• Research Morning News | รวมข่าววันหยุดคริสต์มาส 25 ธ.ค. 63

    25 ธันวาคม 2563 | Gold News

ทองคำปรับขึ้นจากดอลลาร์อ่อนค่า หลังทำข้อตกลงการค้า Brexit

· ราคาทองคำปรับขึ้นท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบางในช่วงวันหยุด โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ หลังจากที่ Brexit บรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างอียู-อังกฤษ และถึงแม้จะปรับขึ้นได้แต่เป็นการขึ้นอย่างจำกัดจากความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง


· ราคาทองคำตลาดโลกปรับขึ้น 0.3% ที่ระดับ 1,877.41 เหรียญ


· สัญญาทองคำส่งมอบเดือนก.พ. ปิดปรับขึ้น 5.1 เหรียญ ที่ระดับ 1,883.2 เหรียญ


· นักวิเคราะห์จาก Kitco กล่าวว่า ปัจจัยหนุนทองคำเวลานี้คือการอ่อนค่าของดอลลาร์ช่วง 2-3 วันนี้ หลังจากที่ปรับแข็งค่าขึ้นมาในช่วงต้นสัปดาห์ แต่การที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้นก็ดูจะกดดันทิศทางขาขึ้นของทองคำ ประกอบกับบรรดากองทุนต่างๆก็ลดการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย


· นักวิเคราะห์จาก UBS กล่าวว่า นักลงทุนค่อนข้างตอบรับมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับนโยบายการเงินและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลต่างๆทั่วโลก แม้ว่าวัคซีนอาจจัดการกับไวรัสได้


· ขณะเดียวกันความกังวลในตลาดก็ยังมีอยู่จากการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในประเทศอังกฤษที่น่าจะส่งผลให้อังกฤษยังต้องเข้มงวดและตอกย้ำถึงความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ


· กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,167.53 ตัน


· ราคาซิลเวอร์ปรับขึ้น 0.9% ที่ระดับ 25.77 เหรียญ


· ราคาแพลทินัมปรับขึ้น 0.7% ที่ระดับ 1,021.19 เหรียญ


· ราคาพลาเดียมปรับขึ้น 0.2% ที่ระดับ 2,328.64 เหรียญ


· สำหรับปริมาณการซื้อขายในตลาดค่อนข้างเบาบางก่อนวันหยุดคริสต์มาส


· อังกฤษ-อียู บรรลุข้อตกลงการค้า Post-Brexit ครั้งประวัติศาสตร์ก่อนกำหนดเส้นตาย 31 ธ.ค.

ทั้งนี้ ข้อตกลงการค้าดังกล่าวจะได้รับการอนุมัติจากอังกฤษ และรัฐสภาอียูในอีกไม่กี่วัน


· คืบหน้าข้อตกลงการค้าอาจหนุนให้ภาคส่วนการเงินรายใหญ่ในอังกฤษโตได้เล็กน้อย เพราะถึงแม้จะอนุมัติกฎด้านภาคอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ การประมง และสินค้าเกษตร ก็ยังไม่ครอบคลุมอย่างเป็นวงกว้างมากนัก และมีผลต่อทางภาคการเงิน


· ภาคประมงอังกฤษดูจะผิดหวังต่อข้อตกลง Brexit ที่ไม่สามรถเพิ่มการลดข้อจำกัดการเข้าถึงน่านน้ำอังกฤษได้มากขึ้น


· ค่าเงินปอนด์แข็งค่าในรอบเกือบ 2 ปีครึ่ง หลังอังกฤษ-อียู บรรลุข้อตกลงการค้า โดยปอนด์แข็งค่าเพิ่ม 0.5% ที่ 1.3557 ดอลลาร์/ปอนด์ ขณะที่ภาพรวมตั้งแต่ต้นเดือนนี้แตะ 1.3624 ดอลลาร์/ปอนด์ ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อนตั้งแต่ พ.ค. 2018


· ดอลลาร์อ่อนค่าจากข้อตกลง Brexit – ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่เพิ่มขึ้น จากความหวังที่ว่าอังกฤษจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะผันผวนทางเศรษฐกิจในช่วงสิ้นปีนี้

ดัชนีดอลลาร์ปรับลงมาแถว 90.25 จุด และภาพรวมปีนี้อ่อนค่าลงแล้วกว่า 6.5% ซึ่งเป็นระดับการอ่อนค่ารายปีที่มากทุ่สดตั้งแต่ปี 2017

ตลาดค่าเงินดูจะเมินกับคำวิจารณ์ของนายทรัมป์ในเรื่องที่ต้องการให้สภาคองเกรสเพิ่มวงเงินเช็คในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ดี พรรครีพับลิกัน และเดโมแครต แห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ไม่ผ่านมติเรื่องการเพิ่มวงเงินเช็ค ที่จะส่งผลให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและค่าใช้จ่ายภาครัฐเพิ่มสูงแตะ 2.3 ล้านล้านเหรียญ


· ส.ส.พรรครีพับลิกัน “ค้าน” เดโมแครต ผ่านเช็คกระตุ้นเศรษฐกิจ 2,000 เหรียญ เพื่อเป็นการจ่ายโดยตรงแก่ชาวสหรัฐฯ

ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯมีความพยายามที่จะผ่านร่างกฎหมายการจ่ายเช็ค 2,000 เหรียญให้ได้ก่อนคริสต์มาสอีฟ ท่ามกลางส.ส.เดโมแครตที่เห็นชอบเกือบเป็นเอกฉันท์ สะท้อนถึงจำนวนสมาชิกบางรายก็มีความไม่เห็นด้วย


· IMF เผย มูลค่าการสำรองดอลลาร์ปรับลงในไตรมาสที่ 3/2020 โดยลดลงแตะ 60% จาก 61.2% ในไตรมาสที่ 2/2020 แต่ภาพรวมดอลลาร์ก็ยังเป็นค่าเงินสกุลหลักที่ธนาคารกลางทั่วโลกนิยมถือครอง


· ยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาทั่วโลกสะสมเพิ่มมาที่ 79.69 ล้านราย โดยวานนี้ติดเชื้อใหม่รายวันมากถึง 642,767 ราย ขณะที่เสียชีวิตสะสมทั่วโลกอยู่ที่ 1.74 ล้านราย


ยอดติดเชื้อในสหรัฐฯทะลุ 19.09 ล้านราย ด้านยอดเสียชีวิตสะสมล่าสุดรวม 336,837 ราย

ยอดติดเชื้อในไทยเพิ่มขึ้น 67 ราย รวมสะสม 5,829 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ 58 คน ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 8 คน อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ และไม่อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 1 ราย

ขณะที่ประเทศพม่ายอดติดเชื้อยังสูงเกือบหลักพันต่อวัน


· อังกฤษเพิ่มมาตรการ Lockdown จากยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ภายในประเทศที่พุ่งสูงเกือบ 4,000 ราย ขณะที่สายพันธุ์ใหม่ดูจะเร่งอัตราติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่า 70%


· อิหร่าน กล่าวว่า สหรัฐฯมีการอนุมัติการโอนเงินสู่กองทุน เพื่อทำการเข้าซื้อวัคซีน Covid-19


· น้ำมันดิบปิดบวกจากข้อตกลง Brexit แต่ขึ้นได้จำกัดจากการระบาดของ Covid-19

ภาพรวมตลาดน้ำมันได้รับแรงหนุนจากช่วงปลายท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบางก่อนวันหยุดเทศกาล ขานรับข่าวข้อตกลงระหว่างอังกฤษ-อียู โดยน้ำมันดิบ WTI ปิด +11 เซนต์ ที่ 48.23 เหรียญ/บาร์เรล

น้ำมันดิบ Brent ปิด +9 เซนต์ มาที่ 51.29 เหรียญ

ทั้งนี้ ปริมาณการซื้อขายน้ำมันดิบค่อนข้างเบาบางตั้งแต่เช่วงก่อนเทศกาลคริสต์มาส

สำหรับสัปดาห์นี้ WTI ปรับลง 1.6% และ Brent ลดลง 2%


· ทรัมป์ “เตือน” อิหร่านหลังโจมตีด้วยขีปนาวุธใส่สถานทูตอิรัก โดยระบุว่าอิหร่านจะต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดที่ส่งผลต่อชาวสหรัฐฯในอิรัก โดยเมื่อวานนี้ถือเป็นวันครบรอบ 1 ปีแห่งการสังหารพลเอกสำคัญในการเป็นผู้บัญชาการกองกำลังทหารของอิหร่านจากการที่สหรัฐฯโจมตีทางอากาศ


· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับขึ้นปานกลางจากข้อตกลง Brexit – ความหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ


แม้ภาพรวมจะเป็นการปิดช่วงสั้นๆ จากการที่นักลงทุนจะเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลคริสต์มาส

ดัชนีดาวโจนส์ปิด +70.04 จุด หรือ +0.23% ที่ระดับ 30,199.87 จุด

ดัชนี S&P500 ปิด +0.35% ที่ระดับ 3,703.06 จุด

ดัชนี Nasdaq ปิด +0.26% ที่ระดับ 12,804.73 จุด

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 29.90 - 30.15 บาท/ดอลลาร์ โดยช่วงเย็นเงินบาทกลับขึ้นมาแข็งค่าจากเช้า หลังจากที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ไม่ประกาศล็อกดาวน์ รอบ 2 จากสถานการณ์โควิดระบาดในประเทศ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นกลับมา ประกอบกับเป็นช่วงใกล้วันหยุดยาวปลายปี การทำธุรกรรมจึงค่อนข้างเบาบาง


· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) วันนี้ ไม่มีการกำหนดมาตรการล็อกดาวน์ประเทศเหมือนกับที่เคยใช้ใน

การระบาดรอบแรก แต่ให้แบ่งพื้นที่ตามสถานการณ์ความรุนแรงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยแบ่งเป็น 4 พื้นที่ เพื่อกำหนด

มาตรการให้เหมาะสมตามแต่ละสถานการณ์ และมอบอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการตามกรอบที่ ศบค.กำหนด ได้แก่

1. พื้นที่ควบคุมสูงสุด หมายถึงพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก

2.พื้นที่ควบคุม หมายถึงพื้นที่ที่ติดกับพื้นที่ควบคุมสูงสุด

3. พื้นที่เฝ้าระวังสูง หมายถึง พื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อไม่เกิน 10 ราย

4. พื้นที่เฝ้าระวัง หมายถึงพื้นที่ที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อ และยังไม่มีสิ่งบอกเหตุว่าจะมีผู้ติดเชื้อ

- นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้า จะมีการพิจารณาให้แรงงานด่างด้าวผิดกฎหมายสามารถทำงานได้ต่อเพื่อให้แรงงานเหล่านี้ข้าสู่ระบบคัดกรองที่ถูกต้อง หลังจากพบว่าเป็นสาเหตุของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดรอบใหม่ในครั้งนี้

- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินว่า ในช่วงสิ้นเดือนธ.ค.63 และช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 ซึ่งประชาชนมีความต้องการใช้ธนบัตรในระดับสูงกว่าปกตินั้นแต่เมื่อพิจารณาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจรวมถึงผลจากสถานการณ์โควิด ซึ่งมีผลกระทบต่อการใช้จ่ายของประชาชนแล้วคาดว่าธนาคารพาณิชย์จะมีการเบิกจ่ายธนบัตรจาก ธปท.ในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนปีใหม่ 64 เป็นมูลค่าสุทธิประมาณ 120,000 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 5%


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com