นาย Ed Yardeni ประธานฝ่ายการวิจัยจาก Yardeni Research กล่าวกับสำนักข่าว CNBC โดยระบุว่า ณ เวลานี้ อาจเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับนักลงทุน โดยระยะยาวตลาดเป็นขาขึ้น และเชื่อว่าความเจ็บปวดของตลาดจากแรงเทขายที่เกิดขึ้นกำลังจะหมดไป
และเขาไม่คิดว่าจเกิดการปรับฐานอย่างมาก เพราะหากเป็นอย่างนั้นจะส่งผลให้ตลาดปรับตัวลดลงกว่า 10-15%
ภาวะ Sell-Off ที่เกิดขึ้นในตลาดมาตลอดช่วง 2- 3 สัปดาห์ ดูจะเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ที่มีแรงเทขายเริ่มเข้ามาตั้งแต่ 3 ก.ย. หลังจากวันก่อนที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ก็มีการทำ All-Time Highs ซึ่งจะเห็นได้ว่าในระดับราคาปิดวันศุกร์ ดัชนี S&P500 ปรับลงกว่า 9% จาก All-Time Highs ที่กล่าวถึงในข้างต้น ขณะที่ Nasdaq ปรับลงมาแล้วกว่า 9.5%
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญมากต่อการเคลื่อนไหวของตลาดที่ผ่านมา
และถึงแม้ภาพรวมตลาดจะมีปัจจัยที่น่าเป็นกังวลอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็น
- หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
- ความกังวลเรื่องการระบาดของไวรัสโคโรนา
- การไม่ได้รับวัคซีน
- ความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
แต่ทั้งหมดนี้อาจถูกขจัดไปได้จาก “ความไม่แน่นอน” ทั้งหมด
เพราะผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯจะนำมาซึ่งความชัดเจนในอีกไม่กี่วันจากนี้ ซึ่งจะช่วยให้หุ้นสหรัฐฯปิดปีในทิศทางขาขึ้น โดยคาดว่า
ดัชนี S&P500 จะมีเป้าหมายที่ 3,500 จุด หรือต่ำกว่า All-Time High ที่เคยทำไว้ในวันที่ 2 ก.ย. ประมาณ 2.5%
ในช่วงกลางปีหน้า คาดการณ์ว่า
ดัชนี S&P500 มีโอกาสแตะ 3,800 จุด หรือ คิดเป็น +16% จากระดับปัจจุบัน
โดยจะได้รับปัจจัยสนับสนุนจาก
- สภาวะแวดล้อมหลังทราบผลเลือกตั้ง
- การดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน
- การเติบโตทางเศรษฐกิจ
- วัคซีน Covid-19
อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวทางเศรษฐฺกิจที่ “แข็งแกร่งเพียงพอ” ก็จะเป็นอีกปัจจัยที่หนุนให้ดัชนี S&P500 มีโอกาสขึ้นทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2021
ที่มา: CNBC