• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564

    8 กุมภาพันธ์ 2564 | Gold News


ทองคำขึ้น-ดอลลาร์อ่อนค่า ข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯออกมาอ่อนแอกว่าคาด

·         ราคาทองคำรีบาวน์กลับมาเหนือ 1,800 เหรียญที่เป็นระดับสำคัญทางจิตวิทยาในคืนวันศุกร์ ท่ามกลางดอลลาร์อ่อนค่าจากข้อมูลแรงงานสหรัฐฯที่ออกมาชะลอตัวลงมากกว่าคาดการณ์ ที่บ่งชี้ถึงความจำเป็นที่เศรษฐกิจสหรัฐฯจะต้องมีการอัดฉีดทางการเงินเพิ่มเติม


·         ราคาทองคำตลาดโลกปิด +1ที่ 1,810.26 เหรียญ หลังลงไปทำต่ำสุดตั้งแต่ 1 ธ.ค. เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว


·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย. ปิด +1.2ที่ระดับ 1,813 เหรียญ


·         สัปดาห์ที่แล้ว ทองคำปิดปรับลงไปกว่า 1.9% ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่มีการปรับตัวลดลงมากที่สุดตั้งแต่สัปดาห์ของวันที่ 8 ม.ค. โดยได้รับแรงกดดันหลักจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่ปรับขึ้น




·         กองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานทำการขายทองคำออก 3.33 ตัน โดยปัจจุบันถือครองที่ 1,156.51 ตัน  โดยตลอดเดือนก.พ. ภาพรวมขายออกแล้วสุทธิ 3.62 ตัน แต่หากรวมตั้งแต่ม.ค. ถึงปัจจุบัน กองทุน SPDR ขายออกรวมกัน 14.23 ตัน และเป็นการขายต่อเนื่อง 5 เดือนติด


·         นักวิเคราะห์จาก Standard Chartered กล่าวว่า ทองคำจะยังเคลื่อนไหวจากปัจจัยหลักได้แก่ดอลลาร์ โดยระยะสั้นๆ  เชื่อว่าแนวโน้มทองคำน่าจะไปตอบรับกับแนวโน้มการเกิดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการจะเกิดยอดขาดดุลเท่าตัว


·         นักวิเคราะห์อาวุโสจาก FXTM มองว่า กลุ่มนนักลงทุนให้ความสนใจกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และจับตาไปยังความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่อาจกดดันราคาทองคำระยะสั้นๆ


·         ซิลเวอร์ปิด +2.2ที่ 26.87 เหรียญ แต่ภาพรวมสัปดาห์ที่แล้วปิด -0.4 โดยภาพรวมซิลเวอร์ร่วงลงมาแล้วกว่า 10จากสูงสุดรอบ 8 ปีบริเวณ 30.03 เหรียญในวันจันทร์ที่แล้วจากภาวะ Silver Squeeze


·         ราคาพลาเดียมปิด +2.1% ที่ 2,330.04 เหรียญ ปิดสัปดาห์ดีที่สุดตั้งแต่ พ.ย. ปี 2020


·         ราคาแพลทินัมปิด +2.2% ที่ 1,121.58 เหรียญ ปิดสัปดาห์ดีที่สุดตั้งแต่ธ.ค. ปี 2020

·         จำนวนการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯออกมาแย่ลงกว่าที่คาด โดยมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 49,000 ตำแหน่ง

 

ขณะที่อัตราว่างงานออกมาดีขึ้น โดยลดลงมาที่ 6.3% จากเดิมในเดือนธ.ค. ที่ระดับ 6.7%

 

·         Ether พุ่งทำสูงสุดประวัติการณ์ ทะยานเหนือ 1,700 เหรียญ

Ether เป็น Cryptocurrency ยอดนิยมอันดับ 2 ของตลาด ทำ All-Time High ใหม่ต่อเนื่อง ปิดทะยานเหนือ 1,700 เหรียญเป็นครั้งแรกในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา

CoinDesk เผยราคา Ether คืนวันศุกร์ปรับขึ้นไปที่ +11.2% ที่ 1,743 เหรียญ

สำหรับ Ether ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ปรับขึ้นได้ 129% และสัปดาห์ที่ผ่านมาดูจะปรับขึ้นได้อย่างมั่นคง ท่ามกลางนักลงทุนรอการเปิดเทรด Ether Futures อย่างเป็นทางการในวันนี้ ณ ตลาด Chicago Mercantile Exchange (CME Group)

 

·         สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ตั้งเป้าผ่านร่างกฎหมาย Covid-19 ภายใน 2 สัปดาห์

นางแนนซี เพโลซี โฆษกสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า พรรคเดโมแครตจะเดินหน้าผลักดันงบประมาณช่วยเหลือต่อ หลังวุฒิสภาโหวตอนุมัติแก้ไขร่างงบประมาณโดยปราศจากความเห็นชอบของรีพับลิกัน ซึ่งเดโมแครตจะเริ่มกระบวนการทำงานเกี่ยวกับแผนดังกล่าวในวันนี้ แม้ว่าจะยังมีความกังวลจากสมาชิกภายในพรรคบางส่วนก็ตาม

วุฒิสภาสหรัฐฯผ่านร่างแก้ไขงบประมาณสหรัฐฯในวันศุกร์ ท่ามกลางเดโมแครตที่เดินหน้าผลักดันร่างงบประมาณ 1.9 ล้านล้านเหรียญ โดยปราศจากการโหวตผ่านมติเห็นชอบจากรีพับลิกัน โดยร่างงบประมาณดังกล่าวจะรวมงบ 1,400 เหรียญแก่คนว่างงานและงบสำหรับวัคซีน Covid-19 และงบทดสอบหาเชื้อ

ทั้งนี้ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯกล่าวเตือนว่าการพยายามผ่านร่างกฎหมายงบประมาณในวงเงินที่น้อยอาจส่งผลระยะยาวต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจได้

 

·         ไบเดน เผย ผู้มีค่าแรงขั้นต่ำ 15 เหรียญ จะไม่ได้รับการจ่ายเงินช่วยแพ็คเกจ Covid-19 แต่ให้คำมั่นจะทำร่างกฎหมายเฉพาะในการปรับขึ้นค่าแรงทีหลัง ขณะที่เดโมแครตในสภาคองเกรสดันวงเงินช่วย 1.9 ล้านล้านเหรียญโดยปราศจากความเห็นชอบของรีพับลิกัน

 

·         เยลเลน มองสหรัฐฯอาจกลับมาจ้างงานได้อย่างสมบูรณ์ในปีหน้า หากคองเกรสผ่านร่างกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 ล้านล้านเหรียญ

 

ทั้งนี้ เยลเลน ชี้ ผู้มีรายได้ 60,000 เหรียญ ก็สมควรได้รับเช็คกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้ร่างงบประมาณ 1.9 ล้านล้านเหรียญ

 

สำหรับสถานการณ์ในตลาดการเงินเวลานี้ นางเยลเลน มองว่ายังเร็วเกินไปที่จะทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินหน้าใช้นโยบายใหม่ หรือกฎข้อบังคับฉบับใหม่ ท่ามกลางความผันผวนในตลาดที่เกิดขึ้นไม่นานนี้

 

·         “นางคริสติน ลาการ์ด” ประธานอีซีบี ระบุว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนล่าช้าออกไป จนถึงกลางปี จากสภาวะ Lockdown จึงอาจทำให้เห็นถึงจีดีพีหดตัวตั้งแต่ไตรมาสที่ 4/2020 และหดดตัวต่อในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้  ขณะที่ภาคบริการหลายแห่งน่าจะยังคงปิดทำการอยู่

 

·         สถานการณ์ไวรัสโคโรนา

ภาพรวมยอดติดเชื้อทั่วโลกสะสมล่าสุด 106.67 ล้านราย โดยยอดติดเชื้อใหม่ทั่วโลกเมื่อวานนี้เพิ่มขึ้น 343,068 ราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตรวมสะสมอยู่ที่ระดับ 2.32 ล้านราย

สหรัฐฯมียอดติดเชื้อสะสม 27.60 ล้านราย โดยล่าสุดพบยอดติดเชื้อใหม่ 87,501 ราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตสะสม 474,933 ราย

สำหรับประเทศบราซิลพบยอดติดเชื้อสะสมแตะ 9.52 ล้านราย ทางด้านรัสเซียพุ่งเกืิอบแตะ 4 ล้านราย ตามมาด้วยอังกฤษที่มียอดติดเชื้อสะสมรวม 3.94 ล้านราย และล่าสุดฝรั่งเศสยอดติดเชื้อสะสมล่าสุดที่ 3.33 ล้านรายเป็นที่เรียบร้อย

 



สถานการณ์ในฝั่งเอเชีย

ญี่ปุ่นติดเชื้อสะสมทะลุ 4 แสนรายเป็นที่เรียบร้อย ล่าสุดยอดติดเชื้อสะสมที่ 403,435 ราย และมียอดเสียชีวิตรวม 6,338 ราย

จีนพบยอดติดเชื้อรายวันล่าสุดที่ 11 ราย ทำให้ยอดรวมสะสมที่ 89,692 ราย ขณะที่เกาหลีใต้ติดเชื้อสะสมทะลุ 80,896 รายเป็นที่เรียบร้อย

 

สถานการณ์ไวรัสโครนาในไทย

วันศุกร์ที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 586 ราย  ยอดผู้ป่วยสะสม 22,644 ราย  ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 79 ราย

วันเสาร์ พบยอดติดเชื้อเพิ่ม 490 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 479 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 11 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 23,134 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม

วันอาทิตย์ พบยอดติดเชื้อเพิ่ม  237 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 23,371 ราย  ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงเท่าเดิม 79 ราย

ทำให้ยอดรวมติดเชื้อสะสมช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมาเป็นจำนวน 1,313 ราย

 


·         Bloomberg รายงานสถานการณ์การฉีดวัคซีนทั่วโลกล่าสุดรวมกันได้ 131 ล้านโดส

สหรัฐฯฉีดวัคซีนแล้ว 42 ล้านโดส โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาเฉลี่ยมีการฉีดวัคซีนโดยเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 1.46 ล้านโดส

 

·         ฝรั่งเศสมีรายงานยอดติดเชื้อลดลงมากสุดครั้งใหม่ ภาพรวมพบยอดติดเชื้อลดลง 4 วันต่อเนื่อง

 

·         ออสเตรเลีย เผยรายงานไม่พบยอดติดเชื้อไวรัสใหม่ก่อนหน้าการกลับมาเปิดทำการทางเศรษฐกิจอีกครั้ง

 

·         ผลการศึกษาพบว่า การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ถูกพบในอังกฤษส่งผลให้ประชาชนในสหรัฐฯติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในทุกๆ 10 วัน

 

·         อังกฤษ กล่าวว่า การสนับสนุนทางการเงินเพิ่มเติมในด้าน Covid-19 ทำให้เกิดการฉีดวัคซีนในปีนี้ได้มากขึ้น

 

·         วัคซีนบริษัท AstraZeneca - Oxford พบผลทดสอบล่าสุดสามารถต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้ที่พบในอังกฤษได้

 

·         แอฟริกาใต้ระงับการฉีดวัคซีน AstraZeneca เป็นการชั่วคราว หลังพบข้อมูลการต้านสายพันธุ์ใหม่ในประเทศเป็นไปได้เพียงเล็กน้อย

 

·         เจ้าหน้าที่กำกับดูแลด้านผลิตภัณฑ์ยาของจีน ทำการอนุมัติใช้วัคซีน Covid-19 ของบริษัท Sinovac Biotech อย่างเป็นทางการ สำหรับเพื่อใช้ได้โดยทั่วไป

ถือเป็นหน่วยงานแห่งที่สองที่อนุมัติใช้วัคซีนในจีน หลังจากที่หน่วยงานในเครือกลุ่มบริษัทฟามาเซติคัลแห่งชาติของจีน (Sinopharm) ให้การอนุมัติใช้ในเดือนธ.ค.

ทั้งนี้ อินโดนีเซียตุรกีบราซิลชิลีโคลอมเบียอุรุกวัย และลาว มีการอนุมัติใช้วัคซีน CoroVac ฉุกเฉินของบริษัท Sinovac Life Sciences และการอนุมัติดังกล่าวมีขึ้นในช่วง 1 เดือนให้หลังจากทราบผลทดสอบขั้นสุดท้ายจากต่างประเทศ

 

·         ไบเดน เผย จะแข่งขันกับจีนอย่างดุเดือด แต่คนละแนวทางกับทรัมป์

นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เผยว่า ทีมบริหารของเขาพร้อมแข่งขันอย่างดุเดือดกับจีน  แต่ยังคงแนวทางคนละแบบกับนายทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยแนวทางของนายไบเดน จะมุ่งเน้นตามกฎข้อตกลงระหว่างประเทศเป็นสำคัญ และไม่ต้องการขัดแย้ง  ไบเดนยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เขาไม่ได้พูดคุยกับนายสี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีของจีน นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือนที่แล้ว

 

·         ผู้นำทูตของสหรัฐฯ และจีน หารือร่วมกัน ถึงปัญหาความตึงเครียดพม่ากับไต้หวัน หลังจากที่ไบเดน เข้ารับตำแหน่งเป็นครั้งแรก

นายแอนโทนี บลินเกน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหรัฐฯ เรียกร้องให้จีนร่วมประณามรัฐประหารของพม่า และเตือนจีนว่าสหรัฐฯจะร่วมมือกับประเทศพันธมิตรเพื่อให้จีนรับผิดชอบต่อการที่จีนพยายามจะคุกคามเสถียรภาพระหว่างประเทศโดยเฉพาะไต้หวัน

 

·         ทัพพม่าปิดระบบอินเทอร์เน็ตและการสื่อสาร ท่ามกลางกลุ่มผู้ประท้วงนับแสนต่อต้านรัฐประหาร

 

·         ยอดส่งออกจากอังกฤษสู่อียูปรับตัวลงกว่า 68นับตั้งแต่เกิดข้อตกลง Brexit

 

·         อิหร่าน ยัน จุดยืนข้อตกลงนิวเคลียร์ “สหรัฐฯต้องยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่านก่อน อิหร่านจึงจะกลับสู่ข้อตกลงนิวเคลียร์อีกครั้ง”


·         ไบเดน ชี้ สหรัฐฯต้องยุติการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ด้วยแร่ยูเรเนียมภายใต้ข้อตกลงก่อน


·         บรรดา Hedge Funds คาดจะเห็นการกลับมา “ครั้งยิ่งใหญ่” ของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน หลังการระบาดของไวรัสชะลอลง

 

·         JPMorgan ยังแนะนำการลงทุนในตลาดจีนระยะยาว เนื่องจากยังมีโอกาสที่น่าสนใจทั้งการลงทุนในตลาดหุ้นจีนนและสินทรัพย์คงทน

·         นักบริหารหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์นี้ ที่ 29.90-30.30 บาท/ดอลลาร์ฯ โดยในวันศุกร์ที่ (5 ก.พ.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 30.09 บาท/ดอลลาร์ฯ


 

ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ถ้อยแถลงของประธานเฟด และสถานการณ์การระบาดของโควิด-19

 

ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนม.ค. ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ. (เบื้องต้น) นอกจากนี้ตลาดอาจรอติดตามข้อมูลเดือนม.ค. ของจีน อาทิ ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิต ด้วยเช่นกัน

 

สำหรับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทขยับอ่อนค่าเล็กน้อย โดยเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ ขณะที่มติของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.50% มีผลต่อเงินบาทในกรอบจำกัด เนื่องจากเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าว THE STANDARD (5 ก.พ.64)

ก.ล.ต. สั่ง ‘Bitkub’ ระงับการเปิดรับลูกค้าใหม่ จี้แก้ไขระบบให้รองรับธุรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุมครั้งที่ 3/2564 เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 พิจารณาแล้วเห็นว่า บริษัทยังไม่สามารถแก้ไขระบบงานที่เป็นประเด็นปัญหาให้ระบบงานต่างๆ มีความเหมาะสม เพื่อให้สามารถประกอบธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน จึงมีมติอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 35 วรรคสอง แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 ให้บริษัทระงับการเปิดรับลูกค้าใหม่ รวมถึงลูกค้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการยืนยันหรือพิสูจน์ตัวตนเพื่อเปิดบัญชี จนกว่าบริษัทจะแสดงให้คณะกรรมการ ก.ล.ต. มั่นใจได้ว่าระบบงานต่างๆ และบุคลากรมีความเหมาะสมและเพียงพอตามลักษณะ ขนาด และปริมาณของธุรกิจ เพื่อให้สามารถประกอบธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังต่อไปนี้


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com