• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 28 ธันวาคม 2563

    28 ธันวาคม 2563 | Gold News

· นักวิเคราะห์จาก FXStreet แนะนำจับตาทองคำบริเวณ 1,900 เหรียญ หลัง “ทรัมป์” ส่งสัญญาณข่าวดีจากร่างมาตรการ Covid-19

ราคาทองคำเคลื่อนไหวอยู่แถว 1,888 – 1,890 เหรียญ หรือคิดเป็นปรับขึ้นประมาณ 0.45% ในการซื้อขายเช้าวันจันทร์นี้ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นจากระดับปิดสัปดาห์ที่แล้ว และมีการเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,880 – 1,891 เหรียญ ซึ่งช่วงต้นสัปดาห์ตอบรับกับข่าวการผ่านข้อตกลง Brexit

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทวิตเตอร์ข้อความที่ระบุถึงการผ่านร่างข้อตกลงกระตุ้นเศรษฐกิจ Covid-19 เป็น “ข่าวดี”

สำนักข่าว Washington Post ล่าสุด ระบุว่า สมาชิกสภาคองเกรสพร้อมที่จะทำข้อตกลงครั้งสุดท้ายในวันนี้เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ Shutdown

สำหรับข่าวเรื่องวัคซีน ล่าสุด CEO ของบริษัท AstraZeneca เผยว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพเพียงพอในการต่อสู้กับไวรัส Covid-19 สายพันธุ์ใหม่

ดัชนี S&P500 ฟิวเจอร์สวันนี้ เช้านี้เคลื่อนไหวแถว 3,700 จุด หรือปรับขึ้น 0.23%

นักวิเคราะห์จาก FXStreet มองว่า หากระยะสั้นทองคำหลุด 1,879 เหรียญจะเป็นขาลง แต่ภาพรวมยังคงเป็นขาขึ้นและมีโอกาสปรับขึ้นไปที่ 1,900 เหรียญ


· KITCO คาดว่า กลุ่มผู้ผลิตเหมืองทองจะฟื้นตัวได้ในปี 2021

ภาพรวม 20 ผู้ผลิตเมืองทองรายใหญ่ปีนี้มีผลผลิตปรับตัวลดลงไปราว 5% จากการระบาดของไวรัสโคโรนา ขณะที่ปี 2021 รายงานจาก Kitco คาดอาจรีบาวน์ขึ้นได้ต่อ โดยคาดอาจมีผลผลิตปรับขึ้นได้ราว 6% หรือสูงกว่านั้นเมื่อสถานการณ์หลัง Covid-19 เริ่มคลี่คลาย

ขณะที่ปัจจัยหนุน 3 ส่วนหลักที่นำมาเป็นเกณฑ์การวิเคราะห์ คือ

1. แนวโน้มการผลิตทองคำช่วงก่อน Covid-19
2. การปรับคาดการณ์แนวโน้มทองคำช่วงหลัง Covid-19

3. คาดการณ์ชี้นำจากรายงานปริมาณผู้ผลิตทองรายใหญ่ 20 อันดับแรก


· Silver ไม่มีแนวโน้มทะลุ 50 เหรียญในปี 2021 แต่ยังมีแนวโน้มสดใสกว่าทอง

ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ทางเลือกสำคัญสำหรับนักลงทุนเพื่อปกป้องพอร์ตจากเงินเฟ้อ ท่ามกลางการใช้นโยบายทางการเงินฉบับพิเศษ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆในปี 2021 แต่นักวิเคราะห์บางส่วนยังคาดว่าปี 2021 ซิลเวอร์ก็จะยังเป็นสินทรัพย์ที่สดใสอยู่และอาจปรับขึ้นได้มากกว่าทองคำอย่างในปีนี้

อย่างไรก็ดี ภาพรวมยังเชื่อว่าทองคำจะกลับทดสอบสูงสุดเดิมของปีนี้ได้ และยังเป็นแนวโน้มขาขึ้นเช่นเดียวกับซิลเวอร์ แต่การจะเห็นซิลเวอร์ปรับขึ้นไปแถว 50 เหรียญยังเป็นไปได้ยาก แต่อาจยืนได้เหนือ 30 เหรียญ


· นักวิเคราะห์จาก Kitco วิเคราะห์ซิลเวอร์ทางเทคนิคเป็นขาขึ้นต่อในระยะยาว

โดยจะมีแนวต้านสำคัญที่ 27.50 เหรียญ หากผ่านไปได้จะยิ่งยืนยันภาวะขาขึ้น ต่อ แต่ภาพรวมในปีหน้าจะมีลักษณะการเคลื่อนไหวแบบ Sideways ที่ค่อยๆปรับตัวสูงขึ้น

· ดัชนีดอลลาร์เช้านี้อ่อนคาลงมาที่ 90.256 จุด โดยปีนี้อ่อนค่าลงมาที่ 6.5% ท่ามกลางนายทรัมป์ที่ผลักดันข้อตกลงกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่เพื่อให้เกิดวงเงินเช็คกระตุ้นเศรษฐกิจสูงขึ้น

· นักวิเคราะห์บบางรายคาด ปอนด์จะเคลื่อนไหวกรอบ 1.35-1.37 ดอลลาร์/ปอนด์ ท่ามกลางข้อตกลง Brexit ฉบับใหม่


· ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายทรัมป์ เรียกร้องเช็ค Covid-19 กระตุ้นเศรษฐกิจ 2,000 เหรียญ และสมาชิกสภาคองเกรสพยามเร่งผลักดันก่อนจบปีนี้ ท่ามกลางนาทรัมป์ที่ไม่เห็นด้วยกับแพ็คเกจทางการเงินรวมกันกว่า 2.3 ล้านล้านเหรียญ ที่อาจส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกานับล้านราย ประกอบกับหน่วยงานรัฐต้องปิดตัวลงเนื่องจากขาดงบประมาณ

อย่างไรก็ดี บรรดานักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่เห็นพ้องกับมาตรการช่วยเหลือทางการเงินเพิ่มเติมที่อาจหนุนให้เศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวขึ้นได้ต่อจากวิกฤตไวรัสโคโรนาที่ส่งผลให้เกิดการ Lockdown ที่ดูเป็นความจำเป็นอย่างเร่งด่วน


· รายงาน CNBC ล่าสุด! นายทรัมป์ลงนามข้อตกลง Covid-19 และงบประมาณกองทุนภาครัฐหลังจากที่ไม่กี่วันก่อนเขาเพิ่งแสดงความไม่เห็นด้วย


· ยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาทั่วโลกทะลุแตะ 81.12 ล้านราย โดยเมื่อวานนี้มียอดติดเชื้อใหม่สูงกว่า 402,849 ราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตสะสมทั่วโลกขึ้นมาที่ 1.77 ล้านราย

ยอดติดเชื้อสหรัฐฯสะสมใกล้ 20 ล้านราย ล่าสุดแตะ 19.56 ล้านราย โดยข้อมูลวานนี้พบติดเชื้อใหม่เพิ่ม 124,827 ราย และยอดเสียชีวิตสะสมที่ 341,127 ราย


สถานการณ์ไวรัสโครนาในไทย- วันศุกร์ที่ผ่านมาพบติดเชื้อเพิ่ม 81 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 37 ราย และต่างประเทศ 9 ราย

- วันเสาร์ พบยอดติดเชื้อเพิ่ม 110 ราย เป็นการติดเชื้อภายในประเทศ 64 คน ติดเชื้อในแรงงานต่างด้าว 30 คน

- วันอาทิตย์ พบยอดติดเชื้อเพิ่ม 121 ราย รวมสะสมล่าสุด 6,141 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ 94 คน ติดเชื้อในแรงงานต่างด้าว 18 คน

ทำให้ยอดรวมติดเชื้อสะสมช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมาเป็นจำนวน 312 ราย


· ดร.ฟาวซี เตือน หลังคริสต์มาสจะพบยอดติดเชื้อ Covid-19 เพิ่มขึ้นอีก


· แอฟริกาใต้พบยอดติดเชื้อไวรัสสะสมทะลุ 1 ล้านราย


· ยอดเสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาในอังกฤษเพิ่มขึ้นมากสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 210 ราย ด้านยอดติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นกว่า 34,600 ราย


· เกาหลีใต้ขยายเวลามาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ท่ามกลางยอดติดเชื้อใหม่ที่ยังคงใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์


· แม้จะมีเทคโนโลยีระดับสูง แต่หลายๆประเทศในยุโรปยังคงคอยการรับวัคซีน Covid-19 โดสแรก


· อียูเริ่มใช้วัคซีน Covid-19 โดสแรกที่รอคอยมาอย่างยาวนาน

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คณะแพทย์, พยาบาล และผู้สูงอายุทั่วยุโรป จะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับวัคซีน Covid-19 โดสแรก ซึ่งเป็นความหวังว่าจะช่วยกู้วิกฤตด้านสุขภาพในรอบศตวรรษได้ ถึงแม้ว่าจะมี 2-3 ประเทศที่ได้รับโดสแรก แต่ก็คาดว่าจะใช้งานได้อย่างแพร่หลายทั้ง 27 ประเทศในยุโรป

จึงถือเป็นโอกาสดีของยุโรปในการจัดการกับไวรัส และเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจาก Lockdown


· อิตาลีเริ่มฉีดวัคซีนในกรุงโรม


· สงครามและความไม่มีเสถียรภาพของวัคซีน เป็นปัจจัยท้าทายประเทศยากจน


· ภาวะของการขนส่งที่เย็นจัดดูจะสร้างความไม่มั่นใจต่อการขนส่งเพื่อทำการฉีดวัคซีนในหลายๆเมืองของเยอรมนี และคาดว่าวัคซีนของ Pfizer อาจไม่สามารถจัดส่งด้วยอุณหภูมิที่เย็นเพียงพอได้


· วัคซีนของจีนพร้อมที่จะช่วยเหลือ ประเทศที่กำลังพัฒนา โดยต้องเผชิญกับความไว้วางใจจากประเทศอื่น

เนื่องจากกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว กำลังแย่งชิงวัควีนอยู่ในขณะนี้ โดยบางประเทศหวังพึ่งการพัฒนาวัคซีนของจีน ทั้งนี้ผู้ผลิตวัคซีนจีนได้ทำการทดลองในระยะสุดท้าย และเตรียมอนุมัติฉุกเฉินวัคซีน 1 ล้านโดส สำหรับเตรียมฉีดป้องกันภายในประเทศ

ทั้งนี้ กลุ่มประเทศพัฒนาได้เตรียมสำรองวัคซีนไว้ จำนวน 9 พันล้าน จาก 12 พันล้าน ซึ่งถูกผลิตโดยประเทศแถบตะวันตกภายในปีหน้า ขณะที่วัคซีน COVAX ซึ่งเป็นความพยายามระดับโลก และคาดว่าจะแจกจ่ายวัคซีนให้เข้าถึงทุกประเทศ กลับต้องล้มเหลวกับสัญญาที่ให้ไว้ ว่าจะผลิตจำนวน 2 พันส้านโดส ทั้งนี้จีนคือความหวังสุดท้ายของประเทศเหล่านั้น

โดยนาย สี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีจีน ได้ให้คำมั่นว่าวัคซีนของจีนจะเป็นประโยชน์ต่อโลก โดยจีนมีวัคซีนตัวเลือกด้วยกันทั้งหมด 6 วัคซีน ซึ่งอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการทดลอง และเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่สามารถผลิตวัคซีนได้ในปริมาณมาก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ของรัฐได้ประกาศว่า 1 พันล้านโดส จะสามารถใช้ได้ในปีหน้า

อย่างไรก็ดี การใช้วัคซีนของผู้คนนับล้านในหลายๆ ประเทศ ช่วยเพิ่มโอกาสให้จีนในการกู้ชื่อเสียงกลับมาในคำกล่าวอ้างจากหลายประเทศว่าเป็น แหล่งโรคระบาดโควิด และจีนต้องการแสดงให้โลกเห็นว่าเป็นผู้มีบทบาทสำคัญทางวิทยาศาสตร์ด้วย


· Mastercard รายงานว่า ยอดค้าปลีกสหรัฐฯช่วงวันหยุดเทศกาลเพิ่ม 3% ท่ามกลางยอดขายออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น


· นายกฯอังกฤษ เผยถึงการขายปลาให้แก่อียูภายใต้ข้อตกลงการค้า Brexit เพื่อช่วยให้เรือประมงของอียูสามารถเข้าถึงน่านน้ำที่อุดมสมบูรณ์ของอังกฤษได้อย่างมีนัยสำคัญ


· รายงานผลประกอบการภาคอุตสาหกรรมจีนโตขึ้นต่อเนื่อง 7 เดือนติดในเดือนพ.ย. ท่ามกลางยอดขาและการผลิตที่แข็งแกร่ง จึงช่วยให้เกิดการฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องจากภาวะ Covid-19 ที่ฉุดเศรษฐกิจขาลง


· นักลงทุนกังวลภาวะ Bad-Loans ของภาคธนาคารจีนที่เพิ่มขึ้น


· เศรษฐกิจเวียดนามปี 2020 ปรับตัวลดลงมากสุดรอบ 30 ปี จาก Covid-19 โดยปีนี้คาดขยายตัวได้เพียง 2.91% และมีแนวโน้มจะเห็นยอดเกินดุลการค้าเพิ่ม 1.906 หมื่นล้านเหรียญในปีนี้ จากค่าเฉลี่ยดัชนีราคาผู้บริโภคที่ปรับขึ้นแตะ 3.23%


· รายงาน CNBC ระบุว่า ตลาดหุ้นพร้อมปิดปรับขึ้นแข็งแกร่ง 2020 แม้อาจขึ้นต่อแม้ปีหน้า แต่อาจเป็นการปรับขึ้นอย่างช้าๆ

ซึ่งเดือนม.ค. ปี 2021 จะพบว่า มีความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯจะเผชิญกับความท้าทายในเรื่องการระบาดของไวรัสโคโรนาที่เป็นปัจจัยกดดันการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และการเลือกตั้งนัดสำคัญในรัฐจอร์เจีย

ภาพรวมสัปดาห์สุดท้ายก่อนจบปี จะพบว่าดัชนี S&P500 ปรับขึ้นได้แล้วประมาณ 15% แต่หากนับจากที่ดัชนี S&P500 ลงไปทำต่ำสุดเดือนมี.ค. จะพบว่าขึ้นได้แล้วราว 65% ทำให้ตลาดยังคงเป็นขาขึ้น

เฉลี่ยช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา พบว่าดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้นได้เป็นเท่าตัวกว่า 32.2% นับตั้งแต่หลังยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 และตลาดก็ยังเป็นขาขึ้นอยู่ แต่อัตราการขึ้นอาจค่อยๆปรับขึ้นต่อจากนี้


· นักบริหารการเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ไว้ที่ระหว่าง 29.65 - 30.45 บาท/ดอลลาร์ สำหรับปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก รายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนพ.ย. โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และทิศทางเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย

รวมไปถึงบทสรุปของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ต้องติดตาม ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค. ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนพ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เดือนธ.ค. ของจีนด้วยเช่นกัน


· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยบทความ "แก้ปัญหาค่าเงินบาทอย่างยั่งยืน ด้วยระบบนิเวศตลาดอัตราแลกเปลี่ยนใหม่" ผ่าน "พระสยาม Magazine" ว่า สถิติเงินบาทในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่า 85% ของการเปลี่ยนแปลงรายวันค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวไปตามทิศทางของสกุลเงินต่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับสกุลเงินอื่นในภูมิภาค แต่อย่างไรก็ดี ประเทศไทยยังคงมีปัญหาเชิงโครงสร้างที่สำคัญหลายประการที่เป็นปัจจัยเสริมให้เงินบาทแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจริง


- รมว.พลังงาน มั่นใจเศรษฐกิจไทยปี 64 โตกว่า 4% จากมีพัฒนาการวัคซีน Covid-19

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน กล่าวว่า มั่นใจเศรษฐกิจไทยในปี 64 ขยายตัวสูงกว่า 4% ตามที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 หากมีความคืบหน้าเร็วจะทำให้คนทั่วโลกสามารถกลับมาเดินทางท่องเที่ยวไปได้เหมือนเดิม


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com