ต่อเป็นวันที่ 3 อาจเห็นการปรับขึ้นได้อีก

- นโยบายเฟด Dovish กดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และดัชนีดอลลาร์ หนุนทองยืนเหนือ 1,800 เหรียญ

- ราคาทองคำมีแนวโน้มจะทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยสำคัญ DMA ราย 200 วัน ก่อนทราบข้อมูล GDP สหรัฐฯ Q2/2021

FXStreet กล่าวว่า หลังจากที่เฟดตัดสินใจเรื่องการดำเนินนโยบายการเงิน ราคาทองคำก็ปรับตัวขึ้นได้ต่อ และมีโอกาสทดสอบระดับ 1,821 เหรียญ ที่เป็นเส้นค่าเฉลี่ย DMA ราย 200 วัน

นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังรีบาวน์ตามตลาดหุ้นจีน จากการที่ธนาคารกลางจีน (PBoC) เข้าช่วยบรรเทากังวลจากภาวะตลาดหุ้นทรุดตัวหนักในช่วงต้นสัปดาห์ จึงช่วยฟื้นความเชื่อมั่นในสินทรัพย์เสี่ยง และ "กดดันดอลลาร์" ในภาวะขาลงมากขึ้น หลังจากที่เผชิญกับท่าทีผ่อนคลายทางการเงิน ที่ช่วยหนุนทองคำให้ปรับตัวสูงขึ้นด้วย


อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงหลักต่อการฟื้นตัวของทองคำอาจเกิดขึ้นจากข้อมูลประมาณการณ์จีดีพีไตรมาสที่ 2/2021 ของสหรัฐฯ โดยคาดว่าอาจเห็นการปรับขึ้นได้มากถึง 8.6% หลังจากที่ไตรมาสแรกขยายตัวได้ 6.4% ซึ่งอาจหนุน "ดอลลาร์" และสร้างความผันผวนต่อทิศทางขาขึ้นของทองคำ


มุมมองทางเทคนิค



นักวิเคราะห์จาก FXStreet มองภาพรายวันของทองคำดูจะสามารถทดสอบ DMA ราย 200 วันได้ ท่ามกลางปัจจัยต่างๆที่ดูจะสนับสนุนให้ราคาทองคำเป็นขาขึ้น และมีโอกาสกลับทดสอบเส้น DMA ราย 50 วันบริเวณ 1,830 เหรียญ

แนวรับของทองคำอยู่บริเวณเส้น DMA ราย 21 วัน ที่ระดับ 1,805 เหรียญ หากปิดต่ำกว่าก็มีโอกาสกลับทดสอบเส้น DMA ราย 100 วันที่ระดับ 1,800 เหรียญอีกครั้ง รวมทั้งอาจเห็นราคาลงทดสอบต่ำสุด 1,792 เหรียญได้ด้วย

ทั้งนี้ สัญญาณ RSI ก็ดูจะยืนได้เหนือค่ากลาง จึงมีโอกาสเห็นราคาปรับขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งในระยะสั้น


· นักวิเคราะห์จาก IG Market กล่าวว่า เฟดลดท่าทีการขึ้นดอกเบี้ยและการลด QE หนุนทองคำสูงสุดขึ้นระยะสั้น และแนวต้านสำคัญถัดไปของทองคำอาจอยู่ในกรอบ 1,830 - 1,840 เหรียญ

ขณะที่นายโพเวลล์ ประธานเฟด กล่าวถึง ตลาดแรงงานที่ยังฟื้นตัวได้บางช่วง และอาจต้องใช้เวลากว่าจะถอนการสนับสนุนทางการเงิน และการที่จะเห็นเฟดขึ้นดอกเบี้ยยังต้องใช้เวลาอีกนาน


· ซิลเวอร์เพิ่มขึ้น 0.9% ที่ระดับ 25.15 เหรียญ

· พลาเดียมเพิ่มขึ้น 0.6% ที่ระดับ 2,641.69 เหรียญ

· ขณะที่แพลทินัมเพิ่มขึ้น 0.8% ที่ 1,073.42 เหรียญ


· สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ ขยายอายุการเก็บรักษาวัคซีนไวรัสโคโรนาแบบโดสเดียวของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันเป็น 6 เดือนจากเดิม 4 เดือนครึ่ง


· "นายโจ ไบเดน" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกร้องให้ชาวสหรัฐฯทุกคนเข้ารับการฉีดวัคซีน Covid-19 หรือจะเลือกเผชิญกับมาตรการต่างๆ

ไม่ว่าจะเป็นการตรวจหาเชื้อ, มาตรการเว้นระยะทางสังคม, การใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หรือแม้แต่มาตรการจำกัดการเดินทาง

· เจ้าหน้าที่ทางการทูตระดับสูงของสหรัฐฯ เข้าพบผู้อำนวยการ WHO ให้สนับสนุนการศึกษาต้นตอ Covid-19


· ซิดนีย์ออสเตรเลียพบยอดติดเชื้อรายวันทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 239 รายใน 1 วัน ร้องขอกำลังทหารเข้าช่วยเหลือ


· สื่อจีน รายงานว่า สินทรัพย์ต่างๆในตลาดจีนยังมี "ความน่าสนใจ" แม้จะเผชิญกับการปรับฐานเมื่อไม่นานมานี้ และภาวะ Panic ที่เกิดระยะสั้นจะไม่ส่งผลต่อมูลค่าสินทรัพย์ในระยะยาว

"ท่ามกลางรัฐบาลที่กำลังสร้างความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นต่อกลุ่มนักลงทุน"


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com