MTS Help Center

- มีราคาการผลิตที่ถูกกว่า

- ราคาต่อโดสไม่แพง 2-3 เหรียญโดยประมาณ

- ใช้เพียงโดสเดียว โดยแบ่งใช้ทีละครึ่ง (เจ้าอื่นใช้ 2 โดส)

- ง่ายต่อการส่งมอบ-กระจายวัคซีน (โดยเฉพาะการส่งมอบให้ประเทศยากจน)

- อุณหภูมิขนส่งมาตรฐานเดียวกับตู้เก็บความเย็นทั่วไป

- เห็นผลเร็วกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ

- บริษัทสามารถผลิตวัคซีนได้ 200 ล้านโดสในช่วงสิ้นปีนี้

( ประมาณ 4 เท่า ของบริษัท Pfizer ของสหรัฐฯที่เป็นคู่แข่งคนสำคัญ)

- คาดจะผลิตได้ 700 ล้านโดส ที่อาจส่งมอบให้แก่ทั่วโลกได้เร็วที่สุดในช่วงสิ้นสุดไตรมาสแรกของปี 2021

การทดสอบขั้นสุดท้ายในอังกฤษ และบราซิลพบว่า ประสิทธิภาพวัคซีนมีมากถึง 90% ที่สามารถต้าน Covid-19 เมื่อแบ่งใช้ทีละครึ่งโดสภายในระยะเวลาหนึ่งเดือนเป็นอย่างน้อย

*** ยืนยันข้อมูลไม่พบปัญหาด้านความปลอดภัยใดๆ ***

ในการทดสอบพบว่า หากใช้วัคซีน 2 โดส ประสิทธิภาพที่ได้จะเกิดขึ้นเพียง 62% เมื่อเทียบกับการใช้ทีละครึ่งโดสแรก

กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ยังมีท่ามีระมัดระวังและต้องการหลักฐานประกอบเพิ่มเติม เนื่องจากภาพรวมประสิทธิภาพยังน้อยกว่าบริษัทคู่แข่งอย่าง Pfizer และ Moderna ที่ต้าน Covid19 ได้มากถึง 95% ในการทดสอบขั้นสุดท้าย

บรรดานักกลยุทธ์จาก Deutsche Bank ระบุว่า ข่าวจาก AstraZeneca ถือเป็น “ข่าวดีครั้งใหญ่” ที่เป็นขวัญกำลังใจในการพัฒนาวัคซีน และถือเป็นชัยชนะเกินความคาดหมายสำหรับวงการวิทยาศาสตร์

นอกจากนี้ จะทำให้บรรดาตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะบราซิล, เม็กซิโก, อินเดีย และอินโดนิเซีย มีแนวโน้มจะได้รับอานิสงส์สูงสุดจากวัคซีนบริษัทดังกล่าว เนื่องจาก “มีราคาถูกด้านการผลิต” และ “จัดส่งง่าย” จึงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง

ที่มา: CNBC