MTS Help Center

· ดอลลาร์แข็งค่าจากังวลไวรัสโคโรนา, ด้านออสซี่,กีวี่ได้รับผลกระทบจากแนวโน้มดอกเบี้ย

ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น เพราะได้รับแรงหนุนเชิงบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และความกังวลเกี่ยวกับ Second Wave ที่กำลังระบาดในยุโรปและอังกฤษ

ค่าเงินของประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ถูกกดดันจากธนาคารกลางต่างๆมีท่าทีผ่อนคลายทางการเงิน โดยค่าเงินออสเตรเลียดอลลาร์ทำต่ำสุดรอบ 6 สัปดาห์ จากการที่ RBA อาจจะทำการลดดอกเบี้ยลงในเดือนหน้า

ด้านค่าเงินกีวี ของประเทศนิวซีแลนด์อ่อนค่าลงท่ามกลางปริมาณการซื้อขายปานกลาง หลังจากที่ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ยังคงนโยบาย แต่มีการตอกย้ำถึงการจะผ่อนคลายทางการเงินต่อไปเพื่อสนับสนุนทางเศรษฐกิจ

ค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มจะปรับแข็งค่าขึ้นได้อีกครั้งในระยะสั้นๆ จากการระบาดของไวรัสโคโรนาในยุโรป แต่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯก็อาจส่งผลให้เกิดการแกว่งตัวอย่างผันผวนได้

ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าต่อมาที่ 94.197 จุด ทำสูงสุดรอบ 2 เดือน

ความเชื่อมั่นในยุโรปค่อยๆอ่อนกำลังลงจากความกังวลที่เพิ่มมากขึ้น จากการระบาดของไวรัสโคโรนารอบใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาทิ ฝรั่งเศส และสเปน ที่ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงที่จะมีการ Lockdown มากขึ้น

หลายๆประเทศในยูโรโซนยังคงมีการจำกัดการเดินทาง และมีการบังคับให้ลดจำนวนการให้บริการผู้โดยสารทางอากาศ หลังมีการติดเชื้อไวรัสเพิ่มมากขึ้น

บรรดาเทรดเดอร์ในค่าเงินปอนด์ และยูโร ยังกังวลกับการที่อังกฤษและอียู ดูจะล้มเหลวในการหาข้อตกลงการค้าเสรีร่วมกัน ที่อาจส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจเพิ่ม

ยูโรอ่อนค่ามาที่ 1.1675 ดอลลาร์/ยูโร ถือเป็นอ่อนค่ามากสุดตั้งแต่ 27 ก.ค.

เงินปอนด์อ่อนค่าที่ 1.2721 ดอลลาร์/ยูโร ใกล้ระดับอ่อนค่ามากสุดตั้งแต่ช่วงปลายเดือนก.ค. หลังจากที่นายบอริส จอห์นสัน เปิดเผยการใช้มาตรการคุมเข้มครั้งใหม่ต่อกิจกรรมทางภาคธุรกิจ อันเนื่องจาก Second Wave

ค่าเงินเยนอ่อนค่ามาที่ 105.98 เยน/ดอลลาร์

· ทำเนียบขาว เรียกร้องให้คองเกรสผ่านร่างช่วยเหลือสายการบิน หลังจากที่ยังคงล้มเหลวในการหาข้อตกลงแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ

· ผลสำรวจล่าสุดจาก Reuters (Ipsos Poll) สะท้อนถึงความนิยมในไบเดนนำทรัมป์ ในรัฐมิชิแกนและรัฐนอร์ทแคโรไลนา

รัฐมิชิแกน:

นายไบเดน ยังคงนำ นายทรัมป์ ที่ 49% ต่อ 44% เนื่องจากส่วนใหญ่มองว่านายไบเดนน่าจะจัดการกับการระบาดของไวรัสโคโรนาได้ดีกว่านายทรัมป์ แต่มุมมองบางส่วนก็เชื่อว่านายทรัมป์จะจัดการกับทิศทางเศรษฐกิจได้ดีกว่า

รัฐนอร์ทแคโรไลนา

นายไบเดน เสมอ นายทรัมป์ที่ 47% เท่ากัน แต่ภาพรวมด้านการจัดการกับเศรษฐกิจส่วนใหญ่เชื่อว่านายทรัมป์จัดการได้ดีกว่า แต่หากเป็นการรับมือกับไวรัสโคโรนาก็ยังมีคนมองว่านายไบเดนน่าจะรับมือได้ดีกว่า

· สมาชิกอีซีบี เผย จีดีพียูโรโซนและแนวโน้มเงินเฟ้อทรงตัว

สมาชิกบอร์ดบริหารอีซีบี กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซนยังไม่ได้ถูกทำลายไป นับตั้งแต่ที่อีซีบีได้ตัดสินใจคงนโยบายในการประชุมช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

· เศรษฐกิจยูโรโซนชะลอตัวก.ย. จากการระบาดที่เพิ่มขึ้น

กิจกรรมภาคธุรกิจของยูโรโซนได้รับผลกระทบในเดือนก.ย. ท่ามกลางหลายๆประเทศที่ประสบปัญหา Second Wave

ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อและการระบาดของยุโรป เผยข้อมูลล่าสุดวันที่ 22 ก.ย. โดยระบุว่า ในยุโรปมีผู้ติดเชื้อสะสมที่ 2.9 ล้านราย ซึ่งประเทศฝรั่งเศสและสเปนดูจะมีแนวโน้มการติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นเหนือ 10,000 ราย ประกอบกับรัฐบาลหลายๆรัฐจะทำการประกาศใช้มาตรการคุมเข้มรอบใหม่

ด้านนักเศรษฐศาสตร์ต่างๆ เริ่มกลับมาพิจารณาถึงแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจอันเนื่องจากการใช้มาตรการรอบใหม่ดังกล่าว

นักเศรษฐศาสตร์จาก IHS Markit กล่าวว่า การระบาดของไวรัสโคโรนาที่เพิ่มขึ้นในฝรั่งเศสตลอดเดือนก.ย. ดูจะเป็นตัวอธิบายได้ว่าทำไมกิจกรรมทางภาคธุรกิจจึงปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค. รวมทั้งการปรับตัวลงในภาคอุตสาหกรรมการบริการที่ยังไม่สามารถช่วยชดเชยกับภาวะผลผลิตภาคการผลิตได้ จึงทำให้ภาพรวมของดัชนี PMI ยุโรปร่วงลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน

· Credit Suisse คาด เยนอาจแข็งค่าต่อเมื่อเทียบดอลลาร์

นักกลยุทธ์จาก Credit Suisse คาดการณ์ว่า ค่าเงินเยนมีแนวโน้มแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์ในระยะยาว โดยอาจเห็นเยนปรับตัวลงต่อที่ 100 จุด

ค่าเงินเยน ณ ปัจจุบันเคลื่อนไหวแถว 105.16 เยน/ดอลลาร์ แต่หากต่ำกว่า 104.4 เยน/ดอลลาร์

ทั้งนี้ ภาพรวมบีโอเจดูจะไม่เร่งผ่อนคลายทางการเงินรวดเร็วเหมือนเฟด ซึ่งจะเห็นได้ว่าค่าเงินจะมีความสัมพันธ์กับการดำเนินนโยบายทางการเงิน และหากเป็นตามที่ประเมินก็จะเห็นเยนแข็งค่าได้

· คุโรดะ ชี้ บีโอเจ จะยังไม่ปล่อยค่าเงินดิจิทัล "CBDC"

บีโอเจจะทำการจับตาการดำเนินการของธนาคารกลางต่างๆทั่วประเทศอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับทิศทางอนาคตของค่าเงินดิจิทัล ซึ่งบีโอเจก็ยังไม่มีแผนใดๆ เกี่ยวกับการปล่อยค่าเงินดิจิทัล CBDC ของบีโอเจในเวลานี้

· บีโอเจคงการผ่อนคลายทางการเงินต่อ พร้อมเตือนถึงความเสี่ยงในระดับสูง

นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการบีโอเจ กล่าวว่า ธนาคารกลางพร้อมที่จะเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ท่ามกลางการระบาดของไวรัสโคโรนาที่ยังคงส่งผลให้แนวโน้มทางเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนในระดับสูง รวมทั้งเงื่อนไขทางการเงินด้วย

นอกจากนี้ เรายังควรจับตาผลกระทบจากการเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการเพิ่มมาตรการหากจำเป็น

· PMI กิจกรรมการผลิตญี่ปุ่นชะลอตัวตามผลผลิตที่ปรับตัวลง

กิจกรรมภาคโรงงานอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นยังคงขยายตัวลงได้ในเดือนก.ย. ท่ามกลางผลผลิตที่ลดลง จึงสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจของญี่ปุ่นชะลอตัวเพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤตไวรัสโคโรนา

The au Jibun Bank เผยข้อมูลดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นต้นของญี่ปุ่นในเดือนก.ย. ยังคงทรงตัวที่ 47.3 จุด เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 47.2 จุด

· นายกฯญี่ปุ่น ต้องการเริ่มนโยบายด้านดิจิทัลใหม่ในช่วงสิ้นปีนี้

นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า เขาต้องการที่จะปรับนโยบายหน่วยงานดิจิทัลใหม่ภายในสิ้นปีนี้ รวมทั้งการเสนองบปีหน้าต่อรัฐสภาญี่ปุ่นด้วย

· Asahi รายงาน ญี่ปุ่นคลายมาตรการเข้าประเทศ แต่ยังไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศ

สำนักข่าง Asahi รายงานว่า ญี่ปุ่นกำลังพิจารณาอนุมัติให้ต่างชาติเดินทางเข้าประเทศและอยู่ภายในประเทศได้นานขึ้น โดยจะเริ่มผ่อนคลายกฎดังกล่าวในช่วงเริ่มต้นเดือนหน้า แต่ก็ยังมีการใช้มาตรการจำกัดการเข้าประเทศสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวอยู่

· นายกฯแคนาดาจะทำการเผยแผนช่วยเหลือเศรษฐกิจจากไวรัสโคโรนาเพิ่มเติม

ในวันนี้ นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา จะทำการเปิดเผยแผนการช่วยเหลือเศรษฐกิจจากวิกฤตไวรัสโคโรนา ท่ามกลางความพยายามต่อสู้กับการระบาดที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

· ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ คงดอกเบี้ย แต่ย้ำถึงแนวทางการผ่อนคลายทางการเงิน

ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ มีการประกาศคงดอกเบี้ยในระดับต่ำประวัติการณ์ที่ 0.25% ตามคาด แต่มีการส่งสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินต่อ พร้อมกล่าวเตือนว่าเศรษฐกิจอาจจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนเป็นเวลานานจากการระบาดของไวรัสโคโรนาที่เกิดขึ้น

· ข้อมูลค้าปลีกออสเตรเลียขั้นต้นดิ่ง -4.2% ในเดือนส.ค. จากรัฐวิคทอเรียที่ชะลอหนัก

ข้อมูลยอดค้าปลีกออสเตรเลียเดือนส.ค. ออกมา -4.2% ท่ามกลางรัฐวิคทอเรีย ที่เป็นเมืองหลวงสำคัญของประเทศที่กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของไวรัสโคโรนา ที่ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมทั่วพื้นที่ปรับตัวลงอย่างมาก ยกเว้นแค่เพียงหมวดอาหาร จากภาวะ Lockdown

สถาบันสถิติแห่งชาติ (ABS) แสดงให้เห็นว่าข้อมูลค้าปลีกที่ไม่รวมรัฐวิคทอเรียปรับตัวลดลง -1.5% ในเดือนส.ค.

· Westpac คาด ธนาคารกลางออสเตรเลียจะผ่อนคลายนโยบายการเงินในเดือนต.ค.

นักเศรษฐศาสตร์จาก Westpac คาดว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียจะทำการปรับลดดอกเบี้ย และกำหนดเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 3 ปี อยู่ที่ระดับ 0.1% ในการประชุมวันที่ 6 ต.ค. (ปัจจุบัน 0.25%)

· เงินฝืดสิงคโปร์ขยายตัวต่อเนื่องเดือนที่ 7

ภาพรวมเงินฝืดในสิงคโปร์ยังขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ในเดือนส.ค. หลังจากที่ดัชนีราคามีการปรับตัวลงประมาณ -0.3% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี

ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจสิงคโปร์กำลังต่อสู้กับภาวะชะลอตัวมากที่สุดจากภาวการณ์ระบาดของไวรัสโคโรนา พร้อมกับคาดว่าเงินเฟ้อของสิงคโปร์จะอยู่ระหว่าง -1% และ 0% ในปี 2020

· ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในอินเดียพุ่งขึ้นอีกครั้งหลังจากลดลง โดยภายในช่วง 24 ชั่วโมง มียอดติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 83,347 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสมรวม 1,085 ราย

· น้ำมันร่วงลงหลังจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิด

น้ำมันดิบปรับลดลงมากว่า 1% หลังจากที่รายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯปรับเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิด เพิ่มเกิดความกังวลเกี่ยวกับความต้องการเชื้อเพลิงทำให้เกิดการเทขายอย่างมากในช่วงต้นสัปดาห์

น้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 33 เซนต์ หรือประมาณ 0.8% ที่ระดับ 41.39 เหรียญ/บาร์เรล และก่อนหน้านี้ที่ลดลงมากถึง 1.2% ที่ระดับ 40.21 เหรียญ/บาร์เรล

น้ำมันดิบ WTI ปรับลดลง 40 เซนต์ หรือประมาณ 1% ที่ระดับ 39.40 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ลดลงมากถึง 1.4% ที่ระดับ 39.26 เหรียญ/บาร์เรล

โดยที่ทั้งสองสัญญาลดลงมากกว่า 4% ในวันจันทร์ ซึ่งมากที่สุดในรอบสัปดาห์ ถึงแม้ว่าในวันอังคารจะมีการปรับเพิ่มขึ้นก็ตาม