MTS Help Center

· หุ้นเอเชียปรับลดลง ท่ามกลางการการระบาดไวรัสโคโรนาในเอเชียทำให้เกิดแรงเทขายหุ้นทั่วโลก ขณะที่ดัชนีฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯพุ่งขึ้น

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง แต่ไม่มีแรงเทขายที่น่าตกใจในหุ้นยุโรปและสหรัฐฯ ขณะที่ดัชนีฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเหล่านักลงทุนพยายามรับมือกับความกังวลเกี่ยวกับมาตรการ lockdowns ครั้งใหม่ที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 0.6% ด้านหุ้นออสเตรเลียร่วงลง 1.6% และหุ้นเกาหลีใต้ร่วงลง 1%

· หุ้นญี่ปุ่นปรับลดลง กังวลไวรัสโคโรนา ขณะที่ผลประกอบการที่ดีขึ้นจำกัดการขาดทุน

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงทำระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน โดนถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับมาตรการ lockdowns ครั้งใหม่ในยุโรป แม้ว่าคาดการณ์ผลประกอบการบริษัทที่ได้กำไรจะช่วยจำกัดการขาดทุนก็ตาม

ฝรั่งเศสและเยอรมนีซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดสองแห่งของยุโรปถูกบังคับให้กลับเข้าสู่การ lockdowns เพื่อควบคุมการระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาระลอกที่สอง

เหล่านักลงทุนบางส่วนยังลังเลที่จะซื้อหุ้นเนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯวันที่ 3 พ.ย.ที่จะถึงนี้

ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ปิด -0.37% ที่ระดับ 23,331.94 จุด แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา ด้านดัชนี Topix -0.01% ที่ระดับ 1,610.93 จุด

· หุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้น จากหุ้นกลุ่มผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นจากผลประกอบการที่ออกมาสดใส

ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลง ก่อนจะปิดปรับตัวสูงขึ้นได้ในวันนี้ ท่ามกลางแรงเทขายตลาดหุ้นทั่วโลก แต่ได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มผู้บริโภคหลังจากบริษัทชั้นนำมีผลประกอบการไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่ง

ทั้งนี้ ดัชนี blue-chip CSI300 ปิด +0.8% ที่ระดับ 4,772.92 จุด ด้านดัชนี Shanghai Composite ปิด +0.1% ที่ระดับ 3,272.73 จุด

· หุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น หลังเผชิญแรงเทขายเมื่อวานนี้ ขณะที่ตลาดจับตาการประชุมอีซีบี

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเหล่านักลงทุนให้ความสนใจไปยังมาตรการ Lockdown ครั้งใหม่ในฝรั่งเศสและยุโรป รวมทั้งตลาดรอคอยการประชุมอีซีบีในคืนนี้

ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 เพิ่มข้น 0.5% ด้านหุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซพุ่งขึ้น 1.8% หลังจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเชลล์ ท่ามกลางการเคลื่อนไหวของหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

-ปิดเช้าลบ 3.11 จุด ตามตปท.กังวลล็อกดาวน์โควิด-รอผลเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐ

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,204.83 จุด ลดลง 3.11 จุด (-0.26%) มูลค่าการซื้อขายราว 26,817.12 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยทำระดับสูงสุดที่ 1,205.41 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,195.99 จุด

-ติดตามการชุมนุมทางการเมืองในประเทศ ซึ่งวันนี้กลุ่มราษฎร นัดชุมนุมและทำกิจกรรมกัน 2 จุดในช่วงเย็นวันนี้ จุดแรกที่บริเวณถนนสีลม ส่วนจุดสองที่บริเวณสกายวอล์คหน้าศูนย์การค้า MBK

-ม.หอการค้าไทยเผยผลสำรวจนักธุรกิจหวั่นชุมนุมยืดเยื้อ กระทบรายได้ ฉุดเศรษฐกิจ การฟื้นตัวลากยาวไปไตรมาส 3 ปีหน้า "กลินท์"แนะสันติยุติขัดแย้งการเมือง นายกฯลั่นต้องพาประเทศพ้นวิกฤติ ขอให้เชื่อมั่นเลือกทางออกดีที่สุดครม.หนุนตั้งกรรมการสมานฉันท์เปิดทุกฝ่ายเข้าร่วม

-สศอ.ชี้แนวโน้มภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น การเมืองไม่กระทบภาพรวมเศรษฐกิจ ต่างชาติเชื่อมั่นรัฐบาลควบคุม สถานการณ์ได้ 'เทสล่า' สนใจลงทุนเตรียมประชุมทางไกลเร็วๆ นี้

-ครม.อนุมัติขยายเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 1 เดือน ถึงสิ้นเดือน พ.ย. 63 เพื่อควบคุมโควิด-19 พร้อม เห็นชอบประกาศ มท. ไฟเขียว 'เรือยอชต์-เรือสำราญ' เข้าไทย กระตุ้นท่องเที่ยว