• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 28 ตุลาคม 2563

    28 ตุลาคม 2563 | SET News

· ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สปรับตัวลดลงประมาณ 300 จุด ตามการร่วงลงของตลาดหุ้นหลัก ท่ามกลางไวรัสโคโรนาพุ่ง - จับตารายงานผลประกอบการ

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สในวันนี้ปรับตัวลดลงไป 290 จุด ฉุดดัชนี S&P500 และ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์สเคลื่อนไหวตามในแดนลบ

· หุ้นเอเชียและดัชนีฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯปรับลดลง ท่ามกลางความกังวลไวรัสโคโรนาและเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ

ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่เพิ่มสูงขึ้นในสหรัฐฯและยุโรป ขณะที่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในสัปดาห์หน้าได้เพิ่มภาวะ risk off

ขณะที่สหรัฐฯ รัสเซีย ฝรั่งเศสและประเทศอื่น ๆ ได้ลงทะเบียนจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาและรัฐบาลในยุโรปได้เปิดตัวมาตรการใหม่ในการคุมเข้มการระบาดของไวรัสดังกล่าว

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 0.1%


· หุ้นญี่ปุ่นปิดลง จากกังวลไวรัส ท่ามกลางนักลงทุนระมัดระวังการลงทุนก่อนหน้าการเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงติดต่อกัน 3 วันทำการ โดยถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับยอดผู้ติดเชื้อจากไวรัสโคโรนาที่เพิ่มสูงขึ้นในยุโรปและสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อมุมมองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

นักวิเคราะห์ ระบุว่า การซื้อขายยังเบาบางเนื่องจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯที่กำลังจะมาถึงทำให้นักลงทุนจำนวนมากชะลอการลงทุน

ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ปิด -0.29% ที่ระดับ 23,418.51 จุด ด้านดัชนี Topix -0.31% ที่ระดับ 1,612.55 จุด


· หุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้น จากหุ้นผู้บริโภคและหุ้นสุขภาพ

ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากหุ้นกลุ่มผู้บริโภคและด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น ท่ามกลาวงความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

โดยดัชนี Shanghai Composite ปิด +0.46% ที่ะรดับ 3,269.24 จุด ด้านดัชนี blue-chip CSI300 +0.81% โดยหุ้นกลุ่มผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 2.24% และหุ้นด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น 1.13%


· ผลประกอบการบริษัท Sony ไตรมาส 2/2020 ปรับขึ้นกว่า 13.9% ท่ามกลางอุปสงค์เกมส์ที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง


· หุ้นยุโรปปรับลดลง จากความกังวลไวรัสโคโรนา, การเลือกตั้งปธน.และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯส่งผลให้เกิดภาวะ risk-off

โดยดัชนี Stoxx600 ร่วงลง 1.4% ด้านหุ้นกลุ่มยานยนต์ร่วงลง 2.7% ท่ามกลางตลาดหุ้นภูมิภาคที่เคลื่อนไหวในแดนลบ


· “จิม เครเมอร์” ชี้ หุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่มีสัญญาณขายเพิ่มมากขึ้น

เจ้าหน้าที่จาก CNBC คาดว่า หุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ดูจะมีโอกาสอันดีในการเข้าซื้อเร็วๆนี้ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่รอซื้อ ไม่ว่าจะเป็นหุ้นบริษัท FAANG และ Microsoft ที่เป็นส่วนหนึ่งของหุ้นบริษัทที่มีมูลค่าค่อนข้างสูงในกลุ่มดัชนี S&P500ที่นักลงทุนน่าจะเตรียมพร้อมที่จะลงทุนให้หุ้นกลุ่มพวกนี้


· ผลประกอบการ Deutsche Bank ดีกว่าคาด แต่ภาพรวมดูจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตไวรัสโคโรนาอยู่ โดยผลกำไรสุทธิอยู่ที่ 182 ล้านยูโร (214 ล้านเหรียญ)


· ครม.เคาะต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 1 เดือน ถึงสิ้นสุด 30 พ.ย. คุมสถานการณ์ Covid-19

นางสาสไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมเป็นประธานวันนี้ (28 ต.ค.) มีมติ ขยายระยะเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ออกไปอีก 1 เดือน จากเดิมที่จะสิ้นสุด 31 ต.ค. ไปเป็นสิ้นสุดวันที่ 30 พ.ย.2563


· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดเช้าบวก 8.00 จุด รับแรงซื้อกลับกลุ่มแบงก์หลังชุมนุมการเมืองยังเงียบ

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,216.95 จุด เพิ่มขึ้น 8.00 จุด (+0.66%) มูลค่าการซื้อขายราว 26,855.38 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยทำระดับสูงสุดที่ 1,217.88 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,205.88 จุด

- สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ก.ย.63 อยู่ที่ระดับ 94.71 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน -2.75% แต่เพิ่มขึ้น 3.25% จากเดือนส.ค.63 โดยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิต อยู่ที่ 63.07% เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 เช่นกันสะท้อนให้เห็นว่าภาคอุตสาหกรรมได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับระดับในช่วงก่อนเกิดสถานการณ์ไวรัสโควิด-19

โดยอุตสาหกรรมหลักที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมอุปโภคบริโภคเป็นหลัก เช่น อุตสาหกรรมอาหาร (ไม่รวมน้ำตาล) อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์

ส่วนดัชนี MPI ช่วงไตรมาส 3/63 อยู่ที่ระดับ 91.22 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน -8.30% แต่เพิ่มขึ้น 13.73% จากไตรมาส 2/63 โดยอัตราการใช้กำลังการผลิต อยู่ที่ 60.50%


· อ้างอิงจากสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ

- ครม.เคาะต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 1 เดือน ถึงสิ้นสุด 30 พ.ย. คุมสถานการณ์โควิด-19

นางสาสไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมเป็นประธานวันนี้ (28 ต.ค.) มีมติ ขยายระยะเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ออกไปอีก 1 เดือน จากเดิมที่จะสิ้นสุด 31 ต.ค. ไปเป็นสิ้นสุดวันที่ 30 พ.ย.2563

- "ศูนย์ข้อมูล COVID-19" รายงาน "ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19" วันนี้ ไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 13 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 3,759 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิตคงเดิมอยู่ที่ 59 ราย ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 3,561 ราย

เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 63 เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 13 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,759 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิต 59 ราย รักษาหายเพิ่ม 10 ราย รวมผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 3,561 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 139 ราย

- รองประธานหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ภาคเอกชนยังประเมินว่าการส่งออกไทยจะยังติดลบต่อเนื่องถึงไตรมาส 1 ปี 2564 และมีโอกาสติดลบ 5.5% และมีมูลค่าประมาณ 59,224 ล้านเหรียญ และยังไม่ชัดเจนว่าส่งออกรวมทั้งปี 2564 จะกลับมาเป็นบวกอีกครั้งหรือบวกได้ 4%ตามที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าไว้ หรือจะยังติดลบต่อเนื่อง โดยในปี 2563 น่าจะส่งออกติดลบ 6.5% และมีมูลค่าส่งออก 230,300 ล้านเหรียญ

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com