• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 16 ตุลาคม 2563

    16 ตุลาคม 2563 | Economic News
 

·         ดอลลาร์แข็งค่าต่อทำรายสัปดาห์ดีที่สุดจากภาวะการระบาดกดดันการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ค่าเงินเยนและดอลลาร์ยังปรับแข็งค่าได้อย่างต่อเนื่อง ทำรายสัปดาห์ที่ดีที่สุดของเดือน จากจำนวนยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และการที่ยังไม่มีความคืบหน้าหรือหาข้อตกลงกระตุ้นเศรษฐกิจร่วมกันได้ของสหรัฐฯ จึงทำให้นักลงทุนเข้าถือ Safe-Haven

การจำกัดการระบาดรอบใหม่ในยุโรปและอังกฤษ ยิ่งหนุนให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและทำสุงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ได้ที่บริเวณ 93.91 จุด ก่อนจะอ่อนตัวลงมาเล็กน้อยในตลาดเอเชียวันนี้

ค่าเงินเยนแข็งค่ามากสุดรอบ 2 สัปดาห์เช่นกันบริเวณ 105.24 เยน/ดอลลาร์

นักวิเคราะห์จาก ANZ Bank กล่าวว่า ตลาดมีความกังวลต่อภาวะการชะลอตัวของกิจกรรมต่างๆ หลังยอดติดเชื้อใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้น และเป็นหลักฐานที่สะท้อนถึงผลเสียไปทั่วยุโรป ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และความเสี่ยงทางด้าน เงินฝืด” ด้วย

 

·         อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับตัวลดลง ท่ามกลางเทรดเดอร์จับตาเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยอัตราผลตอบแทนอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงมาแถว 0.7290%  ขณะที่ผลตอบแทนอายุ 30 ปี ปรับลงมาที่ 1.5054%

เทรดเดอร์กำลังจับตาการเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ขณะที่ผู้อำนวยการ IMF กล่าวว่า สหรัฐฯจะมีแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่อย่างไม่ต้องสงสัย

 

·         BofA เผยนักลงทุนลดถือเงินสด แต่นำไปลงทุนประเภทต่างๆมากขึ้น

นักลงทุนทั่วโลกมีการถอนเงินสดจากกองทุนกว่า 2.6 หมื่นล้านเหรียญในสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีเม็ดเงินกว่า 1.76 หมื่นล้านเหรียญ เข้าสู่ ตลาดพันธบัตร” และอีก 8.6 พันล้านเหรียญ เข้าสู่ ตลาดหุ้น” และมีเม็ดเงินมากที่สุดเป็นครั้งที่ 3 ในการเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้ MBS

Bank of America ระบุในรายงานวิจัยว่า ภาวะ Blue Wave ที่เพิ่มขึ้นครั้งล่าสุดเป็นตัวสะท้อนต่อการเพิ่มสภาพคล่องในตลาด จากการเข้าซื้อรอบใหม่ในราคาที่สูง (Buy-the-rip) ไม่เพียงแต่เข้าซื้อในราคาที่ต่ำ (Buy-the-dip) จากทัศนคติต่อตลาดมากกว่าแนวทางการดำเนินนโยบายในอนาคต จึงสะท้อนว่านักลงทุนเชื่อว่าพรรคเดโมแครตมีโอกาสชะนะมากขึ้นในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

·         ทีมศึกษา พบว่า การใช้จ่ายในสหรัฐฯลดลง” – “การออมมีความผันผวน” จากการที่มาตรการสนับสนุนคนว่างงานสหรัฐฯหมดอายุลง


·         นักวิเคราะห์ คาด รายงานที่สหรัฐฯคว่ำบาตรบริษัท Ant Group ของจีน จะส่งผลต่อ “ภาพลักษณ์องค์กร

ความเป็นไปได้จากการที่สหรัฐฯขึ้นบัญชีดำบริษัท Ant Group ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทด้านเทคโนโลยีการเงิน (Fin Tech) ของจีน และมีสัดส่วนการถือครอง 33ของนายแจ็ค มา เจ้าของอาลีบาบา ไม่มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบครั้งใหญต่อการดำเนินธุรกิจ  

การเข้าสู่รายชื่อบริษัทที่ถูกขึ้นบัญชีดำ หรือ Entity List จะมีผลให้บรรดาบริษัทของสหรัฐฯ ต้องได้รับใบอนุญาต (License) ก่อนที่จะมีการส่งออกสินค้าไปยังบริษัทในรายชื่อกลุ่มดังกล่าว

ขณะที่ Ant Group ณ ปัจจุบันกำลังเตรียมที่จะเปิดตัวหุ้น IPO ในเซี่ยงไฮ้และฮ่องกง” ดังนั้น การคุกคามด้วยการนำบริษัทเข้าสู่บัญชีดำล่าสุดค่อนข้างส่งผลต่อเรื่องนี้อย่างมาก

ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ มองว่า การขึ้นบัญชีดำบริษัท Ant Group จะไม่ส่งผลกระทบใหญ่ต่อการดำเนินธุรกิจและการเปิดตัว แต่จะมีผลอย่างมากในแง่ความน่าเชื่อถือ ที่จะทำให้หลายๆประเทศมีท่าทีระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจร่วมกับระบบนิเวศด้านเทคโนโลยีกับจีน


 

·         จีนเปิดรับระดับหนี้ที่เพิ่มมากขึ้น หากช่วยหนุนเศรษฐกิจได้

จีนมีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในช่วงการระบาดของไวรัสโคโรนา ขณะที่ทางธนาคารกลางมีการเปิดกว้างมากขึ้นต่อระดับหนี้สินที่เพิ่มเข้ามาในระบบ มากกว่าที่จะทำการปรับลดระดับหนี้

ขณะที่ธนาคารกลางจีน มองว่าในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ การเติบโตในส่วนของการกู้ยืมอยู่ในระดับมีเสถียรภาพ

ยอดรวมระบบการเงินทางสังคม ทั้งมาตรการเสริมสินเชื่อและเศรษฐกิจ เพิ่มมากขึ้นเกือบ 3.5 ล้านล้านหยวน (5.22 แสนล้านเหรียญ) ในช่วงเดือนก.ย. รวมเป็น 280.07 ล้านล้านหยวน หรือเพิ่มขึ้น 13.5เมื่อเทียบกับปีก่อน และเป็นการปรับตัวขึ้นได้อย่างรวดเร็วกว่าที่เคยทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ไว้ที่ 12.8ในช่วงสิ้นไตรมาสที่ 2/2020

การระบาดของไวรัสโคโรนาในจีนส่งผลกระทบตั้งแต่เริ่มต้นในปีนี้ หลังจากที่ประเทศมีความพยายามในการลดระดับหนี้สินในช่วงปีที่แล้ว โดยจีนมีหนี้ครัวเรือนหนี้รัฐบาลหนี้การเงิน และหนี้ของกลุ่มที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ที่เรียกได้ว่าปรับตัวขึ้นกว่า 300ของจีดีพี หรือเกือบ 318ของจีดีพีในไตรมาสแรก ขณะที่สถาบันการเงินสากล คาดว่า อาจเห็นค่า Ratio ปรับขึ้นไปมากถึง 335ของจีดีพีในเดือนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ การเติบโตทางด้านสินเชื่อยังอยู่ระดับต่ำท่ามกลางที่เคยเกิดวิกฤตทางการเงินเมื่อปี 2007-2008  ขณะที่ทางการจีนพยายามที่จะหาวิธีที่ง่ายต่อการดำเนินงานในภาคเอกชน และภาคธุรกิจขนาดเล็กให้ได้รับเงินกู้ผ่านระบบที่คาดจะขยายได้มากขึ้น รวมทั้งบริษัทเจ้าของข้ามชาติด้วย


 

·         ออสเตรเลียพร้อมเจรจา “จีนเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้า

 

·         อียูจะขึ้นภาษีสินค้าอะลูมิเนียมจากจีน

อียูจะทำการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าประเภทอะลูมิเนียมจากประเทศจีนประมาณ 48จากข้อสงสัยในกรณีที่กลุ่มผู้ผลิตจีนมีการขายสินค้าด้วยราคาต่ำอย่างไม่เป็นธรรม

ทั้งนี้ อียูมีกรอบการพิจารณาการขึ้นภาษีชั่วคราวระหว่าง 30.4-48แสดงให้เห็นว่าอียูมีความตั้งใจที่จะก่อดำเนินการก่อนที่กระบวนการสอบสวนจะแล้วเสร็จในเดือนเม.ย. และคาดว่าอาจมีการขึ้นภาษีในระดับดังกล่าวเป็นระยะเวลา 5 ปี

 

·         รัฐมนตรีกระทรวงการคลังฝรั่งเศส หนุนอียูเก็บภาษีสหรัฐฯจากข้อพิพาทเรื่องสายการบิน Boeing ภายใต้เงื่อนไขของ WTO

 

·         ACEA เผย ยอดขายรถใหม่ของยุโรปปรับขึ้นได้ 1.1เมื่อเทียบรายปีในเดือนก.ย. สะท้อนถึงภาวะภาครถยนต์ในตลาดยุโรปที่มีการฟื้นตัวหลังจากที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา โดยล่าสุดมียอดขายที่ 1.3 ล้านคัน

 

·         รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ แสดงความผิดหวังต่ออียู แต่คาดว่าข้อตกลงการค้าจะเกิดขึ้นได้

  

·         ประเด็นร้อน Brexit: จับตานายกฯอังกฤษ ให้คำตอบอียู” หลังมีการขอเวลาเจรจาข้อตกลงการค้าต่อในวันนี้

 

·         ยอดส่งออกสิงคโปร์ปรับขึ้นน้อยกว่าคาดแตะ 5.9เมื่อเทียบรายปีในเดือนก.ย.

ยอดส่งออกที่ไม่รวมน้ำมันของสิงคโปร์ในเดือนก.ย. (NODX) ปรับขึ้น 5.9เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับแรงหนุนจากการขนส่งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่เดือนส.ค.ปรับขึ้น

 

·         สัปดาห์หน้า นายกฯญี่ปุ่นจะเดินหน้าสานสัมพันธ์เวียดนาม-อินโดนีเซีย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างจีน-สหรัฐฯ

 

·         ผลสำรวจรอยเตอร์ส ชี้ ญี่ปุ่นจำเป็นต้องมีงบพิเศษเพื่อช่วยเหลือเศรษฐกิจ

รัฐบาลญี่ปุ่นจำเป็นต้องมีการเพิ่มงบประมาณพิเศษเป็นครั้งที่ 3 สำหรับปีงบประมาณในปีนี้ที่จะสิ้นสุดในเดือนมี.ค. ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของวิกฤตไวรัสโคโรนา

ผลสำรวจนักเศรษศาสตร์กว่า 3 ใน 4 ชี้ว่า รัฐบาลควรที่จะมีการเพิ่มงบค่าใช้จ่ายมากถึง 10 ล้านล้านเยน (9.495 หมื่นล้านเหรียญ) ภายใต้งบประมาณการช่วยเหลือพิเศษ

 

·         อังกฤษเข้าใกล้ทดสอบวัคซีน Covid-19 กับกลุ่มอาสาสมัครที่ติดเชื้อ

ความท้าทายในการทดสอบกับมนุษย์” เพื่อพิสูจน์ความเป็นไปได้ของวัคซีน Covid-19 พบว่าบริษัทไบโอเทคของอังกฤษ เข้าใกล้ความเป็นจริงในการจะทดสอบกับกลุ่มอาสาสมัครที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา หลังจากที่มีการลงนามร่วมกับรัฐบาลในการสร้างและควบคุมไวรัส

 

·         เหตุผลในการชะลอการทดสอบวัคซีน Covid-19

ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ระบุว่า สัปดาห์นี้จะเห็นได้ว่ามีข่าวการชะลอทดสอบวัคซีนจาก 2 บริษัท ได้แก่ Johnson & Johnson และ Eli Lilly หลังพบปัญหาด้านความปลอดภัยและส่งผลเสียต่อผู้เข้าวร่วมการทดสอบ แต่การชะลอการทดสอบนั้นไม่เหมือนกั แต่จะเป็นการเลื่อนออกไป ไม่เพียงแต่เป็นการประเมินมุมมองของประชาชน แต่เป็นการ การปกป้องกลุ่มอาสาสมัครและการดำเนินการ

ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านโรคติดต่อจาก DSMB ระบุว่า ฝ่ายบริหารของทั้งสองบริษัทจะจับตาไปยังข้อมูลและความปลอดภัย ที่ขึ้นอยู่กับกลุ่มของผุ้เชี่ยวชาญต่างๆว่ามั่นใจมากน้อยแค่ไหนในด้านความปลอดภัยต่อผู้ร่วมทดสอบ และในทางการแพทย์อาจมีการชะลอการทดสอบได้นานตราบเท่าที่มีข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดอย่างเพียงพอ ดังนั้น การชะลอครั้งนี้จึงไม่ได้สะท้อนว่า เกิดปัญหากับวัคซีนหรือกระบวนการรักษา

 

·         ผลสำรวจจาก Reuters แสดงให้้เห็นว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นที่ 5.2% ในไตรมาสที่ จากปีก่อนหน้าซึ่งเร็วกว่าไตรมาสที่สอง 3.2% เนื่องจากผู้บริโภคกลับไปใช้บริการที่ห้างสรรพสินค้าและเจ้าของธุรกิจกลับมาเปิดดำเนินธุรกิจอีกครั้ง ซึ่งทำลายสถิติที่ตกต่ำลงเมื่อต้นปีนี้

 

·         ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง จากการกลับมาระบาดของ COVID-19 และดอลลาร์แข็งค่า

 ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในวันนี้จากความกังวลว่าการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในยุโรปและสหรัฐฯทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง ซึ่งทั้งสองภูมิภาคนี้คือผู้บริโภคน้ำมันมากที่สุดในโลก ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นก็เป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันเช่นกัน

น้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 38 เซนต์ หรือ 0.9% หรือ 42.78 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ปรับลดลง 35 เซนต์ หรือ 0.9% ที่ระดับ 40.61 เหรียญ/บาร์เรล

ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบทั้ง ชนิด ปรับลดลงเล็กน้อยจากเมื่อวาน แต่แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ที่แล้ว


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com