• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 16 มีนาคม 2564

    16 มีนาคม 2564 | Gold News


ทองคำปรับขึ้นหลังอัตราผลตอบแทนอ่อนตัว - ตลาดสนใจประชุมเฟด

· ราคาทองคำวานนี้ปรับตัวสูงขึ้น นำโดยราคาทองคำตลาดโลกปิด +0.2% ที่ระดับ 1,729.94 เหรียญ

· สัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย. ปิด +0.5% ที่ 1,729.20 เหรียญ


· ภาพรวมตลาดได้รับแรงหนุนจาก

- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปี อ่อนตัวลง
- กลุ่มนักลงทุนรอคอยผลประชุมเฟด
- ดอลลาร์ยังทรงตัวต่ำกว่า 92 จุด


· ผู้อำนวยการฝ่ายการซื้อขายจาก High Ridge Futures กล่าวว่า การอ่อนตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรมีส่วนช่วยให้ทองคำรีบาวน์ และมีแรงช้อนซื้อเข้ามา ขณะที่ตลาดกำลังตั้งคำถามว่า การปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในเวลานี้ แท้จริงแล้วมาจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ จึงกดดันทองคำ หรืออาจมาจากการฟื้นตัวอาจประสบภาวะชะงักงัน หรือเป็นการสะท้อนการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ


· หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Blue Line Futures กล่าวว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นเป็นตัวฉุดรั้งให้ทองคำอ่อนตัวลง และหากยิ่งปรับขึ้นก็อาจยิ่งกดดันทองคำดระยะสั้นๆ


· นักลงทุนจับตาและให้ความสำคัญกับการประชุมเฟดที่จะเปิดฉากประชุมวันแรกในวันนี้ ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรและความกังวลเรื่องเงินเฟ้อกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ


· นักวิเคราะห์จาก TD Securities ระบุว่า ทองคำอาจทรงตัวได้จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร หากเฟดมีการดำเนินนโยบายที่เหมาะสมและมีการจำกัดการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่จะมีผลต่อเม็ดเงินการลงทุน


· กองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ขายทองคำออก 1.75 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,050.32 ตัน ซึ่งเป็นต่ำสุดตั้งแต่ปลายเดือนเม.ย. 2020



ภาพรวมขายต่อเนื่องมาแล้ว 9 วัน อยู่ที่ 36.8 ตัน ส่งผลให้ภาพรวมปัจจุบันเดือนมี.ค. ขายทองคำรวมสุทธิ 43.21 ตัน

ตั้งแต่ม.ค. - ปัจจุบัน ปี 2021 กองทุน SPDR ขายทองคำออกแล้วทั้งสิ้น สุทธิ 120.42 ตัน

อย่างไรก็ดี เดือนมี.ค. ปี 2021 กองทุน SPDR ยังมีแรงเทขายอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 โดยมีการขายออกตั้งแต่ต.ค. - ปัจจุบัน รวมทั้งสิ้น 218.57 ตัน


· ซิลเวอร์ปิด +1.1% ที่ 26.20 เหรียญ

· พลาเดียมปิด +0.4% ที่ 2,381.65 เหรียญ

· แพลทินัมปิด +0.3% ที่ 1,207.99 เหรียญ


· ประชุมเฟดสัปดาห์นี้ อาจกระทบต่อการเคลื่อนไหวของตลาดการเงินต่างๆได้

CNBC เผยมุมมองนักวิเคราะห์และนักลงทุนในตลาดส่วนใหญ่ให้น้ำหนักความสนใจไปยังการประชุมเฟด 16 – 17 มี.ค.นี้ และมองว่าการประชุมครั้งนี้อาจจะสร้างความปั่นป่วนให้แก่ตลาดได้ โดยภาพรวมคาดว่า ถ้อยแถลงประชุมส่วนใหญ่น่าจะยังคงเดิม


คณะกรรมาธิการเฟดจะเผยสรุปการประชุมช่วงประมาณตี 2 ในคืนวันพุธนี้หลังเสร็จสิ้นการประชุม ซึ่งคิดว่าถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงก็อาจจะเปลี่ยนแปลงได้เพียง “เล็กน้อย”

แต่ภาพรวมถ้อยแถลงสมาชิกเฟดส่วนใหญ่เมื่อไม่นานมานี้ จะเห็นได้ถึงมุมมองคาดการณ์เศรษฐกิจในเชิงบวก และการยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย สมาชิกเฟดหลายรายเชื่อว่าเฟดจะยังคงดอกเบี้ยในกรอบต่อไปจนถึงปี 2023 และมีสมาชิกเฟดบางส่วนเท่านั้นเพียง 2-3 คนที่มองว่าเฟดจะสามารถพร้อมขึ้นดอกเบี้ยได้ในปีหน้า


อัตราดอกเบี้ย กับ การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร

เฟดอาจพิจารณาถึงความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดพันธบัตรกว่า 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีที่มีผลต่ออัตราผลตอบแทนการจดจำนองและการกู้ต่างๆ โดยจะเห็นได้จากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี จาก 1.07% ไปทำสูงสุดที่ 1.64% ในวันศุกร์ที่แล้วซึ่งเป็นสูงสุดรอบ 1 ปี ก่อนที่เมื่อวานจะทรงตัวได้แถว 1.6%

ทั้งนี้ สมาชิกเฟดส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนเป็นผลสะท้อนเชิงบวกจากมุมมองทางเศรษฐกิจ ที่ได้รับอานิสงส์จากโครงการฉีดวัคซีนและการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ส่งผลให้เกิดเงินเฟ้อปรับขึ้นตามมา และทำให้บางฝ่ายกังวลว่าจะกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือไม่ ซึ่งประธานเฟดในการแถลงการณ์ที่ผ่านมาๆ จะเห็นว่ามองเป็นการปรับขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น

นักวิเคราะห์บางรายเชื่อว่า อาจเห็นเฟดตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยได้ แม้จะยังมีการเข้าซื้อพันธบัตรต่อไป และอาจต้องการเปลี่ยนมาซื้อผลตอบแทนระยะยาวแทนเพื่อลดอัตราผลตอบแทนให้ต่ำลง ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาคการเงินอื่นๆ

นักวิเคราะห์บางรายก็เชื่อว่า น่าจะมีสมาชิกเฟดเพียง 2-3 รายเท่านั้นที่คาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยได้ในปีหน้า แต่ไม่คิดว่าเฟดจะตัดสินใจตามนั้น และตลาดส่วนใหญ่ยังให้น้ำหนักไปยังการขึ้นดอกเบี้ยได้ประมาณ 1 ครั้งในปีหน้า และอีก 3 ครั้งในช่วงสิ้นปี 2023


· “นายสุนัค” และ “นางเยลเลน” รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอังกฤษ-สหรัฐฯหารือร่วมกันทางโทรศัพท์เกี่ยวกับการจัดการสิทธิพิเศษสำหรับการถอนเงินหรือ Special Drawing Rights (SDRs) รูปแบบใหม่


· สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ เรียกร้องให้นายไบเดน ยกเลิกการละเว้นค่าธรรมเนียมซื้อขาย เพื่อเป็นการช่วยเหลือบริษัทต่างๆจาก Covid-19


· สถิติสถานการณ์ไวรัสโคโรนาประจำวัน พบ 69 ประเทศทั่วโลกยังมีรายงานยอดติดเชื้อเพิ่มขึ้นเมื่อวานนี้


ยอดติดเชื้อใหม่ที่พบมากที่สุดในภูมิภาค พบว่ากว่า 25 รายงานจากทุกๆ 100 เคสใหม่ทั่วโลกมาจากทางเอเชียและตะวันออกกลางเป็นส่วนมาก

โดยกลุ่มภูมิภาคดังกล่าวมีรายงานการพบยอดติดเชื้อใหม่ทะลุ 1 ล้านในทุกๆ 12 วัน รวมกว่า 26.237 ล้านราย นับตั้งแต่ที่เกิดการเริ่มต้นระบาดจนถึงปัจจุบัน


ยอดติดเชื้อทั่วโลกล่าสุดเพิ่มขึ้นกว่า 327,555 ราย ส่งผลให้มียอดรวมติดเชื้อสะสมเวลานี้ 120.75 ล้านราย และยอดเสียชีวิตทั่วโลกรวมสูงกว่า 2.67 ล้านราย

สหรัฐฯ พบผู้ติิดเชื้อเพิ่มขึ้นรายวัน 43,925 ราย ทำให้มียอดติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 30.13 ล้านรายในขณะนี้ และเสียชีวิตสะสมในประเทศสูงถึง 547,991 ราย


3 อันดับที่มียอดติดเชื้อใหม่รายวันสูงสุดของโลก:

1. บราซิล พบยอดติดเชื้อใหม่รายวัน 66,289 ราย ยอดติดเชื้อสะสมรวม 11.52 ล้านราย

2. สหรัฐฯ พบยอดติดเชื้อใหม่รายวัน 53,992 ราย ยอดติดเชื้อสะสมรวม 30.13 ล้านราย

3. ฝรั่งเศส พบยอดติดเชื้อใหม่รายวัน 23,918 ราย ยอดติดเชื้อสะสมรวม 4.07 ล้านราย


สถานการณ์การระบาดในไทย

ศบค. รายงานพบติดโควิดรายใหม่ เพิ่มขึ้น 78 ราย รวมป่วยสะสม 27,005 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 87 ราย


- "ตลาดบางแค"ถือเป็นคลัสเตอร์ใหม่! สธ.พบติดโควิดแล้ว85คน

- กทม. รุกตรวจโควิด-19 ตลาดในเขตบางแค พบผู้ติดเชื้อแล้ว 224 ราย

- นครปฐม เปิดตัวเลขเบื้องต้นผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 10 ราย ส่วนใหญ่เกี่ยวพันกับพื้นที่ย่านบางแค กรุงเทพมหานคร ทำให้มียอดรวมสะสมพุ่ง 133 ราย

- "สถาบันวัคซีนแห่งชาติ" เผย ความก้าวหน้าในการผลิตวัคซีน "แอสตร้าเซนเนก้า" โดยบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ มีความก้าวหน้าเป็นไปตามแผนที่วางไว้ พร้อมทั้งอัพเดตข้อมูลประเด็นความปลอดภัยของวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า โดยให้ข้อมูลว่า ทั้ง "องค์การอนามัยโลก" และหน่วยงานกำกับคุณภาพยาของ "สหภาพยุโรป" (EU) มีข้อแนะนำให้แต่ละประเทศดำเนินการฉีดวัคซีนต่อไป ภายหลังจากคณะผู้เชี่ยวชาญได้ทำทบทวนข้อมูลด้านความปลอดภัยแล้ว ระบุว่าไม่พบความเกี่ยวข้องกับกรณีการเกิดลิ่มเลือดภายหลังการฉีดวัคซีนตามที่เป็นข่าว


· เมืองหลวงประเทศนอร์เวย์ ประกาศกลับมาใช้มาตรการเข้มงวดรับมือการระบาดปัจจุบัน


· Moderna กำลังทดสอบวัคซีน Covid-19 รอบใหม่ ที่เป็นไปได้ที่อาจเห็นการฉีดวัคซีนเพิ่มอีกหนึ่งโดส จากปัจจุบันที่ 2 โดส

Moderna Inc กล่าวถึงการเพิ่มจำนวนวัคซีน และความเป็นไปได้ที่อาจต้องฉีดวัคซีนเพิ่มอีกโดส รวมเป็นจำนวน 3 โดส หรือ 3 เข็ม

ขณะเดียวกัน การกักเก็บวัคซีนเพื่อการขนย้ายที่จะสะดวกสบายมากขึ้นจากการใช้อุณหภูมิระดับการเก็บด้วยตู้เย็น ทำให้การส่งต่อวัคซีนแก่ประเทศอื่นลำบากน้อยลง โดยเฉพาะประเทศ “กำลังพัฒนา” ทั้งนี้ การศึกษาวัคซีนขั้นต้น พบว่า วัคซีนมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ


· อัยการแห่งแคว้นเปียมอนด์ ทางตอนเหนือของอิตาลีสั่งยึดวัคซีน Covid-19 ของบริษัท AstraZeneca จำนวน 393,600 โดสหลังพบชายสูงวัยเสียชีวิตหลังได้รับการฉีดวัคซีนเพียงไม่กี่ชั่วโมง


· ประเทศไซปรัสระงับการใช้วัคซีนบริษัท AstraZeneca โดยจะรอการพิจารณาข้อมูลอีกครั้งขององค์กรด้านยาของอียู แต่ไซปรัสจะยังเดินหน้าฉีดวัคซีนของบริษัท Pfizer และ Moderna ให้แก่ประชาชนในประเทศต่อไป เนื่องจากยังไม่พบรายงานการใช้ยาแล้วให้ผลข้างเคียงเหมือนการใช้วัคซีนของบริษัท AstraZeneca


· เยอรมนี, อิตาลี, ฝรั่งเศส สั่งระงับใช้วัคซีน AstraZeneca เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัย และกลายมาเป็นอุปสรรคต่อโครงการฉีดวัคซีนของอียู


· ออสเตรเลียเดินหน้าฉีดวัคซีนของ AstraZeneca ต่อแม้ว่าจะมีการชะลอการใช้วัคซีนในแถบยุโรป


· กลุ่มเจ้าหน้าที่อียูจะทำการหารือเรื่องวัคซีนบริษัท AstraZeneca ในวันพฤหัสบดีนี้


· เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผย วัคซีนของ AstraZeneca อาจได้ใบอนุญาต Green Light ภายในเดือนเม.ย. หลังหน่วยงานอิสระเข้าตรวจสอเพื่อประเมินข้อมูลอย่างเป็นทางการ


· บราซิลลงนามข้อตกลงวัคซีนของ Pfizer จำนวน 100 ล้านโดส


· การฉีดวัคซีน Covid-19 ทั่วโลก พบจำนวนการฉีดมากขึ้นล่าสุด 125 ประเทศ และมีการฉีดวัคซีนแล้วไม่น้อยกว่า 359.26 ล้านโดส



· รายงานการฉีดวัคซีนจากสหรัฐฯ พบว่ามีการฉีดวัคซีนได้รวดเร็วขึ้น 2.4 ล้านคน/วัน โดยพบมีประชาชนสหรัฐฯได้รับวัคซีนคนละ 1 โดสประมาณ 21% สูงกว่าสัปดาห์ก่อนที่อยู่ที่ 18%


ขณะที่ผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 โดส มีเพิ่มขึ้น 11% จากสัปดาห์ก่อนที่อยู่ที่ 9% และภาพรวมยอดติดเชื้อใหม่ในสหรัฐฯลดลงมาต่อเนื่อง 9 สัปดาห์ โดยลดลงไปประมาณ 10% ต่ำกว่า 378,000 รายได้ต่อเนื่อง 7 วันทำการ ขณะที่อัตราการเสียชีวิตจาก Covid-19 ในสัปดาห์ที่แล้วลดลงมา 22% หรือลดต่ำกว่า 10,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพ.ย.


· CDC เผย สหรัฐฯสามารถฉีดวัคซีน Covid-19 ได้แล้ว 109.1 ล้านโดส และสามารถกระจายวัคซีนได้ทั่วประเทศกว่า 135.847 ล้านโดส

ทั้งนี้ มีประชาชนไม่น้อยกว่า 71.05 ล้านรายที่ได้รับวัคซีนแล้วไม่น้อยกว่า 1 โดส ขณะที่เมื่อวานนี้มีประชาชนในสหรัฐฯได้รับวัคซีนครบ 2 โดสเป็นจำนวน 38.33 ล้านโดส


· ผู้อำนวยการ CDC กล่าวเตือนว่า การเพิ่มขึ้นของยอดติดเชื้อ Covid-19 ในประเทศอื่นๆ อาจส่งผลกระทบให้สหรัฐฯต้องระงับการเดินทางของชาวสหรัฐฯเป็นการชั่วคราว


· ทำเนียบขาว แจง มีการติดต่อเพื่อเจรจากับทางเกาหลีเหนือแต่ยังไม่ได้รับการตอบรับใดๆ


· สื่อเกาหลีเหนือ รายงานว่า ทางการเกาหลีเหนือส่งสารเตือรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐฯ หากต้องการสันติภาพ ต้องหลีกเลี่ยงความไม่ซื่อ


· รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของทีมไบเดนเดนหน้าสานสัมพันธ์กับต่างชาติ เริ่มต้นเยือนญี่ปุ่นและเกาหลี

นายแอนโธนี บลินคินส์ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และนายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคง เดินทางถึงกรุงโตเกียวแล้ววานนี้โดยจะเป็นการเริ่มต้นเดินทางในช่วง 4 วันในการเยือนภูมิภาค ที่เริ่มต้นเยือนภูมิภาค มุ่งเน้นการหาพันธมิตรในแถบอินโด-แปซิฟิคในการเผชิญกับภัยรุกรานจากประเทศจีน


· อังกฤษพุ่งเป้าสร้างอิทธิพลในแถบอินโด-แปซิฟิก เพื่อคานอำนาจจีน เช่นเดียวกับสหรัฐฯ

ทั้งนี้ อังกฤษเองก็มีการตอกย้ำถึงความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับสหรัฐฯ และต้องการกดดันอิทธิพลจีน รวมทั้งการสนับสนุนการค้ากับต่างประเทศและการจัดการด้านการค้าเสรี

อย่างไรก็ดี จะเห็นได้ว่า อังกฤษมีการปรับทบทวนนโยบายด้านการต่างประเทศและความมั่นคงครั้งใหญ่หลังสิ้นสุดยุคสงครามเย็นในรอบกว่า 30 ปี


· กลุ่มนักเคลื่อนไหวชี้ตัวเลขเสียชีวิตของกลุ่มผู้ชุมนุมต้านรัฐประหารพม่าล่าสุดทะลุ 180 ราย ซึ่งเป็นการเสียชีวิตจากการสังหารโดยกองกำลังความมั่นคงในพม่าภายใต้รัฐบาลทหาร โดยล่าสุดยอดเสียชีวิตรวม 183 ราย โดยเมื่อวานนี้เสียชีวิตเพิ่ม 20 ราย ขณะที่วันอาทิตย์เรียกได้ว่าเป็นวันนองเลือดในพม่ามากที่สุด และมีผู้เสียชีวิตในวันดังกล่าวเพียงวันเดียวมากถึง 74 ราย


· สหรัฐฯ ประณามการใช้ความรุนแรงของกองทัพพม่าในการปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วง เป็นไปอย่าง “ผิดศีลธรรมและไม่อาจเป็นเรื่องที่ยอมได้”


· การเดินทางด้วยสายการบินพุ่ง ท่ามกลางโครงการฉีดวัคซีนที่เกิดขึ้น หนุนให้เกิดยอดจองการเดินทางช่วงวันหยุดมากขึ้น ประกอบกับหนุนตลาดหุ้นเพิ่มขึ้นตั้งแต่วานนี้


· นักบริหารเงิน ประเมินเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ ที่ 30.74 บาท/ดอลลาร์ ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน ประเมินกรอบเงินบาทระหว่างวัน 30.65-30.85 บาท/ดอลลาร์ และระบุเพิ่มเติมว่า ตลาดการเงินเคลื่อนไหวกรอบแคบ หลัง AstraZeneca ท่ามกลางความกังวลกับผลข้างเคียง สร้างความล่าช้าให้กับแคมเปญการฉีดวัคซีน และรอผลการประชุมเฟดก่อนเช่นเดียวกันคาดในวันนี้ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวไปกับสกุลเงินเพื่อนบ้าน


· นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เรียกประชุมด่วนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อหารือเป็นกรณีพิเศษ เกี่ยวกับการจัดทำคำวินิจฉัยกลางในคำร้องคดีแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติด้วยเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา

เบื้องต้น คาดว่าที่ปรุะชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญน่าจะนำคำวินิจฉัยส่วนตนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแต่ละคน โดยเฉพาะเสียงข้างมาก 8 เสียง มาวางแนวเขียนคำวินิจฉัยกลางออกมา และคาดว่าจะทำคำวินิจฉัยกลางออกมาให้เร็วที่สุดภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อนำไปเผยแพร่โดยเร่งด่วน โดยหากเป็นไปได้คาดว่าจะทำให้เสร็จก่อนการประชุมร่วมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ในวันที่ 17 มี.ค.นี้ ซึ่งรัฐสภาจะพิจารณาโหวตเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com