• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 1 ตุลาคม 2563

    1 ตุลาคม 2563 | Gold News


เดือนก.ย. ทองคำลงมากที่สุดในรอบเกือบ 4 ปี จากดอลลาร์รีบาวน์

·         ราคาทองคำปรับตัวลดลง จากการดีเบตครั้งแรกของผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯจะหนุนให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างดอลลาร์ ประกอบกับตลาดมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยเดือนนี้ทองคำปรับตัวลดลงรายเดือนที่แย่ที่สุดในรอบ 4 ปี ซึ่งปรับลดลงไปประมาณ 4% หรือนับตั้งแต่ช่วงพ.ย. ปี 2016 


·         ราคาทองคำตลาดโลกปิด -0.3% ที่ 1,892.33 เหรียญ


·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิด -0.4% ที่ 1,895.50 เหรียญ


·         หัวหน้านักกลยุทธ์จาก Blue Line Futures กล่าวว่า การดีเบตเมื่อวานนี้สร้างความผิดหวังให้แก่ตลาดการเงินต่างๆ และอาจสร้างแรงกดดันเพิ่มขึ้นแก่ทั้งสองพรรค รวมทั้งความเป็นไปได้ในการเกิดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลดลง ดังนั้นเราจึงเห็นดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น ประกอบกับสภาวะเงินฝืดที่เริ่มขึ้น จึงไม่เพียงแต่กดดันราคาทองคำ แต่ยังเป็นปัจจัยที่กดดันราคาซิลเวอร์ รวมทั้งสินค้าโภคภัณฑ์ด้วย


·         นักวิเคราะห์บางส่วน มองว่า แม้ทองคำจะถูกเทขายกลับลงมา แต่ภาพรวมในระยะกลางและระยะยาวก็ยังคงเป็นทิศทางขาขึ้น และทองคำมีการปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่องตลอดช่วง 8 ไตรมาส


·         หัวหน้าเทรดเดอร์จาก U.S. Global Investors กล่าวว่า ความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นถือเป็นเรื่องดีสำหรับทองคำ เพราะทำให้ผู้คนต้องการที่จะถือครองทองคำมากขึ้น ประกอบกับแนวโน้มที่จะเห็นการใช้นโยบายทางการเงินต่อไป รวมทั้งการใช้อัตราดอกเบี้ยระดับติดลบก็ยังเป็นปัจจัยที่สนับสนุนราคาทองคำอยู่


·         UBS ยังคงคาด เห็นทองแตะ 2,000 เหรียญได้ในช่วงสิ้นปีนี้


·         ราคาซิลเวอร์ปรับตัวลง 3% ที่ระดับ 23.55 เหรียญ ด้านแพลทินัมปรับขึ้น 1.3% ที่ 895.99 เหรียญ


·         ภาพรวมราคาซิลเวอร์เดือนก.ย. ก็ถือว่าปิดรายเดือนที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ก.ย. ปี 2011 โดยปิดลดลงประมาณ 17% ขณะที่แพลทินัมปิดเดือนแย่ที่สุดเดือนมี.ค. โดยปรับตัวลงไปกว่า 3%


·         ราคาพลาเดียมปิดทรงตัวที่ 2,309.20 เหรียญ

·         ADP เผยจ้างงานเอกชนดีกว่าคาดแตะ 749,000 ตำแหน่ง ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นในกลุ่มก่อสร้างและโรงพยาบาล

ข้อมูลจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ ถือเป็นหนึ่งปัจจัยที่หนุนค่าเงินดอลลาณ์มากที่สุด จากการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนก.ย.ประมาณ 749,000 ตำแหน่ง ขณะที่ข้อมูลในเดือนส.ค. มีการปรับทบทวนขึ้นมาที่ 481,000 ตำแหน่ง จากเดมที่ประกาศไว้ที่ 428,000 ตำแหน่ง

นักวิเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก Capital Economics กล่าวว่า แม้การจ้างงานจะออกมาแข็งแกร่ง แต่ภาวะการจ้างงานโดยองค์รวมก็ยังอยู่ต่ำกว่าช่วงก่อนการระบาด และยังมีคนว่างงานสูงกว่า 10 ล้านคน ดังนั้นสภาวะการฟื้นตัวในตลาดแรงงานของสหรัฐฯน่าจะยังต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูต่อไป

 

·         จีดีพี Q2/2020 สหรัฐฯรีบาวน์กว่าคาดการณ์เดิม โดยออกมา -31.4% โดยคาดการณ์เดิมอยู่ที่ -31.7%  แต่ภาพรวมก็ยังคงเป็นการหดตัวที่มากที่สุดนับตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลมาในปี 1947

 

·         ยอดอนุมัติรอการขายบ้านของสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในเดือนส.ค. โดยปรับขึ้น 8.8ทำ All-Time High ที่ 132.8 จุด บ่งชี้ว่ากิจกรรมในตลาดที่อยู่อาศัยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

 

·         สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯเลื่อนโหวตแพ็คเกจไวรัสโคโรนา 2.2 ล้านล้านเหรียญ โดยระบุต้องใช้เวลามากกว่านี้ในการเจรจา

นางแนนซี เพโลซี โฆษกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ล้มเหลวในการเจรจาหาข้อตกลงแพ็คเกจ Covid-19 ในการหารือร่วมกันวานนี้

 

·         มนูชิน ระบุว่า มีแผนจะเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกับเดโมแครเพิ่ม

 

·         วุฒิสภาสหรัฐฯผ่านร่างงบประมาณเลี่ยง Shutdown พร้อมยื่นทรัมป์ในการลงนามต่อไป

 

·         ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก เรียกร้องเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อบรรเทาผลกระทบจาก Covid-19

 

·         ประธานเฟดสาขาดัลลัส ชี้ อัตราดอกเบี้ยระดับต่ำใกล้ศูนย์ อาจจำเป็นต้องคงไว้นานกว่า 3 ปี เพื่อช่วยเหลือเศรษฐกิให้ฟื้นตัวได้จากวิกฤตไวรัสโคโรนา

 

·         นางมิเชล โบแมน สมาชิกบอร์ดบริหารของเฟด  ระบุว่า แม้เศรษฐกิจจะสามารถฟื้นตัวได้ แต่คนว่างงานก็ยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องเพิ่มนโยบายทางการเงินและการสนับสนุนด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

·         สถานการณ์ไวรัสโคโรนา:

ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกทะลุ 34 ล้าน โดยล่าสุดอยู่ที่ 34.147 ล้านราย ขณะที่อัตราผู้เสียชีวิตสะสมทั่วโลกยังสูงกว่า 1 ล้านราย โดยที่ฝรั่งเศสล่าสุดมียอดผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นสูงกว่า 10,000 ราย

 ·         ผู้บริหาร Moderna ไม่คาดว่า วัคซีนจะเกิดขึ้นได้ก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ผู้บริหารบริษัท Moderna ไม่คาดว่าวัคซีนสามารถได้รับอนุมัติฉุกเฉินจากองค์กรอาหารและยาของสหรัฐฯก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย. นี้ และคาดอาจจะต้องรอจนถึงประมาณปีหน้า

ทั้งนี้บริษัท Moderna ถือเป็นผู้นำการทดลองวัคซีน เช่นเดียวกับบริษัท Pfizer แต่ประธานาธิบดีก็คาดหวังว่าวัคซีนของ Moderna น่าจะมีโอกาสเป็นไปได้มากกว่า และเขาพยายามผลักดันให้เกิดวัคซีนได้เร็วที่สุดภายในเดือนต.ค.นี้ เพื่อให้สามารถผลิตวัคซีนได้หลายล้านโดสสำหรับชาวอเมริกาในเดือนเม.ย.

 

·         ตลาดผิดหวังดีเบตประธานาธิบดีสหรัฐฯครั้งแรก คาดดีเบตรอบหน้าอาจมีการปิดไมค์

สำหนักข่าว NBC News รายงานว่า คณะกรรมาธิการในการจัดดีเบตประธานาธิบดีสหรัฐฯกำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนรูปแบบการดีเบตผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐฯในครั้งต่อไป หลังจากที่การดีเบตของนายทรัมป์ กับนายไบเดนวานนี้ มีการพูดจาประชดประชัน ส่อเสียดกันไปมามากเกินควร

โดยคณะกรรมาธิการอาจตัดสินใจอนุญาตให้มีการปิดไมค์ของผู้ลงสมัครในการดีเบตครั้งต่อไปหากพวกเขามีละเมิดกฎในการปราศรัย


อย่างไรก็ดี สิ่งเดียวที่ดูเหมือนทั้งสองฝ่ายจะเห็นพ้องกันในการดีเบตวานนี้ เป็นเรื่องการสนับสนุนการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า

 

 อ่านข่าวอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่: www.mtsgold.co.th

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com