• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 15 ตุลาคม 2563

    15 ตุลาคม 2563 | Economic News
 


·         ดอลลาร์แข็งค่า ตลาดลดความหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

 ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นท่ามกลางยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มขึ้น ขณะที่สหรัฐฯยังไม่มีความคืบหน้าใดๆเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อตกลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้านค่าเงินออสเตรเลียปรับตัวลงทำต่ำสุดรอบ 1 สัปดาห์ หลังผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียกล่าวย้ำถึง ความเป็นไปได้ในการลดดอกเบี้ย และการเข้าซื้อพันธบัตร

 การเลื่อนทำข้อตกลงการค้าออกไปเป็นปัจจัยที่สนับสนุนดอลลาร์มาตลอดช่วง 2-3 สัปดาห์นี้ และกดดันความเชื่อมั่นนักลงทุน พร้อมๆกับหนุนให้เกิดความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่ม โดยวันนี้ดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้นมาเล็กน้อยและทรงตัวที่ 93.428 จุด

 นักกลยุทธ์จาก OCBC กล่าวว่า ณ เวลานี้ยังมีปัจจัยหนุนดอลลาร์ได้ก่อนการเลือกตั้ง แต่เราก็ไม่ควรละเลยการระวังพอร์ตหลังเลือกตั้งด้วยเช่นกัน


·         นักวิเคราะห์ คาด เงินหยวนมีแนวโน้มจะแข็งค่าต่อ แม้ว่าธนาคารกลางจีนจะหามาตรการจำกัดการแข็งค่า

บรรดานักวิเคราะห์กล่าวให้สัมภาษณ์กับทาง CNBC มองว่า ค่าเงินหยวนมีแนวโน้มจะปรับแข็งค่าขึ้นได้เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ แม้ว่าธนาคารกลางจีนจะมีการออกนโยบายเพื่อจำกัดการแข็งค่าของเงินหยวน

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า ค่าเงินหยวนมีการปรับแข็งค่าขึ้นได้ประมาณ 3.9% นับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2020 ก่อนที่ธนาคารกลางจีนจะมีการปรับปรุงกฎระเบียบในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อให้เหล่าเทรดเดอร์ลดการถือครองเงินหยวน และหลังจากที่มีการประกาศจากทางธนาคารกลางก็จะเห็นได้ว่าเงินหยวนอ่อนค่าลงมาประมาณ 3.4%


·         BlackRock มองตลาดพันธบัตรจีนเป็น “ขาขึ้น”

ผู้จัดการด้านพอร์ตการลงทุนจาก BlackRock กล่าวว่า ตลาดพันธบัตรจีนมีเม็ดเงินจำนวนมากจากกลุ่มนักลงทุนที่กลับเข้าถือครอง แต่ก็อาจยากที่จะบอกว่าจะไปได้ไกลเท่าไรเนื่องด้วยอัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับต่ำ

ขณะที่การลงทุนของบริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯยังคงเป็นมุมมอง “เชิงบวก” ต่อตลาดพันธบัตรในจีน ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆ และการสนับสนุนนโยบายทางการเงินที่ดูจะช่วยให้เศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืน

 

·         ราคาเนื้อหมูปรับขึ้น แต่ก็ยังชะลอตัวมากสุดในรอบกว่า 1 ปี

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนในเดือนก.ย. ปรับขึ้นได้เพียงเล็กน้อย ท่ามกลางราคาอาหารมีการปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่าราคาเนื้อหมูจะมีการชะลอตัวลงอย่างรุนแรง

สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน เผย ดัชนี CPI ก.ย. ขยายตัวได้ 1.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ก็ยังอยู่ต่ำกว่าคาดการณ์ที่คาดว่าจะออกมาที่ 1.8% และต่ำกว่าช่วงส.ค. ที่โตได้ 2.4%

ภาพรวมราคาอาหารยังคงปรับตัวขึ้นได้กว่า 7.9% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ราคาผักสดปรับขึ้นได้ 17.2%

ด้านราคาเนื้อหมูปรับขึ้นได้ 25.5% แต่มีอัตราการปรับขึ้นได้น้อยกว่าที่เคยสูงกว่า 100% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ในเดือนส.ค. ราคาเนื้อหมูปรับขึ้นมาได้ 52.6% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ดังนั้น ข้อมูลล่าสุดจึงเป็นการชะลอตัวลงที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2019

ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในเดือนก.ย. ของจีนนั้นปรับลงมา 2.1% แต่ก็ดีขึ้นกว่าที่มีคาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 1.8%


·         ผอ. IMF เรียกร้องเจ้าหนี้ภาคเอกชนและจีนในการเข้าร่วมการคลายหนี้เต็มรูปแบบ

นางคริสตาลินาร์ จอร์เจียฟวา ผู้อำนวยการ IMF เรียกร้องให้บรรดาเจ้าหนี้ภาคเอกชนและจีนเข้าร่วมมากขึ้นต่อการผ่อนคลายระดับหนี้สินให้แก่ประเทศที่ยากจน ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญมากสำหรับความสำเร็จ รวมทั้งความเป็นไปได้ของกรอบการดำเนินงานในการปฏิรูปโครงสร้างหนี้

 

·         กังวลประเทศแถบยุโรปพิจารณาใช้เคอร์ฟิวส์, Lockdown ท่ามกลาง “การระบาดของไวรัสโคโรนาที่พุ่งสูงต่อเนื่อง”

รายงานล่าสุดพบว่า ฝรั่งเศสมีการประกาศใช้เคอร์ฟิวส์ ในขณะที่ประเทศอื่นๆในยุโรปมีการประกาศปิดสถานศึกษาและยกเลิกการผ่าตัด รวมทั้งการขอความช่วยเหลือจากนักศึกษาแพทย์ ท่ามกลางการระบาดของไวรัสโคโรนาอย่างหนักในแถบยุโรปก่อนช่วงฤดูหนาว

ทั้งนี้ รัฐบาลส่วนใหญ่ในยุโรปมีการผ่อนคลาย Lockdown ตั้งแต่ช่วงฤดูร้อน ซึ่งส่งผลให้เห็นเศรษฐกิจเริ่มที่จะมีการฟื้นตัวหลังจากที่จบ First Wave แต่การระบาดในรอบล่าสุดดูจะกดดันทิศทางเศรษฐกิจที่กำลังเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้ง

นอกจากนี้ ความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนบางแห่งไม่ว่าจะเป็น Johnson & Johnson ก็ชะลอการทดสอบออกไปจากการพบผู้เข้าร่วมทดสอบมีอาการที่ไม่สามารถอธิบายได้ ขณะที่บริษัท AstraZeneca ในสหรัฐฯยังคงระงับการทดสอบไว้เป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว


·         อียู-อังกฤษ เผยข้อตกลงการค้า Brexit  “มีความคืบหน้า” แต่ยังดีไม่พอ

การประชุมของบรรดาผู้นำอียูในวันนี้ ดูเหมือนจะสร้างแรงกดดันเพิ่มขึ้นในแก่อังกฤษเกี่ยวกับปัญหาการเจรจาข้อตกลง Brexit โดยกล่าวว่า มูลค่าการค้านับล้านล้านยูโรอาจชะงัก หากทางอังกฤษยังไม่สามารถจัดการด้านงบประมาณสำหรับการประมง, ความยุติธรรมในด้านการแข่งขัน และการแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งได้

ตลอดช่วงระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาสำหรับการเจรจาค่อนข้างมีกรอบที่แคบลงตั้งแต่เรื่องความสัมพันธ์ด้านพลังงานและสวัสดิการทางสังคมตั้งแต่ปี 2021 หลังจากที่อังกฤษออกจากอียูอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ดี ยังคงมี “3 ประเด็นหลัก” ที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ และส่งผลให้บรรดาภาคธุรกิจและตลาดต่างๆมีความวิตกกังวลเพิ่มมากขึ้นจากความไม่แน่นอนของกฎการค้า ท่ามกลางกำหนดเส้นตายภายในสิ้นปีนี้ที่ต้องเกิดข้อตกลงร่วมกันให้ได้


·         Goldman Sachs ชี้ อาจเกิดความวุ่นวาย Brexit ก่อนมีข้อตกลงได้เพียงเล็กน้อย

Goldman Sachs ระบุว่า อาจเกิดความวุ่นวายเกี่ยวกับ Brexit ณ ที่ประชุมอียูซัมมิท แต่เชื่อว่าข้อตกลงการค้า Brexit อาจเกิดขึ้นได้แม้ว่าจะเป็นเพียงบางส่วน โดยมีแนวโน้มน่าจะเกิดได้บ้างในช่วงต้นเดือนพ.ย.


·         Wells Fargo ประกาศปลดคนงานออกกว่า 100 คน หลังปราศจากมาตรการช่วยเหลือ Covid-19

แหล่งข่าววงใน เปิดเผยว่า บริษัท Wells Fargo ประกาศจะปรับลดคนงานออกประมาณ 100 – 125 คน จากการปราศจากกองทุนเงินช่วยเหลือวิกฤตไวรัสโคโรนา


·         น้ำมันลดลงเนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มสูงขึ้นกดดันการฟื้นตัวของอุปสงค์

ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง จากการเพิ่มขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาทั่วโลกได้เพิ่มความกังวลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและความต้องการเชื้อเพลิง ประเทศในยุโรปประกาศเคอร์ฟิวส์และมารการล็อกดาว์ ท่ามกลางการยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มขึ้น ด้านอินเดียพบผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นกำลังจะแซงหน้าสหรัฐฯ  ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ป่วยจำนวนมากในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าจากการเข้าสู่ช่วงเทศกาลวันหยุดของประเทศ ซึ่งเป็นประเทศผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่อันดับสามของโลก

โดยราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลดลง 28 เซนต์ หรือ 0.7% ที่ระดับ 43.04 เหรียญ/บาร์เรล ทางด้าน น้ำมันดิบ WTI ลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.6% ที่ระดับ 40.80 เหรียญ/บาร์เรล

ทั้งนี้ สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) กล่าวเมื่อวานนี้ ว่า การติดเชื้อไวรัสโคโรนารอบสองนี้อาจทำให้ผู้ผลิตจำเป็นต้องสร้างสมดุลให้กับตลาด


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com