MTS Help Center

อัตราผลตอบแทนระยะยาวของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นแตะ 0.733% และผลตอบแทนอายุ 30 ปี ปรับขึ้นมาที่ 1.5424% จากข้อมูลยอดค้าปลีกสหรัฐฯในคืนวันศุกร์ที่ออกมาดีขึ้นเกินคาดในเดือนก.ย. ที่ระดับ 1.9% และเดิมที่อยู่ที่ 0.6% ในเดือนส.ค.

ยอดค้าปลีกที่ไม่รวมกลุ่มยานยนต์ปรับขึ้นเกินคาดแตะ 1.5% อันเป็นผลจากยอดขายเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เป็นกลุ่มสินค้าเดียวที่ติดลบ

ค่าเงินดอลลาร์ปิดอ่อนค่าลงเล็กน้อย โดยดัชนีปิด -0.1% ที่ 93.676 จุด แต่ปิดสัปดาห์ที่ผ่านมา +0.7% ซึ่งถือเป็นระดับที่ดีที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์

ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์ถูกเทขายทำกำรบางส่วน หลังจากที่แข็งค่าจากปัจจัยสนับสนุน ดังนี้

- ท่าทีที่ระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโคโรนาทั่วโลก

- การที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจน่าจะไม่เกิดขึ้นก่อนเลือกตั้ง 3 พ.ย.

- ข้อมูลค้าปลีกที่ช่วยลดความกังวลต่อกลุ่มผู้บริโภคในสหรัฐฯ

ทั้งนี้ แผนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังไม่สามารถตกลงกันได้ในการเจรจาระหว่างทีมบริการของนายทรัมป์, สมาชิกวุฒิสภาพรรครีพับลิกัน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเดโมแครต

ขณะที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เผย ยอดขาดดุลการค้าที่ทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์แตะ 3.142 ล้านล้านเหรียญ ในปีงบประมาณปีนี้ หรือเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าจากปี 2019 อันเป็นผลจากค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาลเพื่อช่วยเหลือวิกฤตไวรัสโคโรนา

นักเศรษฐศาสตร์จาก Capital Economics กล่าวว่า ยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐฯในเดือนที่แล้ว สะท้อนว่าเศรษฐกิจกำลังมีการขยายตัวได้ดีขึ้นกว่าที่คาดการณ์ในช่วงเข้าสู่ไตรมาสที่ 4 แต่ความกังวลเรื่องการหมดอายุของมาตรการช่วยเหลือคนว่างงานจะกลายมาเป็นผลเสียทางเศรษฐกิจ ประกอบกับการระบาดของไวรัสโคโรนาครั้งใหม่ที่เพิ่มขึ้น ทำให้เรายังไม่รีบที่จะปรับเพิ่มคาดการณ์จีดีพีรายปีที่น่าจะยังชะลอตัวลงแตะ 4% ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลง หลังนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศให้ภาคธุรกิจเตรียมความพร้อมในการรับมือ No-Deal Brexit