• เงินบาทฟื้นตัวกลับมาแข็งค่าขึ้น จับตาปัจจัยสำคัญสัปดาห์นี้

    19 เมษายน 2564 | Economic News
  

นักบริหารการเงิน ประเมินว่า กรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทจะอยู่ระหว่างที่ 31.10-31.60 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทฟื้นตัวกลับมาแข็งค่าขึ้น ขณะที่หุ้นไทยขยับขึ้นเล็กน้อยปลายสัปดาห์ แต่ยังปิดต่ำกว่าสัปดาห์ก่อน จับตาปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า ได้แก่
- รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 1/64 ของบจ.ไทย โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร
- สถานการณ์
 Covid-19 ในประเทศ
ข้อมูลส่งออกของไทยเดือนมี.ค.

ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่
-  ยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค.
- ยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค.
- ดัชนี 
PMI ภาคการผลิตและการบริการ (เบื้องต้น) เดือนเม.ย.
- จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

ปัจจัยอื่นๆ:
ติดตามอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR ของจีน
ผลการประชุมนโยบายการเงินของอีซีบี 22 เม.ย.

 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่า เงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นช่วงปลายสัปดาห์ หลังแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 6 เดือนที่ 31.57 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงแรก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงของสถานการณ์การระบาดของ Covid-19 ในประเทศระลอกสาม ซึ่งยากต่อการควบคุมและอาจส่งผลกระทบต่อเส้นทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะที่เหลือของปี

อย่างไรก็ดี เงินบาทดีดตัวกลับมาแข็งค่าขึ้นท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ฯ ตามจังหวะการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ

 

ส่วนความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย หุ้นไทยถูกกดดันจากสถานการณ์โควิดในประเทศ

ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,548.96 จุด ลดลง 1.11% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 83,842.50 ล้านบาท ลดลง 5.76% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 2.45% มาปิดที่ 447.08 จุด

 

หุ้นไทยร่วงลงแรงช่วงต้นสัปดาห์ท่ามกลางแรงขายหุ้นทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะธนาคาร การเงิน และพลังงาน จากกลุ่มนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างชาติเป็นหลัก โดยมีปัจจัยลบจากสถานการณ์โควิดในประเทศที่ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการลดสถานะความเสี่ยงก่อนปิดหยุดยาวในระหว่างสัปดาห์

อย่างไรก็ดีหุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ตามแรงซื้อสุทธิของต่างชาติ ขณะที่นักลงทุนคลายกังวลบางส่วนหลังทางการยังไม่ได้คุมเข้มด้วยการประกาศล็อกดาวน์ทั้งประเทศ

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (19-23 เม.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,530 และ 1,510 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,560 และ 1,575 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลประกอบการงวดไตรมาส 1/64 ของบจ.ไทย โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร สถานการณ์โควิด 19 ในประเทศ รวมถึงประเด็นเกี่ยวกับวัคซีนต้านโควิด 19


อ้างอิงประชาชาติธุรกิจ

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com